27 มิ.ย. 2020 เวลา 13:49 • ความคิดเห็น
แสงและเงา...ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งสูญเสีย ยิ่งยอมรับ
เส้นทางของผู้ที่ใฝ่หาความสำเร็จ
คนเราทุกคนล้วนมีเงาติดตามอยู่ทุกหนแห่ง เราจะไม่เห็นเงาต่อเมื่อเราหันหลังกลับไปมอง
เมื่อเงาไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ เราย่อมไม่ได้ยินและไม่สังเกตสิ่งเหล่านี้ เช่นเดียวกับเขา
หนุ่มไฟแรงในวัย 25 ปี ด้วยความที่เขาอยากสร้างตัวเพื่อให้ครอบครัวสบาย เขาจึงรีบสมัครงานหลังเรียนจบ เพื่อให้ได้เงินก้อนแรกในชีวิตของเขา เขาทุ่มเทให้กับการทำงานมาก เขารับงานเสริมแทบทุกอย่างที่มีคนจ้างวานเขา เขาหวังว่าถ้ารีบเร่งทำงานเก็บเงิน เขาและครอบครัวจะได้มีชีวิตที่สบาย
เขาเริ่มทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เป็นพนักงานฝ่ายขายที่ต้องออกไปหาลูกค้าตั้งแต่เช้าจนเย็น
บางวันก็หาลูกค้าได้มาก บางวันก็แทบหาไม่ได้เลย แต่เขาก็ไม่ย่อท้อเพราะเขาเชื่อว่าความพยายามของเขาจะนำพาไปสู่ความสำเร็จเหมือนที่ผู้ใหญ่หลายท่านบอกไว้
หลังเลิกงาน เขาไปรับจ้างสอนพิเศษให้กับเด็กมัธยมปลายตามสถาบันกวดวิชาจนถึงสามทุ่ม สัปดาห์ละ 3 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนักในช่วงวันธรรมดา แม้ว่าจะเหนื่อยบ้างแต่เขาก็ไม่ย่อท้อ
ช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ เขาจะรับของมาขายตามตลาดนัดหรือตามห้างสรรพสินค้าเพื่อหาเงินอีกทางหนึ่ง เขาหวังว่าถ้าได้เงินเก็บมาสักก้อน เขาจะเริ่มทำธุรกิจเพิ่มเติมอีกทาง
เขาต้องการมีบ้านและรถคันใหม่เพื่อให้ครอบครัวของเขาได้สุขสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เขามีแฟนอยู่คนหนึ่ง ซึ่งคบกันมาสามปีแล้ว และเขาก็วางแผนเก็บเงินเพื่อเป็นสินสอดในการสู่ขอแฟนสาวคนนี้
ในระหว่างที่กำลังเดินไปที่บริษัท เขาก้มลงหยิบปากกาที่ทำตก เขาได้เหลือบเห็นเงาของเขา ซึ่งน่าแปลกว่าทำไมเงาของเขาถึงดูคล้ายๆมีเงาหลายคนรวมกัน เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากจึงรีบเดินต่อไป
วันนี้เป็นอีกวันที่เพื่อนเก่าของเขานัดรวมตัวกันซึ่งเป็นเพื่อนที่เขาสนิทตอนเรียนมหาลัย เขามีเพื่อนในกลุ่ม 5 คน ต่างคนต่างแยกย้ายออกไปเรียนและทำงาน วันนี้เขาไม่สามารถไปเจอเพื่อนๆได้ตามเคยเพราะเขามีงานสอนพิเศษตอนเย็น เขาจึงปฏิเสธเพื่อนๆไป
“นี่ก็เบี้ยวมาครั้งที่ 4 แล้วนะ พวกเราอยากเจอนาย ครั้งหน้านายเคลียร์วันว่างมาให้พวกเราก่อนละกัน จะได้มาเจอกันบ้าง” เพื่อนๆพิมพ์ในไลน์หาเขา
จากนั้นเขาก็พิมพ์ตอบกลับไปว่า “ครั้งหน้าจะไม่พลาดโอกาสแบบนี้อีกแล้วนะ ขอโทษสำหรับครั้งนี้ที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าตามเคย”
เข้าปีที่ 2 ของการทำงาน เขายังคงขยันทำงานและหาเงินอยู่ตามเคย เขาไม่ได้เจอเพื่อนๆสนิทของเขาอีกนับตั้งแต่วันนั้น แฟนของเขามาหาเขาที่โรงเรียนกวดวิชาช่วงเย็นวันหนึ่ง
“ทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย รับงานเยอะเกินไปหรือเปล่า ไม่ค่อยได้ไปกินข้าวหรือไปเที่ยวด้วยกันเลยนะ” แฟนเธอบอกกับเขา
“ตอนนี้เรากำลังเร่งหาเงินเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว และหาเงินเพื่อไปสู่ขอเธอให้เร็วที่สุด เธอเข้าใจเรานะ เราอยากใช้ชีวิตอยู่กับเธอแล้ว” เขาบอกกับเธอแบบนั้นไป
จากนั้นเขาก็กลับไปสอนพิเศษตามเดิม หลังจากสอนเสร็จวันนี้ เขากำลังจะไปที่รถเพื่อขับกลับบ้าน เขาสังเกตเห็นกระจกข้างส่องให้เห็นเงาของเขาเช่นเคย แต่ครั้งนี้มันดูใหญ่มากขึ้นจนน่าตกใจ เขารีบขับรถกลับบ้านในทันทีทันใด
ตอนนี้เขามีเงินเก็บเยอะมากขึ้นแล้ว เขาวางแผนจะซื้อบ้านใหม่ และจากการที่เขาขยันทำงานจนเป็นที่พอใจกับหัวหน้าของเขา เขาจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งและได้เงินเดือนเพิ่ม สิ่งนี้ทำให้เขาดีใจมากและคิดว่าใกล้จะเข้าสู่ความสำเร็จแล้ว
เขาเดินทางไปที่หมู่บ้านจัดสรรเพื่อทำการคุยเรื่องราคาบ้าน หลังจากคุยกับฝ่ายขายเสร็จ เขาก็โทรไปหาแฟนของเขา แต่แฟนของเขาไม่รับสาย เขาจึงคิดว่าเดี๋ยวช่วงดึกๆค่อยโทรไปหาอีกที
ในระหว่างที่เขากลับบ้าน และกำลังจะเข้าประตูนั้น แมวบนหลังคาได้กระโดดมาตัดหน้าเขาทำให้เขาตกใจมาก เขาล้มลงที่พื้นและพยุงตัวเองกลับมา เขาสังเกตว่าเงาของเขาครั้งนี้มันใหญ่มากจนผิดปกติ เขามองไปรอบๆเพื่อดูเงาของคนอื่น เขาเห็นว่าเงาของคนอื่นดูเล็กและได้สัดส่วนมากกว่าเขา
เขากลับถึงบ้านก็พบว่าแม่ของเขาไม่อยู่ เขาแปลกใจจึงโทรหาแม่ของเขา เขาพบว่าตอนนี้แม่ของเขาอยู่โรงพยาบาลเพราะโรคหัวใจกำเริบ เขารีบขับรถเพื่อไปโรงพยาบาลแห่งนี้
แม่ของเขามีอาการหัวใจวายเฉียบพลันจากการขาดยารักษา เขาจึงถามแม่ว่าทำไมไม่ไปหาหมอตามนัด
แม่ของเขาอธิบายว่า แม่ไปเองไม่ไหว จะให้เขาช่วยพาแม่ไปแต่แม่เห็นว่าเขาทำงานหนักจนไม่มีเวลาเลย เขาเลยไม่อยากรบกวนเขาและคิดว่าโรคหัวใจนี้ไม่น่าจะกำเริบมา
เขาตกใจและเสียใจมากว่าทำไมเกิดเหตุเช่นนี้ เขาโทรหาแฟนของเขาเพื่อเล่าให้เธอฟัง เขาบอกเธอว่าตอนนี้เขาจะซื้อบ้านใหม่แล้ว เขาได้เลื่อนตำแหน่งและได้เงินเดือนเพิ่ม และอีกไม่นานจะไปคุยกับพ่อแม่ของเธอเรื่องแต่งงาน
เธอบอกว่า บางทีการแต่งงานอาจจะขอคิดดูก่อนเพราะเธอไม่มั่นใจว่าจะใช้ชีวิตคู่กับเธอในสภาพแบบนี้ได้หรือเปล่า เธอจึงขอเวลาตัดสินใจก่อนที่จะคบกับเขาต่อรวมถึงเรื่องการแต่งงานด้วย
ในคืนนั้นเอง เขานั่งร้องไห้ที่เก้าอี้ เขาไม่เข้าใจว่าการที่เขาขยันทำงานแบบนี้เพื่อหวังให้ครอบครัวและคนรักได้สบาย ทำไมสุดท้ายถึงลงเอยแบบนี้ เขากำลังจะประสบความสำเร็จแล้ว เขากำลังจะมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว แต่เหมือนทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เขาคิดเลย
เขาก้มลงมองพื้นและร้องไห้ เขาเห็นเงาของเขาใหญ่มาก เป็นเงาที่คล้ายๆกลุ่มคนมารวมตัวกันอยู่ หรือว่าเงานี้ คือ สิ่งที่เขาต้องสูญเสียไปโดยที่เขาไม่เคยสังเกตมันเลยหรือ
ตั้งแต่ที่เขาเลิกติดต่อกับเพื่อนสนิทของเขา
ตั้งแต่ที่เขาไม่ให้เวลากับแฟนของของเขามากพอ
ตั้งแต่ที่เขาไม่ให้เวลากับแม่ของเขา
เพราะทั้งหมดนี้มันสะท้อนให้เห็นผ่านเงาที่เขาไม่เคยจะเหลียวแลดูเลย
ยิ่งเขาเข้าใกล้ความสำเร็จมากเท่าไหร่ เงาเหล่านี้นับวันก็เริ่มใหญ่มากขึ้นเท่านั้น
ถ้าเปรียบความสำเร็จเป็นความสว่าง บางครั้งการที่เราเข้าใกล้สิ่งนี้มากเท่าไหร่ เราอาจจะเผลอหลงลืมสิ่งที่อยู่ด้านหลังเรามากเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคนรอบข้างของเรา คนในครอบครัว หรือคนรักของเรา เราอาจจะลืมพวกเขาและไม่ค่อยหันกลับมาเหลียวแลพวกเขาก็ได้
เพราะเรามองแต่แสงไฟที่ยั่วยวนให้เราเข้าใกล้ แสงไฟที่เราคิดว่ามันคือความสำเร็จ
อย่าลืมหันหลังดูว่าเรามีคนที่ต้องดูแลด้วยหรือเปล่า เพราะยิ่งเข้าใกล้แสงไฟ เงาเหล่านี้ก็ใหญ่มากขึ้นตาม เงาแห่งการสูญเสียของคนๆนั้น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา