28 มิ.ย. 2020 เวลา 03:07 • ธุรกิจ
การตลาดออนไลน์รูปแบบใหม่ที่จะกลายมาเป็นการทำธุรกิจหลักของโลก
1
ตอนที่ 2
ที่มา https://www.takraonlinetraining.com/
ด้วยการเติบโตได้อย่างรวดเร็วของ Social Ecommerce ที่จะมาเป็นช่องทางการตลาดแบบใหม่ เป็นรูปแบบที่สามารถทำให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงได้โดยไม่ยาก เป็นการตลาดที่ทะลายกำลังการเข้าถึงช่องทางการขาย ใครๆก็เข้าไปได้ จึงเหมาะกับคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่มีขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการที่มีร้านค้าตั้งอยู่ในท้องถิ่น บุคคลทั่วไปที่ซื้อกินซื้อใช้ พูดได้ว่าเข้าถึงได้ทุกคน
รูปแบบการตลาดของ Social Ecommerce เป็นการต่อยอดพื้นฐานการตลาดโดยผสมผสานกับรูปแบบวิธีคิดแบบ Win/Win จึงทำให้การตลาดในรูปแบบนี้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการเติบโตนี้เกิดจากส่วนผสมระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค หรือที่เรียกว่า Prosumer ผู้ผลิตในส่วนนี้รวมถึงคนที่ช่วยกระจายสินค้าด้วย
Social Ecommerce สามารถเข้าถึงธุรกิจอะไรได้บ้าง?
การที่ Social Ecommerce จะนำธุรกิจส่วนไหนมาร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับรูปแแบบและระบบการจัดการหลังบ้านของรูปแบบนั้นๆ เกือบทั้งหมดจะนำธุรกิจในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคมาเป็นสินค้าหลัก และเกือบทั้งหมดจะขายสินค้าอย่างเดียวไม่มีบริการร่วมอยู่ด้วย
Social Ecommerce จะสร้างประโยชน์อะไรให้คนไทยได้บ้าง?
รูปแบบการทำการตลาดแบบนี้ทำให้ผู้คนที่เข้าไปซื้อสามารถสร้างรายได้จากการนำสินค้าไปบอกต่อหรือแชร์ได้ด้วย ไม่มีต้นทุนในการซื้อสินค้ามาขายไม่มีต้นทุนในส่วนการทำธุรกรรมทางด้านการเงิน ส่วนต่างที่เกิดขึ้นระบบหรือ Platform ก็จะจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ที่แนะนำตามที่ระบุไว้ ทำให้ต้นทุนการขายสินค้าลดลงจากเดิมที่เคยขายผ่านช่องทางต่างๆ อาทิเช่น ห้างค้าปลีก ร้านโชห่วย ตัวแทนจำหน่าย ฯลฯ
2
ที่มา https://www.practicalecommerce.com/
Social Ecommerce จะทำให้ธุรกิจไดเติบโตได้บ้าง?
หากเป็นทางตรงก็ทำให้สินค้าที่จัดจำหน่ายเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจดีขึ้น เป็นรูปแบบการกระจายรายได้ที่เข้าถึงได้ทุกคนอย่างไม่มีข้อจำกัด ลดความเหลื่อมล้ำของรายได้
ธูรกิจที่เกี่ยวเนื่องจะเติบโตคือธุรกิจการส่งสินค้าถึงบ้าน เพราะเป็นการทำธุรกิจในรูปแบบ B2C หรือผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง การจัดส่งสินค้าจึงสำคัญมาก และอีกธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือธุรกิจการสื่อสาร
ธุรกิจที่ได้รับผลทางอ้อมคือธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ อาทิเช่น ถุงพลาสติก กล่องบรรจุสินค้า สติกเกอร์ที่พิมพ์ที่แยู่การจัดส่ง เป็นต้น
Social Ecommerce จะส่งผลกระทบด้านลบต่อธุรกิจอะไรบ้าง?
ส่งผลกระทบโดยตรงต่อห้างค้าปลีก ตัวแทนจำหน่าย การขายที่มีสถานที่ และเนื่องจากเป็นการส่งตรงถึงผู้บริโภคโอกาสที่จะทำให้เกิดขยะเพิ่มขึ้นจึงมีสูงมาก หาก Social Ecommerce ไม่พัฒนารูปแบบการส่งที่สามารถลดขยะหรือทำเป็นวัสดุย่อยสลาย ในอนาคตส่งผลถึงจำนวนขยะที่เพิ่มขึ้นแน่นอน
แต่มีด้านลบก็มีด้านบวกนั่นคือการลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ต้องเดินทางไปซื้อสินค้า ทั้งค่าเดินทางและเวลาที่เสียไปด้วย
ที่มา https://www.coredna.com/
Social Ecommerce มีข้อจำกัดอะไรบ้าง?
เรื่องแรกที่เกิดขึ้นคือระยะเวลาการส่งสินค้า ลูกค้าจะไม่ได้สินค้าในทันที ต่อมาคือลูกค้ามีโอกาสได้สินค้าไม่ตรงกับที่แจ้งได้ จากระบบที่ให้ผู้จำหน่ายสินค้ารายนั้นเป็นคนส่งเอง เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้ง เชื่อว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขได้ในไม่ช้า
การซื้อของออนไลน์ยังไงก็ไม่สามารถทดแทนการซื้อสินค้าที่จับต้องได้ 100% ดังนั้นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายต่างๆไม่ต้องกังวลไป เพราะด้วยธรรมชาติของคนเรายังไงก็ต้องการการสัมผัส จากข้อมูลที่เคยได้รับการแบ่งปันต่อๆกันมา บอกว่าออนไลน์จะดึงส่วนแบ่งจากการขอยทั่วไปหรือ Off line ได้ประมาณ 1/3 หรือ 30-35% เท่านั้น
ในขณะที่ตลาดเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตลาดที่จำหน่ายทั่วไปจะไม่รู้สึกอะไรมากมายที่ส่วนแบ่งการตลาดได้เปลี่ยนไป และในบางรายก็ทำทั้ง 2 ช่องทางเองด้วยซ้ำ
ตอนต่อไปจะมีข้อมูลผู้ให้บริการหรือ Platform รายหลักที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาแบ่งปันให้ทราบด้วยนะครับ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่ทำเงินได้จำนวนมากของผู้ที่สนใจก็ได้
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย) ตอนล่าสุด
โฆษณา