29 มิ.ย. 2020 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #ฉลองต้องฉลาด ]
ทันที่สิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
เดอะ ค็อปแทบจะทั่วโลก โดยเฉพาะในเมืองลิเวอร์พูลต่างฉลองคลั่งกันสมกับที่รอคอยกันมานาน 30 ปี
แม้ลึกลงไปจะมั่นใจร้อยเปอร์เซนต์ว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไม่หลุดมืออย่างแน่นอน แต่พอถึงเวลาจริงมันก็หักห้ามอารมณ์แบบสุดขีดไว้ไม่ไหว ปล่อยออกมาอย่างเต็มที่
แลนด์มาร์คหรือย่านกลางเมืองลิเวอร์พูล รวมถึงที่หน้าแอนฟิลด์จึงคลาคล่ำไปด้วยเดอะ ค็อปทุกหมู่เหล่า ออกมาร้องรำทำเพลงด้วยความคึกคัก อีกทั้งมีการดื่มฉลองสุดเหวี่ยง
บริเวณเพียร์ เฮดซึ่งเป็นจุดรวมพลสำคัญ กลายเป็นฐานของแฟนบอลที่ต่างมาปักหลัก อีกทั้งผลัดเปลี่ยนกันมาซึมซับกับบรรยากาศอันยอดเยี่ยม ที่ไม่เกิดขึ้นมานาน 3 ทศวรรษ
ถ้าพอประมาณแบบหอมปากหอมคอไม่เท่าไร
แต่หลายคนดูจะขาดสติ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มกันในปริมาณที่เกินลิมิต ถึงขั้นจุดพลุไฟ ปีนเล่นอนุเสาวรีย์ เลยเถิดไปจนถึงทำลายข้าวของทางราชการ
ที่น่าห่วงคือในสถานการณ์ปัจจุบันที่ไวรัสโควิด-19 ยังไม่หยุดระบาด วัคซีนยังผลิตไม่ได้ แล้วหลายคนเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำเตือนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ รวมทั้งเว้นระยะห่าง มันทำให้เกิดการหวาดกลัวขึ้น
ต้องไม่ลืมว่าลิเวอร์พูลคือหนึ่งในสถานที่เริ่มต้นแพร่เชื้อ แล้วถ้ายังการ์ดตกไม่ระมัดระวัง อาจทำให้การระบาดกลับมารุนแรงอีกครั้ง
การฉลองนั้นกินเวลาราววันครึ่ง ตั้งแต่ตอนค่ำของวันพฤหัสบดี ลากยาวไปจนถึงวันศุกร์ แทบไม่มีใครแคร์เลย สนุกสะใจไปตามอารมณ์ร่วมสุดขีด
เช้าวันเสาร์ใจกลางเมืองอยู่ในสภาพเหมือนเพิ่งผ่านสงครามมาอย่างหนัก ขยะเกลื่อนกลาดทั้งถุงพลาสสิก ขวดเหล้าเบียร์ กระป๋องเครื่องดื่มต่างๆ ก้นบุหรี่ ถูกทิ้งขว้างสะท้อนถึงความไร้ระเบียบวินัย
นอกจากนี้ยังมีกองเชียร์บางส่วนล้ำเส้นปาพลุเข้าไปยังสถานที่ราชการ อาคาร Liver building โดนไฟไหม้ได้รับความเสียหาย
ไม่ใช่แค่นั้นบางคนยังเล่นแบบแผลงๆกระโดดลงมาจากที่สูง จนได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันยังมีรายงานด้วยว่าแฟนคนหนึ่งเจอมีดกะซวกต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
ทั้งหมดทั้งปวงเหล่านี้ต้องเดือดร้อนสภาพเมืองต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่เคลียร์ทุกอย่างให้กลับสู่สภาพปกติ
นอกจากนี้หากมีการระบาดเพิ่ม ภาระหนักคงตกอยู่ที่ NHS หรือหน่วยงานสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรที่เพิ่งจะผ่อนคลายขึ้น หลังต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจาย
โจ แอนเดอร์สัน นายกเทศมนตรีลิเวอร์พูล ต้องออกมาประกาศแถลงตักเตือนเพื่อปรามไม่ให้เลยเถิดไปมากกว่านี้ ด้วยข้อความที่ทั้งปลอบและขู่ในคราวเดียวกัน
การยิงพลุเข้าไปในตึกราชการ แล้วตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจกันมันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจมากๆ
เมืองของคุณ บ้านของคุณ ไม่ช่วยกันดูแลรักษายังพอทน แต่นี่ถึงขั้นต้องลงมือทำลายกันเลยทีเดียว
ในทางกลับกันฉลองอย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่าแฟนบอลดีๆคนอื่นจะปลาบปลื้มไปด้วย มันสร้างความเดือดร้อนให้ต่างหาก
ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าในเมืองลิเวอร์พูลมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ถึง 450 รายและอีกไม่น้อยกำลังรักษาตัวอยู่ ซึ่งในจำนวนเหล่านี้ก็ล้วนต่างเป็นกองเชียร์เช่นเดียวกัน
ท่านนายกเล็กยังบอกด้วยว่าตอนนี้รู้ว่าได้แชมป์อย่างเป็นทางการยังดีใจอยู่เลย แต่หลังจากการฉลองความรู้สึกเปลี่ยนไปทันที
หากยังไม่หยุดพฤติกรรมระห่ำแบบนี้ อาจต้องเพิ่มมาตรการอย่างเข้มข้นกว่าเดิม เพื่อกำราบให้หลาบจำ
อย่างที่รู้นั่นแหล่ะ เอาเข้าจริงๆแล้วมีแฟนไม่กี่คนหรอกที่ทำตัวไม่เหมาะสม ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเดอะ ค็อปนั้นเสียหายตามไปด้วย
เมื่อบวกกับเหตุการณ์ในอดีตที่เริ่มมีการขุดคุ้ยขึ้นมา แฟนบอลลิเวอร์พูลจึงโดนผลักให้เป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงไป
ทั้งที่เฮย์เซล สเตเดี้ยมเมื่อ 31 ปีก่อน มีแฟนบอลเสียชีวิต 39 รายและกระทบสโมสรจากอังกฤษโดนแบนจากถ้วยยุโรปถึง 5 ปีเต็ม
เรื่องนี้พูดกันทีไรแฟนบอลเอฟเวอร์ตันยังแค้นไม่หาย เพราะกลางทศวรรษ 80 อยู่ในช่วงฟอร์มพีกเช่นเดียวกัน ได้แชมป์ลีกสูงสุดแต่อดไปวาดลวดลายในยูโรเปี้ยน คัพหรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในปัจจุบัน
ยังมีโศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโร่เมื่อปี 1989 แม้จะเป็นความบกพร่องของฝ่ายจัดการแข่งขัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่โยนความผิดให้เดอะ ค็อป แต่ก็ต้องยอมรับว่าความวุ่นวายส่วนหนึ่งมาจากความเมามายของกองเชียร์ด้วย
จากนี้แฟนลิเวอร์พูลจะขยับทำอะไร ย่อมมักถูกจับตาตลอด
และสิ่งที่เตรียมการไว้ล่วงหน้าอาจต้องล้มแผนลงอย่างช่วยไม่ได้
หลังกลับมารีสตาร์ตไม่นาน ทางสโมสรลิเวอร์พูลได้ปรึกษากับทางรัฐบาลยูเค เพื่อหาลู่ทางความเป็นไปได้จัดฉลองงานแห่แชมป์ที่แอนฟิลด์
เงื่อนไขเดิมที่วางเอาไว้คือในสหราชอาณาจักรต้องไม่มีการแพร่เชื้อโควิด-19 ระลอกสอง ไม่อย่างนั้นหมดโอกาสทันที
นอกจากนี้ยังต้องมีการพิจารณาในขั้นตอนต่อมาถึงจำนวนแฟนๆที่จะเข้าร่วมในสนามได้ ซึ่งคาดว่าจะมีเพียงแค่ 10 เปอร์เซนต์เท่านั้น ยังต้องรักษาระยะห่างกัน
นั่นหมายความว่าจะมีเดอะ ค็อปราว 4 พันคนเศษที่เข้าร่วมเป็นสักขีพยานประวัติศาสตร์ในรอบ 30 ปี
ตอนนี้รัฐบาลอังกฤษมีแผนประกาศระยะที่ 4 ในช่วงสัปดาห์นี้ ไฟเขียวให้แต่ละทีมเดินทางและไม่ต้องกักตัวในตอนขากลับ
ส่วนระยะที่ 5 มีแนวโน้มจะให้แฟนๆเข้าสนามได้อีกครั้ง แต่ดูปฏิทินแล้วอาจต้องไปว่ากันใหม่ในฤดูกาลหน้า
แน่นอนหากจะให้เป็นไปตามแนวทางที่วางเอาไว้ ทุกคนจำต้องช่วยเหลือกัน เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดเวฟสองเด็ดขาด
แต่จากเหตุการณ์ฉลองบ้าคลั่งของเดอะ ค็อป มีสิทธิ์ที่รัฐบาลจะไม่อนุญาตให้มีการแห่แชมป์ที่แอนฟิลด์ เพราะประเมินแล้วว่ายากต่อการควบคุม
คาดว่ามีแฟนบอลจำนวนมากที่ผิดหวังไม่ได้เข้าร่วมงาน จะต้องมารวมพลกันที่หน้าสนามและมีเปอร์เซนต์สูงจะเกิดเหตุวุ่นวายตามมา อดีตบ่งบอกชัดอยู่แล้ว
นอกจากนี้ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันทำงานภาคสนามให้กับสกาย สปอร์ตส์ ยังถูกจับภาพได้ว่าออกมาร่วมฉลองกับเดอะ ค็อปด้วย โดยที่ไม่มีการป้องกันตามมาตรการเลย
แทนที่จะเป็นตัวอย่างให้แฟนบอลคนอื่น แต่ คาร์ร่า กลับลงมาแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเอง
เรื่องนี้มีการร้องเรียนไปยังสกาย สปอร์ส์ต้นสังกัดด้วย ควรเรียกพนักงานมาตักเตือน เป็นคนสาธารณะไม่พอ ทำงานสื่อสารมวลชน จำเป็นต้องระวังมากสุด คาร์ร่า กลับปล่อยการ์ดตกอย่างไม่น่าเชื่อ
ลองจินตนาการว่าในกลุ่มแฟนบอลที่มาฉลองมีการติดเชื้อจริง แต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งเป็นปกติของไวรัสชนิดนี้ เป็นได้หายได้ง่าย ในพวกที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง
แล้วเกิดไปแพร่ให้คนอื่นจนกระทั่งป่วยขึ้นมา มันอาจเป็น Super Spread กระจายเป็นวงกว้างได้ง่ายๆเลย
เข้าใจดีว่าทุกคนอยากจะฉลองให้สุดเหวี่ยงสมกับที่รอคอยมายาวนาน แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรคำนึงถึงอะไรมากกว่ากัน
ไม่อย่างไรชีวิตก็ต้องสำคัญสุด เจอร์เก้น คล็อปป์ เองยังออกมาเตือนเดอะ ค็อปด้วยซ้ำ ไม่ให้ล้ำเส้นจนเกิดความเสียหายตามมา
มองในแง่ดีการได้รีสตาร์ตและได้บรรยากาศฉลองแชมป์ขนาดนี้ถือว่าดีเกินกว่าที่คาดหวังไว้ ฉะนั้นทุกคนต้องพยายามทำความเข้าใจและช่วยกันเพื่อให้สภาวะปกติกลับมาเร็วที่สุด
ที่สำคัญต้องช่วยกันรักษาภาพของแฟนบอลลิเวอร์พูลด้วย อย่าให้คนไม่กี่คนสร้างความเสียหายให้กับหมู่มาก
นี่คืออุทธาหรณ์สำคัญเลยทีเดียว เพราะความจริงการฉลองของเดอะ ค็อปเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง
คลิปรวมภาพการฉลองแชมป์ของเหล่า เดอะ ค็อป และที่เป็นประเด็นดราม่าอยู่ ณ ตอนนี้..
บทความย้อนหลังที่น่าสนใจ
[ #จะเปลี่ยนตัวเองหรือเปลี่ยนทีม ] : หลายครั้งแล้วที่ มันเตโอ เกนดูซี่ ยังแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวไม่เหมาะสมทั้งในสนามจริงและสนามซ้อมเวลานี้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของเขา เรื่องฝีเท้าไม่มีใครกังขา แต่นิสัยส่วนตัวควรรีบปรับปรุงโดยด่วนถ้ายังเป็นเช่นเดิม อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงในเร็ววัน
[ #ด่านหน้าที่ยากกว่าแชมป์ ] : ลิเวอร์พูลสิ้นสุดการรอคอยอันยาวนาน 30 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ความสำเร็จครั้งนี้ต้องยกเครดิตให้กับทุกฝ่ายที่ทำงานกันอย่างหนักอย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คือผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญ นำทัพฝ่าด่านหินมามากมาย ต้องโดนทดสอบสารพัดกว่าจะมายืนอย่างสง่างามได้ตรงจุดนี้แต่เมื่องานฉลองเสร็จสิ้น ภารกิจใหม่จะตามมาและการรักษาความสำเร็จไว้คืองานที่ยากสุดแล้ว
[ ใครว่า"คีน"ไม่เข้าใจ ? ] : ในวันที่ รอย คีน มารับบทวิเคราะห์เกมทางหน้าจอทีวีด้วยลีลาที่ดุดันเด็ดขาดด่ากราดไม่เลือกหน้า เขามักจะเจอหลายคนตั้งคำถามว่าให้ลองมาทำทีมบ้างจะเข้าใจ อย่างไรก็ตาม คีน เคยผ่านงานผู้จัดการทีมมาพอสมควร อาจไม่ลึกซึ้งแต่ก็ได้ลิ้มรสมาหมดทั้งหวานและขม บางทีเราอาจเข้าใจ คีน มากขึ้นหากศึกษาชีวิตช่วงที่เขาเป็นกุนซือ
[ #เวลาไม่อาจฆ่า "เลวี่" ] : ในขณะที่เรามัวแต่นึกถึงความยอดเยี่ยมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ ที่กาลเวลาไม่อาจกลืนกินได้ เราอาจตกสำรวจ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไปอีกคน เพราะ 5 ฤดูกาลติดต่อกันแล้วที่ตะบันเกิน 40 ประตู อะไรคือเบื้องหลังความยอดเยี่ยมเช่นนี้หรือ?
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
โฆษณา