28 มิ.ย. 2020 เวลา 12:00 • ความคิดเห็น
[ 302 days the diary ]
Day 0
ผู้ชายชุดสีฟ้าคนนั้น ฉันเห็นเขาหลายครั้งในห้องสมุดแห่งนี้ แต่ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย อาจจะด้วยท่าทีที่ดูเป็นทางการ จนฉันไม่คิดว่าจะมาทำความรู้จักกันได้
แต่บังเอิญเหลือเกินที่ตอนนี้เรากำลังยืนอยู่หลังชั้นหนังสือหมวดเดียวกัน ถึงแม้จะมีระยะห่าง แต่ฉันก็รู้ว่าหนังสือที่เขากำลังอ่านอยู่คือหนังสือที่ฉันตามหา หลังจากยืนรอมาสักพักเพราะนึกว่าอีกประเดี๋ยวจะวางกลับเข้าชั้น แต่ปรากฎว่าเขายืนอ่านนิ่งอยู่อย่างนั้น จนฉันอยากรู้ว่าเขาจะยืมกลับหรือเปล่า จึงเอ่ยออกไปเบาๆว่า
“สวัสดีค่ะ ถ้าพูดถึงห้วยขาแข้ง คงอดระลึกถึงคุณสืบ นาคะเสถียรไม่ได้เลยนะคะ”
ฉันทักเขาออกไปแบบนั้น เพราะวันนั้นเป็นวันที่ 1 กันยา วันสืบ นาคะเสถียร และหนังสือที่เขาอ่านอยู่ก็เป็นหนังสือท่องเที่ยวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
เขาก้มหน้านิ่ง เหมือนไม่แน่ใจว่าฉันพูดกับใคร ก่อนจะใช้เวลาอีกชั่วอึดใจกว่าจะค่อยๆเงยหน้าหันมาอย่างช้าๆ
“ครับ?”
“เอ่อ หนังสือเล่มนั้นน่ะค่ะ จะอ่านอีกนานไหมคะ” ถึงแม้คำถามจะดูกวน แต่ฉันพยายามส่งยิ้มอย่างจริงใจที่สุด
“อ่อ” เหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“จะยืมกลับบ้านน่ะครับ”
‘อืม รอยยิ้มที่ส่งกลับมาก็ดูจริงใจไม่แพ้กันเลยแหะ’ แต่ถึงอย่างนั้น ฉันแทบเก็บสีหน้าผิดหวังไว้ไม่อยู่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังมีหนังสืออีกเล่มที่ตั้งใจมายืมจากห้องสมุดวันนี้ จึงเผลอพูดออกไปว่า
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันไปหาโต๊ะโตะจังก็ได้ น่าจะอยู่ทางฝั่งวรรณกรรมเด็ก” ก่อนที่ฉันจะรีบก้าวเท้าออกไป เขาพูดขึ้นมาว่า
“โต๊ะโตะจังก็อยู่ในมือผมครับ เพิ่งไปหยิบมาก่อนหน้านี้”
artbangkok.com
ท่าทางเร็วกว่าความคิด ฉันหันควับไปมองทางเขา จึงเห็นว่าหนังสือที่อยู่ข้างใต้เล่มที่เขาถืออยู่คือโต๊ะโตะจังนั่นเอง ในเวลานั้นฉันรู้สึกทั้งขำ เสียใจ และแปลกใจที่ความชอบ ความสนใจของเราดูจะคล้ายกัน เพียงแค่เขาเร็วกว่านิดเดียว
'ดูเป็นคนนิสัยดีนะ' สุดท้ายเขาก็ให้โต๊ะโตะจังกับฉันเพื่อยืมกลับมาอ่านที่บ้าน
Day 14
หลังจากวันนั้น เราได้เจอกันที่ห้องสมุดอีกเรื่อยๆ มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน จนฉันพบว่าไม่เพียงแต่หนังสือเท่านั้น เรายังมีความชอบด้านอื่นที่ดูจะเหมือนกันไปเสียหมด
‘มีคลื่นบางอย่างที่จูนมาตรงใจ’ แบบนั้นแหละมั้ง
Day 39
ฉันได้ยินเขาเปรยกับเพื่อนสองคนที่นั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่งว่าห้องสมุดนี้ก็ดีนะ บรรยากาศผ่อนคลาย สมาชิกแต่ละคนก็คุยกันน่าสนุก คนที่นั่งร่วมโต๊ะนั้นเลยเชียร์ให้เขาเปิดตัวตนมากขึ้น เพราะอยากรู้จักกันมากกว่านี้ ฉันที่สนิทกับสมาชิกในโต๊ะนั้นอยู่แล้ว เพราะชอบอ่านเรื่องสั้นเหมือนกัน เลยเดินเข้าไปสนับสนุนเพิ่มอีกหนึ่งเสียง
Day 42
3 วันถัดมา ฉันเห็นเขาเดินเข้าห้องสมุดมาพร้อมกับหูฟังสีเหลืองอันใหม่
‘อยากลองเปิดตัวเอง ลดความเป็นทางการลงบ้าง’ เขาบอก ฉันจึงได้รู้จักอีกมุมหนึ่งของเขา ว่าเป็นคนที่ชอบฟังเพลงมาก เขาเริ่มพูดคุยกับคนอื่นในห้องสมุดอย่างเป็นกันเองมากขึ้น มากกว่าฉันที่เป็นคนพลังน้อยและหมดแรงง่ายเสียอีก ด้วยความสุภาพอ่อนโยน เขาจึงเป็นที่รักของใครหลายคน
Day 84
ถึงแม้ฉันจะรู้สึกว่าโลกของเขานั้นกว้างกว่า แต่เขาก็ยังบอกให้เปิดโลกไปด้วยกัน
Day 90
เห็นด้วยว่าชอคโกแลตกับชาเขียวนี่ไม่เข้ากันเอาซะเลยเนอะ
Day 102
งานยุ่งมาก ไม่ค่อยได้เดินไปคุยด้วยเลย แต่เขาก็ยังมาทักทายเสมอ เวลามีหนังสือใหม่ก็มาเรียกด้วย ดีจัง
Day 243
หลังจากที่ฉันหายไปร่วมเดือนเพราะมีภารกิจส่วนตัว วันนี้เราได้กลับมาเจอกันที่ห้องสมุดอีกครั้ง ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะมีข่าวดีที่สัญญาไว้ว่าจะบอกเขา
ใกล้ถึงเวลานัด เขาเดินเข้ามาพร้อมกับหูฟังสีเหลืองอันเดิม รอยยิ้มที่ส่งมาดูจริงใจและอบอุ่นเช่นเคย ฉันโบกมือให้เขาอย่างร่าเริง
“วันนี้มีข่าวดีมาบอกค่ะ”
“ยินดีด้วยนะครับ” ไม่พูดเปล่า เขายื่นหนังสือเล่มหนึ่งส่งมาให้เป็นของขวัญ ชื่อหนังสือว่า '(อดีต) สาวที่ไม่ชอบเพลงแจ๊ส' หน้าปกเป็นผู้หญิงกำลังกินมาม่าดูน่าอร่อย
“ขอบคุณนะคะ น่ารักจัง! ดีใจจริงๆที่ได้รู้จักคุณ” ฉันรับหนังสือมาพลางส่งยิ้มตอบกลับไปแบบเขินๆ ฉันเองก็มีของขวัญให้เขาเหมือนกัน แต่ยังไม่ถึงเวลา
“ขอบคุณเช่นกันครับ” เขาตอบรับด้วยความสุภาพ
“ว่าแต่ช่วงที่ผ่านมา มีอะไรคุกคามห้องสมุดบ้างหรือเปล่าคะ”
ฉันหมายถึงพลังมืดบางอย่าง ซึ่งเราสองคนเห็นตรงกันว่าเป็นพลังงานชั่วร้ายที่แฝงตัวอยู่ในห้องสมุด ฉันเคยรู้สึกเสียวสันหลังวาบตอนนั่งอ่านหนังสือคนเดียวอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อได้รู้จักกับเขา ฉันพบว่าเขามีวิธีรับมือกับพลังงานชั่วร้ายที่โจมตีมาทุกรูปแบบและคอยปกป้องฉันเสมอ
เราคุยกันไปเรื่อยๆจนเวลาใกล้เที่ยง เมื่อเขาบ่นหิว ฉันจึงชวนเดินออกไปข้างนอกเพื่อหาที่นั่งทานข้าว อากาศกำลังดี ลมพัดเย็นสบาย เราจึงชวนกันไปนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่
“หิวแล้วใช่ไหมคะ พอดีว่าเตรียมข้าวกล่องมาให้” ฉันพูดพลางยื่นกล่องข้าวใบใหญ่ไปทางเขา
“ว้าว ทำมาให้ผมเหรอครับ” เขาทำตาโต ดูประทับใจอยู่ไม่น้อย
“ไก่ย่างเขาสวนกวางค่ะ ซื้อมา อ่อ แต่ข้าวหุงเองนะคะ” ฉันหัวเราะด้วยความภูมิใจ “ไก่ตัวนี้พ่วงพี น่าอร่อย มีน้ำจิ้มสูตรเด็ดมาด้วย ลองทานดูค่ะ”
Day 302
A moment in a flash
Shines forever
If this heart is pierced
Killer tune 🎵
I want to dance, I want to sing
That’s all I want
If I pass you by, looking back
That’s the killer tune 🎵

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา