23 มิ.ย. 2020 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #สัญญาครั้งสุดท้าย ? ]
24 มิถุนายนนี้ ลิโอเนล เมสซี่ จะมีอายุครบ 33 ปีเต็ม
เขารับใช้บาร์เซโลน่าชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2004 รวมแล้ว 16 ปีเต็ม กวาดความสำเร็จมากมายจนแทบนับไม่หวาดไหว ทั้งส่วนตัวและระดับสโมสร
อาจมีปมด้อยบ้างตรงเรื่องเล่นให้ทีมชาติ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นเลวร้ายซะเลยทีเดียว ต้องยอมรับว่ามีตัวแปรบางอย่างที่เกินกว่าจะควบคุมได้เป็นอุปสรรคอยู่
ถึงตรงนี้ เมสซี่ ทำไปแล้ว 629 ประตูจาก 721 เกมที่สวมยูนิฟอร์มบาร์ซ่าลงสนาม เป็นผลงานที่มหัศจรรย์มากๆ กลายเป็นนักเตะที่ยักษ์ใหญ่แห่งกาตาลันหวงแหนสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
เปรียบเป็นไข่ในหินยังน้อยไปด้วยซ้ำ ไม่ว่ายุคสมัยใดบาร์เซโลน่าไม่เคยมีแผนคิดจะปล่อย เมสซี่ เลยสักครั้ง เพราะรู้ดีว่านี่คือเสาหลักต้นใหญ่ที่คอยประคับประคองสโมสรมาตลอด
เมสซี่ เองก็ผูกพันและซึ้งน้ำใจที่บาร์ซ่าเคยช่วยเหลือตั้งแต่เด็กๆ เพราะค่าใช้จ่ายรักษาฮอร์โมนการเจริญเติบโตในร่างกายผิดปกติไม่ใช่น้อยๆ
เขาต้องฉีดยาที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะ ครอบครัวเองก็ไม่มีกำลังมากพอ เช่นเดียวกับนีเวลส์ โอลด์ บอยส์ต้นสังกัดแรกในวัยเยาว์ ตกแล้วประมาณเดือนละ 1,000 ดอลลาร์ ย้อนกลับไป 20 กว่าปีก่อนมันสูงมากๆ
หากไม่ได้รับการรักษาให้ทันเวลา ร่างกายของเขาจะเล็กแกร็นผิดปกติ โอกาสจะได้เป็นแข้งอาชีพมืดมิด ต่อให้พระเจ้าประทานพรสวรรค์มาให้ก็ตาม
เขาต้องฉีดฮอร์โมนตั้งแต่ 8 ขวบ โดยแม่เป็นคนจัดการให้ กระทั่งอายุ 12 ก็ช่วยเหลือตัวเองได้
มันเป็นอย่างนี้ทุกคืนก่อนนอน จนกลายเป็นความเคยชินไม่รู้สึกเจ็บจากการมีเข็มเล็กๆทิ่มเข้าที่ผิวหนังอีกต่อไป
จาก 8-14 ขวบ รวมแล้ว 6 ปีเต็มๆกับการเยียวยา กระทั่งหายขาดเป็นปกติ ก่อนจะได้บินมาสู่ลามาเซียศูนย์ฝึกของบาร์เซโลน่า
แต่ไม่ได้หมายความว่ามาแล้วเจ้าหนูเมสซี่จะปรับตัวได้เลย เขาเงียบขรึมแทบจะนับคำพูดได้ในแต่ละครั้ง หน้าตาก็นิ่งยากจะคาดเดาอารมณ์หรือความรู้สึก
นอกจากนี้ยังมักแปลกแยกจากเพื่อนฝูง ไม่ค่อยยอมทำกิจกรรมร่วมกับคนเยอะๆ จนโค้ชทีมเยาวชนต้องทำรายงานถึงพ่อแม่บ่อยครั้ง
แรกทีเดียวมีความคิดที่จะปล่อยตัวไป ประเมินแล้วว่าความสัมพันธ์กับผู้อื่น อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมต่างๆได้
อย่างไรก็ตามฟอร์มอันร้อนแรง เลี้ยงหลบคู่แข่งหลุดเข้าไปยิงประตูง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ยังไงบาร์เซโลน่าก็ต้องเก็บไว้ ไม่มีทางเป็นอื่นได้เลย
แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด กุนซือชุดใหญ่ของบาร์ซ่า บอกเลยว่าไม่เคยเห็นนักเตะดาวรุ่งคนไหนเล่นด้วยความตื่นตามหัศจรรย์เช่นนี้มาก่อน
เขาอาจไม่เคยเห็น ดีเอโก้ มาราโดน่า ในวัยเดียวกันมากนัก แต่เชื่อว่า เมสซี่ ทำได้เท่าหรืออาจเหนือกว่าด้วยซ้ำ
ดังนั้นทางแก้ไม่ใช่ผลักนักเตะฝีเท้าแบบนี้ออกจากทีม แต่คือหาวิธีทำอย่างไรก็ได้ให้ เมสซี่ มีชีวิตปกติ กล้าแสดงออกหรือปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น
รวมทั้งทำความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมทุกคน ห้ามบูลลี่เด็ดขาด ทั้งเรื่องตัวเล็กและไม่ค่อยพูด จนถูกล้อว่าเป็นใบ้
ความช่วยเหลือเจือจานทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายฮอร์โมนกระตุ้นการเติบโตหรือหาทางให้เติบโตมาแบบปกติ เหมือนเป็นการฉีดความซื่อสัตย์ภักดีใส่เข้าไป
เมสซี่ เองจึงไม่มีความคิดย้ายไปไหนเช่นเดียวกัน แต่ลำพังแค่ลอยัลตี้อย่างเดียวไม่พอแน่นอน
เมสซี่ มอบหมายให้ ฮอร์เก้ พ่อของเขาเป็นเอเยนต์หรือผู้ดูแลหลัก ส่วนคนอื่นๆนั้นเป็นตัวประกอบช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย อาจจ้างเป็นกรณีพิเศษตามแต่สถานการณ์
เหตุผลที่ให้พ่อเข้ามาจัดการ นอกเหนือจากรักษาผลประโยชน์แบบเต็มหน่วยแล้ว เขายังไม่ชอบความวุ่นวายด้วย ขี้เกียจต้องรับสายเอเยนต์ทุกๆชั่วโมง ฉะนั้นทางออกนี้จึงดีสุด
ต่อให้โทรมาถี่ยิบ แต่เมื่อต้นสายเป็นพ่อก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนัก
นับตั้งแต่ขึ้นชุดใหญ่บาร์ซ่าพร้อมผลงานที่เร่าร้อนเขย่าโลกฟุตบอล มีการขยายและปรับสัญญาของ เมสซี่ เกือบ 10 ครั้งด้วยกัน
ทุกครั้ง เมสซี่ ล้วนแต่กุมความได้เปรียบเสมอ เป็นฝ่ายต่อรองตามที่ต้องการ ทุกอย่างประจักษ์แล้วจากผลงาน ไม่ต้องพูดอะไรมากให้เสียเวลา
ขนาดบุคลิกยังเหมือนเดิม เงียบเชียบไม่ค่อยเอ่ยปากพูดกับใคร แต่รายได้ยังหลั่งไหลมาจากทุกทิศทาง
ในสัญญาของ เมสซี่ นอกจากมีการระบุค่าจ้างต่างหากแล้ว ยังมีส่วนของค่าลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ ซึ่งจะคิดจากความเหมาะสมจากการที่สโมสรได้ผลประโยชน์จากชื่อเสียงนักเตะ
นอกจากนี้ยังมีโบนัสซึ่งภายหลังคิดเป็นจำนวนนัดที่ลงเล่น จำนวนที่ชนะ ประตูที่ยิงได้และแอสซิสต์
ขณะเดียวกันบางเคสยังไม่มีการเปิดเผยอีกด้วย นอกจากเป็นเรื่องส่วนตัวควรปกปิดเป็นความลับ ยังมีผลต่อการจ่ายภาษีประจำปีอีกต่างหาก
แต่ตัวเลขที่สื่อบางแห่งไปหามาได้นั้น ค่าจ้างสำหรับการเล่นบอลเพียวๆตามปกติน่าจะอยู่ที่ราว 500,000 - 550,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
อย่างไรก็ตามรายได้ทั้งปีจะตกที่ 60 ล้านปอนด์ หากคิดเป็นสัปดาห์คือ 1,200,000 ปอนด์ด้วยกัน นี่คือทั้งหมดที่ได้รับจากบาร์เซโลน่า ไม่เกี่ยวข้องกับพรีเซนเตอร์หรือโฆษณาผ่านทางโซเชี่ยลมีเดียส่วนตัว
บาร์ซ่าพยายามทำทุกวิถีทางที่จะล้อมคอก เมสซี่ เอาไว้ ประเคนทั้งเงิน ทั้งให้เกียรติทุกอย่าง แม้กระทั่งเป็นกัปตันทีม ทั้งที่คุณสมบัติอาจไม่ตรงสเป็คด้วยซ้ำ
ถ้าไม่นับความอาวุโสขึ้นชุดใหญ่ต่อเนื่องยาวนานถึง 16 ปีแล้ว แทบไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่าเหมาะสม ยิ่งการพูดน้อยสงวนปากคำยิ่งผิดวิสัยคนที่มีปลอกกัปตันรัดต้นแขน
ไม่มีแอ็คติ้งกระตุ้นใดๆ ยามตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน แล้วเขาไม่อาจเค้นความสามารถเฉพาะตัวมาช่วยทีมได้ แสดงท่าทางสารภาพ มันฟ้องชัดเจนอยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังตั้งค่าฉีกสัญญาไว้ที่ 750 ล้านยูโร หากใครอยากได้จริงจ่ายมาในราคานี้ ซึ่งมันไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาดในช่วงเวลาอีก 10 ปี
กระนั้น เมสซี่ เองไม่ยอมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบง่ายๆ สัญญาฉบับปัจจุบันที่จะหมดลงในปี 2021 ทางบาร์เซโลน่าจะเจรจาขอขยายอีก 2 ปีไปจนถึง 2023 โดยจ่ายค่าจ้างเท่าเดิมทุกอย่าง
เรื่องเงินคงไม่ใช่ประเด็นหรือปัญหาอีกแล้ว แต่เงื่อนไขของ เมสซี่ คือสามารถยกเลิกสัญญาได้ในทุกๆซัมเมอร์
หมายความว่าหากเขาต้องการย้ายไปเล่นกับสโมสรใหม่ อาจจะเป็นการหวนรำลึกความหลังกับนีเวลล์ โอลด์ บอยส์ก่อนรีไทร์ ก็จะใช้ช่องว่างตรงนี้แหล่ะจัดการ
ถึงที่สุดแล้วต่อให้คนเราผูกพัน มีหนี้บุญคุณกันมากแค่ไหน ก็ต้องเลือกชีวิตตัวเองไว้ก่อน
เคสของ เมสซี่ ที่ผูกเงื่อนไขเอาไว้ก็เช่นเดียวกัน เพื่อบอกว่าบาร์ซ่าไม่ได้เป็นผู้ครอบครองอย่างแท้จริง ต่อให้สโมสรทั้งรัก เทิดทูนและพร้อมสนับสนุนทุกวิถีทางก็ตาม
ในทางกลับกัน เมสซี่ ก็ได้ตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อ ความสำเร็จมากมายที่หลั่งไหลเข้ามา รวมไปถึงช่วยสร้างชื่อเสียงยกระดับให้ทีมคงเบอร์ต้นๆของโลกจากตัวของเขา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นดีแล้ว
1
ดังนั้นหากจะมาทวงบุญคุณกันคงไม่ใช่ มันเกิดขึ้นตามกลไก ที่ต่างฝ่ายต้องพึ่งพาอาศัยกัน
แฟนบอลบาร์ซ่าหรือคนอื่นๆ อาจเชื่อว่า เมสซี่ เตรียมพร้อมรีไทร์กับสโมสร เป็นวันคลับแมนอันสมบูรณ์แบบ ไม่มีอะไรมาแปดเปื้อน
แต่นักเตะนั่นแหล่ะรู้ดีที่สุดว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิต ซึ่งเขาควรเขียนกำหนดด้วยตัวเอง
อย่างน้อยหากมันผิดพลาด จะได้ไม่ต้องตีโพยตีพายโทษคนอื่นภายหลัง
บทความย้อนหลังที่น่าสนใจ
[ #ชัยชนะเหนือชะตากรรม ] : หากคุณคือเด็กหนุ่มที่่เต็มไปด้วยพลังแห่งความฝัน ว่าต้องก้าวไปถึงนักเตะอาชีพที่ประสบความสำเร็จให้จงได้ แต่ชีวิตกลับโหดร้ายโดนปฏิเสธมานับสิบสโมสร รับรองว่าจะ
ต้องยอมก้มหัวให้กับชะตากรรมอย่างแน่นอน ทว่า ริชาร์ลิซอน ไม่ยอมง่ายๆ เขาลุกขึ้นมาจนกระทั่งสัญญาว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ปัจจุบันเขาได้รับรางวัลตอบแทนจากทุกอย่างเหงื่อและเลือดนักสู้แล้ว
[ #3เดือนแห่งความทรงจำ ] : ช่วงเวลาเกือบๆ 3 เดือนที่ เฮนริค ลาร์สสัน สวมเสื้อแมนฯยูไนเต็ด มันอาจจะแค่ระยะสั้นๆแต่นั่นคือหนึ่งในความทรงจำที่สำคัญต่อชีวิตการค้าแข้ง โดยที่ไม่ต้องมีเหรียญ
รางวัลมาย้ำเตือนรำลึกความหลังเลย เพราะภาพจำเวลานั้นยังแจ่มชัดเสมอ
[ #โตมาอย่างมีคุณภาพ ] : ทุกวันนี้เราเห็นดาวรุ่งหลายคนก้าวขึ้นมาประดับวงการ แน่นอนพวกเขาย่อมถูกคาดหมายจะต้องยิ่งใหญ่ในอนาคต แต่อย่าลืมว่ากว่าจะไปถึงเส้นชัยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อย่างไรก็
ตาม ไค ฮาแวร์ทซ์ มีโอกาสมากกว่าใครที่จะกลายเป็นดาวจรัสแสงในวันข้างหน้า ด้วยเหตุผลอะไร? เราไปดูบทความชิ้นนี้กัน
[ #มูรินโญ่ที่ไม่เคยเปลี่ยน ] : โชเซ่ มูรินโญ่ ถูกยกย่องว่าเป็นกุนซือยอดฝีมือคนหนึ่ง ความสำเร็จมากมายกับหลายสโมสรที่ผ่านมาล้วนการันตีได้ แต่ภายหลังมือตกลงไปอย่างน่าใจหาย ไม่ว่าจะช่วงคุม
แมนฯยูไนเต็ดหรือสเปอร์สในเวลานี้ บางคนบอกว่า "หมดมุก" หรือ "ตกยุค" แต่หากมองให้ลึกมีปมบางอย่างด้วย เราไปติดตามบทความชิ้นนี้กันว่ามันคืออะไร?
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
โฆษณา