27 มิ.ย. 2020 เวลา 05:55 • ธุรกิจ
SoftBank จะฟ้องสำนักงานสอบบัญชี EY เรื่องคดีทุจริตของ Wirecard
นิตยสารข่าว Der Spiegel ในเยอรมนี รายงานว่า
SoftBank บริษัทด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ของญี่ปุ่น และบริษัทด้านการลงทุน
ซึ่งเป็นของ มาซาโยชิ ซัน พ่อมดนักลงทุน ที่ลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัปเทคโนโลยีทั่วโลก
ประกาศว่าบริษัทวางแผนที่จะฟ้องร้อง บริษัท EY หนึ่งในสี่สำนักงานสอบบัญชีที่ใหญ่สุดในโลก หรือที่เรียกกันว่า BIG 4
ในเรื่องเกี่ยวกับคดีอื้อฉาวของบริษัท Wirecard ผู้ใช้บริการระบบชำระเงินดิจิทัลยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี
โดย SoftBank ได้เข้าลงทุนใน Wirecard เมื่อปีที่แล้ว เป็นจำนวน 900 ล้านยูโร หรือ 31,186 ล้านบาท
3
นอกจากนี้ยังมี The German shareholders’ association SdK หรือสมาคมผู้ถือหุ้นเยอรมัน
ก็ได้ยื่นฟ้องคดีอาญากับผู้สอบบัญชี EY ที่ตรวจบริษัท Wirecard
ประเด็นอยู่ที่ว่า งบการเงินไตรมาสล่าสุดของ Wirecard
ทาง EY ไม่เซ็นรับรองความถูกต้อง เนื่องจากพบว่า เงินในบัญชีธนาคารในฟิลิปปินส์ของ Wirecard
ได้หายไป 1,900 ล้านยูโร หรือประมาณ 65,838 ล้านบาท..
ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมา Wirecard มีกลิ่นตุๆ ลอยมาสักพักใหญ่แล้ว
เพราะบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการซื้อกิจการอื่น
แต่กิจการที่ซื้อมาส่วนใหญ่ แทบจะไม่มีสินทรัพย์ที่จับต้องได้จริง
มีแต่ที่จับต้องไม่ได้ อย่างเช่น ค่าความนิยม (Goodwill)
ทั้งมี พนักงานของ Wirecard แอบเอาเอกสารลับของบริษัทมาเผยแพร่
ซึ่งเอกสารดังกล่าวแสดงถึงธุรกรรมที่ผิดปกติ เช่น ทำสัญญากับ Supplier ที่ไม่เคยติดต่อทำธุรกิจร่วมกันจริง หรือสร้างสัญญาปลอมๆขึ้นมา
มีการโอนเงินระหว่างบริษัทแม่และบริษัทลูกข้ามประเทศไปมา โดยบันทึกเงินรับเป็นรายได้
และเรื่องอื่นๆที่แสดงถึงความพิรุธของ Wirecard
เช่น บริษัทเปิดเผยว่าร่วมมือกับ Partner ในต่างประเทศ เพื่อเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรมการเงิน
แต่เอาเข้าจริง พอนักข่าวไปสอบถาม Partner นั้นๆ ก็พบว่าไม่เคยทำธุรกิจร่วมกับ Wirecard เลย
แต่ Wirecard ก็รอดมาได้ทุกสถานกาณ์ เพราะอ้างว่า
ผู้ตรวจสอบบัญชีระดับโลกอย่าง EY รับรองความถูกต้องในงบการเงินให้เรียบร้อยแล้ว..
รวมถึง กลต. ของเยอรมนี ก็เข้าข้าง Wirecard
โดยกล่าวหาว่า คนปล่อยข่าวให้ Wirecard เสียหาย กำลังพยายามปั่นหุ้น ผ่านการ Short Selling
แต่เรื่องมันมาแดงขึ้น เมื่อสำนักงานข่าวต่างๆเริ่มขุดคุ้ยเรื่องอื้อฉาวของ Wirecard ไม่หยุด
อีกทั้งล่าสุดทาง EY ได้รับจดหมายจากธนาคารในฟิลิปปินส์ว่า
เงินในบัญชีของ Wirecard จำนวน 1,900 ล้านยูโร ไม่มีเงินอยู่จริง
จึงไม่รับรองความถูกต้องในงบการเงินของ Wirecard
ซึ่งทาง Wirecard ก็ได้ออกมายอมรับว่า เงินก้อนนี้ไม่มีอยู่จริง แต่เกิดจากการแต่งบัญชีขึ้นมาหลายปี..
และ CEO ของบริษัท ก็ยอมมอบตัวกับทางตำรวจ
สุดท้ายแล้ว Wirecard จึงไม่มีเงินชำระเจ้าหนี้ ที่เป็นหนี้อยู่ 123,556 ล้านบาท
และต้องยื่นล้มละลายไปเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ซึ่งพอข่าวกระจายไปทั่ว
ราคาหุ้นของ Wirecard เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ก็ดิ่งเหวลงกว่า 88.9% ภายในวันเดียว..
และหลังจากนั้นทางฝั่ง EY ก็ออกมาบอกกับสื่อว่า
เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นการฉ้อโกงระดับโลก ที่มีความซับซ้อนสูง
และ Wirecard มีเจตนาปกปิด และทุจริต
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายก็ยังตั้งข้อสงสัยในตัวของ EY
เพราะ Wirecard ก็เป็นลูกค้าของ EY มานานนับกว่า 10 ปี..
ซึ่งตอนนี้ EY ก็กำลังเผชิญกับแรงกดดันทางกฎหมายพอสมควร
ที่น่าสนใจคือ Luckin Coffee เชนร้านกาแฟที่มาแรง และคู่แข่ง Starbucks ในจีน
ซึ่งถูกจับได้ว่าตกแต่งยอดขายให้ดูดีเกินจริง เป็นมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท
จนเดือนเมษายนที่ผ่านมา ราคาหุ้นร่วงลงกว่า 83% ภายในวันเดียว
ก็เป็นลูกค้าของ EY..
โฆษณา