The Not Company นิยามใหม่ "เมื่อนมไม่ต้องมาจากแม่วัว"
ถ้าให้ทุกคนนึกถึงภาพโรงงาน หรือแห่งผลิตนมสดคุณภาพดี เราคงจินตนาการ ทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา มีแม่วัวพันธ์ดียืนเล็มหญ้าอย่างสบายใจ
แต่ถ้าผมบอกว่าโรงงานผลิตนมสดแห่งนี้มีแต่ ถั่ว สับปะรด กระหล่ำปลี แต่ผลิตน้ำนมคุณภาพดี เป็นไปได้ไง? วันนี้จะพาไปดูกัน
1) เมื่อต้นทางของอาหารเปลี่ยนไป?
การเติบโตของตลาดอาหารทางเลือกซึ่งมีมูลค่าหลายหมื่นล้านนั้น ทำให้มีบริษัทมากมายนำสินค้าที่ให้โปรตีนโดยมีกระบวนการผลิตที่ทำจากพืช หรือการสังเคราะห์เนื้อเยื่อจากเซลล์ต้นแบบมากมาย อาหารที่เราเห็นจึงมีต้นทางหลากหลายขึ้นกว่าเดิม
แต่หลายๆทางเลือกก็ยังพบกับปัญหาความคุ้นชินของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรส กลิ่น สัมผัส ถึงแม้จะให้คุณค่าทางอาหารได้เหมือนกับต้นฉบับ
นี้จะเป็นจุดเริ่มของ the not company ที่ใช้ความรู้ของ data science มาใช้ในการสร้างอาหารจากพืช เพื่อเปลี่ยนมุมมองของห่วงโซ่อาหารโลก
2) มองปัญหาในมุมที่ต่าง
ถึงแม้โปรตีนที่ได้จากพืช ได้รับความนิยมกว้างขวางขึ้น มีบริษัทนวัตกรรมหลายแห่ง นำเสมอสินค้าที่ทำเนื้อเทียม มากมาย
แต่ ผู้ก่อตั้งบริษัท Muchnick พบว่าโปรตีนทางเลือกยังมีรสชาติและสัมผัส (texture) ไม่เหมือนกับโปรตีนที่ได้จากสัตว์จริงๆ เมื่อเค้าไปเรียนที่ UC Berkeley จึงนำองค์ความรู้ในการพัฒนายา คือการใช้ data science มาวิเคราะห์ส่วนประกอบเพื่อให้ได้ยาที่ต้องการ แต่เปลี่ยนเป็นให้ได้โปรตีนที่มีลักษณะใกล้เคียงจากสัตว์มากที่สุด
สิ่งที่ Muchnick มองหาคือการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่เกี่ยวหับพืช มาสร้างโปรตีนให้ได้เหมือนจากสัตว์มากที่สุด เค้าจึงออกค้นหาทีมงานที่มีประสบการณ์หลากหลาย เข่น เพื่อนที่เป็นนักดาราศาสตร์จากฮาวาร์ด และนักพันธุศาสตร์พืชจาก UC David นั้นคือจุดตั้งต้นของ The Not Company
ผู้ก่อตั้งบริษัท ในห้องทดลองของพวกเค้า cr. fastcompany
3) ทำยังไง? นมไม่ได้มาจากแม่วัว
The not company ในระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชื่อ Giuseppeในการทำแผนที่เชื่อมโยงคุณลักษณะต่างๆของพืชทั้ง สี รสชาติ ลักษณะของลิ้นสัมผัส โดยมีข้อมูลพืชมากกว่า 7000 ชนิด
หลังจากนั้น Giuseppe ก็จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลว่า ถ้าอยากได้ของเหลวที่มีสี รส สัมผัส เหมือนนม ต้องใช้อะไรผสมกัน ในสัดส่วนเท่าไร เพื่อให้ทาง the Not company นำไปทดลองกับลูกค้า เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่ลูกค้าชื่นชอบที่สุด
....
แล้วนมของ the not company ทำจากอะไรบ้าง??
ส่วนผสมในนมก็คือ มะพร้าว (ให้สีและสัมผัส) สับปะรดและผักกาด (ให้กลิ่นและรส) chicory fiber (ให้ความหวานและเส้นใย) ถั่ว (ให้โปรตีน)
cr. thenotco
....
โดยบริษัทไม่ได้จำกัดแต่ที่เป็นของเหลวหรือของที่เกี่ยวกับนมอย่าง มายองเนส หรือไอศกรีมเท่านั้น บริษัทยังวางแผนที่จะพัฒนาสินค้าในกลุ่มอื่นๆ เช่นไส้กรอก เนื้อสำหรับเบอเกอร์
มายองเนสของ the not company นั้นสามารถเข้าสู่ตลาดได้ดีที่เดียว โดยปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาทต่อปี (ประมาณ 10% ของมูลค่าตลาดมายองเนสในชิลี - ไม่น่าเชื่อว่า ชิลี เป็นประเทศที่บริโภคมายองเนสใหญ่เป็นบริษัทที่สามของโลก)
4) การเติบโตที่ Jeff Bezos ยังมอง!!
แม้จะมีผู้เล่นในตลาดโปรตีนจากพืชมากมาย เจ้าของซึ่งมีซุปเปอร์มาเก็ตอย่าง Wholefood และ Amazon GO อยู่ในมือยังได้มาลงทุนใน the not company ในระดมทุนรอบล่าสุดด้วย (ได้เงินลงทุนไปกว่า 1,500 ล้านบาททีเดียว)
โลกที่กระบวนการผลิตอาหารเริ่มเปลี่ยนไป การนำองค์ความรู้จากด้านหนึ่งมาต่อยอดสู่อีกอุตสาหกรรมหนึ่ง ทำให้นวัตกรรมอาการจาก the not company ดูน่าตื่นเต้น และชวนติดตามว่าพวกเค้าจะสามารถสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาได้อีก
ความหวังของไทยที่จะเป็นครัวโลก จึงต้องอย่าลืมมองการนำเทคโนโลยีมาร่วมใช้ เพื่อให้เราสามารถแข่งขันกับบริษัทเหล่านี้ได้นะครับ
The Not Company is looking to start a food revolution from ChileTechcrunch.com, 29 July, 2018
How vegan mayonnaise convinced Jeff Bezos to make his first investment in South America, fastcompany.com, 3 March, 2019
- 93
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
