24 มิ.ย. 2020 เวลา 23:18 • ความคิดเห็น
DATA พาเพลิน
: Error404 Data Not Found
สนทนา พาเพลิน
sangdeenote
ผมได้ทำ Project ใหม่
เมื่อช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
มีชื่อว่า"หนังสือสั่งดี"
แต่ก่อนจะเข้ารายละเอียดของ"หนังสือสั่งดี"
ว่ามันคืออะไร ผมขออธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้สักนิด
ก่อนหน้าโพสต์ เหยียด 1 และ 2
ที่เพิ่งจะผ่านมาของ Data พาเพลิน
คุณพ่อของผม
ท่านได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยวัย 74 ปี
ไอ้เราก็พอได้ศึกษาหลักคำสอนหรือสัจธรรมมาบ้าง ก็พอจะเข้าใจได้ในเรื่องนี้ แต่เหตุการณ์นี้ ก็ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมอง
บางอย่างในชีวิตไปพอสมควร
.
.
ขอเล่าเพื่อให้เห็นภาพรวมของเรื่องนี้
คุณพ่อเกิดอาการทรุดจนต้องเรียกรถพยาบาลมารับในเช้ามืดของวันที่ 7 พ.ค.
ท่านรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ประมาณ 2 อาทิตย์ และหมอให้กลับบ้านได้ในวันที่ 19 พ.ค. และวันที่ 21 พ.ค. เวลาประมาณ 00.30
ท่านได้จากไปอย่างสงบที่บ้าน
.
.
ผมและครอบครัว ก็คิดไว้ในใจก็อยู่บ้างแล้วว่า หากพ่อทรุดเมื่อไหร่ ก็น่าจะหนักเอาการอยู่ เพราะโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ (เบาหวาน, ความดัน) และท่านก็ปฎิเสธการทานยาคุมอาการมาเป็นปีๆ (ไม่ตรวจร่างกาย, ไม่ไปหาหมอใดๆทั้งสิ้น) ใช้คำสั้นว่า "ดื้อมากๆๆๆ"
.
.
โอเค เมื่อท่านจากไป
สิ่งหนึ่งที่ถือว่า โอเค! ในความรู้สึกของผมที่อยากให้เกิดขึ้น ก็คือ ถ้าท่านจะไป อยากให้ท่านจากไปอย่างสงบที่บ้าน มากกว่าที่โรงพยาบาล ซึ่งในข้อนี้ ลึกๆแล้ว ผมก็รู้สึกว่า คุณพ่อท่านก็มีความประสงค์แบบนี้เช่นเดียวกัน (ท่านถึงอึดมาได้ 2 อาทิตย์และก็กลับมาเสียชีวิตที่บ้าน)
.
.
นั่นคือความรู้สึก โอเค!
แต่ความรู้สึกไม่โอเคก็มีเช่นกัน
เช่น คุณพ่อท่านบริจาคร่างกายให้ที่มหิดลแต่ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทุกที่ปิดรับหมด
สิ่งที่ตามมาคือความไม่สบายใจ
พ่อเคยบอกเสมอว่า ถ้าแกจากไป ให้เอาร่างกายไปบริจาคเพื่อเป็นกุศล
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น และก็ไม่มีใครคาดคิดว่า
การระบาดของโควิด จะทำให้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรา และปั่นป่วนได้เพียงนี้
เราไม่เคยคุยกันเลยว่า ถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่สามารถบริจาคร่างกายได้ จะทำยังไงต่อ
.
.
สิ่งนี้เอง จุดประกายให้ผมเกิดความคิดว่า...
"ตอนที่เรามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนที่สุด
เราก็ควรจะต้องสื่อสารเรื่องนี้กันให้มากที่สุด เช่นกัน"
เรื่อง"ความตาย"เหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัว
แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า มันจะมาถึงเมื่อไหร่
.
.
หลังจากเสร็จในเรื่องกิจธุระเกี่ยวกับงานศพของคุณพ่อ ผมจึงได้ทำการศึกษาอย่างจริงจัง บวกกับได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ใจดีที่นับถือด้วย
เกี่ยวกับหนังสือหรือเอกสารเพื่อแสดงเจตนาล่วงหน้า บอกความต้องการในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต
ผมศึกษาอยู่หลายๆเอกสาร แต่ละเอกสารก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างกันอยู่บ้าง นิดๆหน่อยๆ แต่หลักๆของทุกเอกสารจะมีจุดมุ่งหมายแบบเดียวกันคือ เมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ทุกคนอยากไปแบบไม่ทรมานทั้งตัวเองและทรมานครอบครัว
(ที่จะเป็นภาระหรือนอนติดเตียง)
"หนังสือสั่งดี" จึงเกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้
หนังสือหรือเอกสารแสดงเจตนาล่วงหน้า
ในเวอร์ชั่นของผมนี้
ผมให้ชื่อว่า"หนังสือสั่งดี"
ก็เพราะว่า...ผมสงสัยมาตลอดกับคำว่า
"สั่งเสีย" ผมสงสัยมานานแล้วว่า ทำไมเราต้องใช้คำว่า"สั่งเสีย"กัน
🎵"หากเราต้องจากกัน
จากกันด้วยเหตุใด"🎵
...ก็ควรจะเป็นการ"สั่งดี"กันมากกว่า
และวัตถุประสงค์ของ"หนังสือสั่งดี"
หากเปรียบการเสียชีวิตเป็นการนำเครื่องบินลงจอด "หนังสือสั่งดี" มีจุดประสงค์ให้เกิดการ landing ที่ดีของทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่าย
ผู้แสดงเจตนาในหนังสือและฝ่ายของครอบครัว เป็นการเชื่อมการสื่อสารให้เกิดความเข้าใจทุกฝ่าย ในขณะที่ยังมีสติสัมปชัญญะกันครบถ้วน และต้องการให้เกิดการ balance ความรู้สึกซึ่งกันและกัน
อีกทั้งยังอยากให้เกิดการนำ"หนังสือสั่งดี"
ไปประยุกต์หรือนำไปปรับใช้เพื่อความเหมาะสมสำหรับตัวท่านหรือครอบครัวของท่านเองอีกด้วย
กัลยาณมิตรท่านใด สนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซด์ตามลิ้งค์นี้นะครับ
ใครต้องการก็สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานแบบฟรีๆไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
ไฟล์จะเป็น.pdf นะครับ
ผมหวังว่า"หนังสือสั่งดี"จะเป็นประโยชน์
แก่กัลยาณมิตรทุกท่าน ในวงกว้างสืบไป
และก่อนจบก็มีอีกอย่างหนึ่ง
ที่จะขอขอบพระคุณอย่างเป็นทางการกับ
พี่ชาย(และคู่ปรับ)...คุณชตระกูล ศรีสวัสดิ์
ในวันที่คุณพ่อผมเสียชีวิต
ผมได้แจ้งพี่ชอ.ว่า...
ช่วงนี้อาจไม่ได้เข้ามาบ่อยนัก
หลังจากนั้นพี่ชอ.ก็เขียนให้โพสต์หนึ่ง
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ให้
(ซึ่งตอนนี้ปลิวและไม่อยู่แล้ว555)
และพี่ชอ.จะส่งแมสเสจมาให้กำลังใจทุกวัน
กราบขอบพระคุณพี่ท่าน มา ณ ที่นี้ด้วย
และก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าดีใจใน Project นี้
คนแรกที่ดาวน์โหลด"หนังสือสั่งดี" มาใช้
ก็คือ..."คุณแม่"ของผมเองครับ
โพสต์นี้ขอจบลงเพียงเท่านี้
ขอบพระคุณทุกการติดตาม
บุญรักษา กัลยาณมิตร ทุกท่าน
ปล.หากใครมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
ก็สามารถพูดคุยกันได้นะครับ ที่อีเมล์
โฆษณา