30 มิ.ย. 2020 เวลา 00:17 • หุ้น & เศรษฐกิจ
โค้งสุดท้าย SSFX
วันนี้ (30 มิ.ย. 63) เป็นวันสุดท้ายที่จะสามารถนำจำนวนเงินที่ซื้อลงทุน SSFX มาลดหย่อนภาษีได้
ซึ่งตอนนี้หลากหลาย บลจ. ได้ออกทั้ง SSF และ SSFX ออกมา ซึ่งจะมีอยู่ 2 ลักษณะ
1. บางบลจ. ออกกองทุนที่เป็นทั้ง SSFX และ SSF ในกองเดียว โดยแบ่งตามช่วงเวลาที่ซื้อลงทุน คือ ถ้าซื้อในช่วง 1 เม.ย - 30 มิ.ย. 63 จะถือเป็น SSFX และถ้าซื้อลงทุนหลังจากเวลานี้จะถือเป็น SSF
2. บลจ. ออกกองทุนออกกองทุนแยกกัน SSFX และ SSF ซึ่งกอง SSFX สามารถลงทุนได้เฉพาะช่วง 1 เม.ย - 30 มิ.ย. 63 ส่วน SSF จะสามารถซื้อลงทุนได้ทั้งปี ส่วนใหญ่ที่อออก SSFX มักเป็นลักษณะที่ 2 นี้
มาอ่านเรื่องของเงื่อนไข และลองดูว่าเราเหมาะกับหารลงทุน SSFX ไหม
ในรูปด้านล่าง เปรียบเทียบเงื่อนไขของ SSF vs SSFx ให้อ่านกัน
SSFX นั้นจะมีความคล้ายคลึงกับ LTF เดิมที่เรารู้จักกันดี พอสมควร คือ เป็นกองประหยัดภาษี และกองทุนนี้ต้อลงทุนในหุ้นไทยอย่างน้อย 65% ของทรัพย์สินของกองทุน โดยมีทั้งกองที่มีนโยบายจ่ายปันผลหรือไม่จ่ายปันผล ไม่ต้องลงทุนทุกปี ไม่มีการกำหนดการซื้อขั้นต่ำเพื่อไว้ลดหย่อนภาษี แต่จะมีกำหนดการซื้อขั้นต่ำของกองทุนที่ กองทุนนั้นๆ กำหนดไว้สำหรับการซื้อขั้นต่ำในแต่ละครั้ง
.
ส่วนเรื่องเพดานว่าซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีนั้นมีเพดานที่ 200,000 บ. โดยไม่สนใจ % ของรายได้ และไม่ต้องนำเพดานนี้ไปรวมกับการลดหย่อนภาษีจากอย่างอื่น ระยะเวลาการลงทุนที่จะใช้ลดหย่อนภาษีได้จะเป็นแค่ช่วง 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น ระยะเวลาการถือครองต้องถือ 10 ปี โดยนับแบบวันชนวัน ไม่ใช่ตามปีปฏิทินแบบ LTF เดิม
แล้ว SSFX นี้เหมาะกับใคร??
1. ต้องเป็นคนมีรายได้ที่ต้องเสียภาษี และต้องการหารายการเพื่อลดหย่อนภาษี ในปีภาษี 2563 นี้ และจะยิ่งเหมาะมากขึ้น ถ้าคนนั้นปกติใช้กลุ่มการลดหย่อนจากการเก็บเงินเพื่อการเกษียณได้แก่ RMF/ PVD/ กบข./ประกันบำนาญ/ กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน/ กอช. ไว้ครบ 500,000 บ. แล้ว และต้องการหารายการมาลดหย่อนเพิ่มเติม เพราะปี 63 นี้ ไม่มี LTF ให้มาลดหย่อนเพิ่มแล้ว
2. ต้องยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นไทยได้
เพราะ SSFX ที่นโยบายเป็นการลงทุนในทุนไทยเป็นหลักเหมือน LTF ดังนั้นต้องยอมรับความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งถ้าเรามองว่าการลงทุนกอง SSFX ในช่วงนี้ อาจทำให้เราได้ราคาที่เหมาะสม และในระยะยาว 10 ปี ข้างหน้า ดัชนีหุ้นไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่านี้ และสามารถยอมรับความผันผวนระหว่างทางได้ ถ้ามองแบบนั้นได้ก็เหมาะที่จะลงทุน
3. มีเงินที่นำมาลงทุนได้ในช่วงนี้ คือ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 63 และเงินนี้ต้องเป็นเงินที่ไม่ได้ต้องนำออกมาใช้จ่ายเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปี
ดังนั้นถ้ายอมรับความเสี่ยงของการลงทุนหุ้นไทยไม่ได้ และปกติก็ไม่ได้ใช้เต็มเพดาน 500,000 บ. นั้นอยู่แล้ว ก็ลองดูที่เป็นกอง SSF ทั่วไปที่ลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ อาจจะเหมาะกว่า หรือถ้ายังไม่มีเงินเก็บเพื่อการเกษียณควรศึกษาและวางแผนลงทุนใน RMF ไว้ด้วยนะ
เหมาะกับการลงทุนใน SSFX หรือไม่ ก็จะขึ้นอยู่กับแผนการเงินของแต่ละคน และศึกษาเงื่อนไข อ่าหนนังซื้อชี้ชวน และวางแผนการเงินให้ดีก่อนลงทุนนะ
#หมอยุ่งอยากมีเวลา
#ภาษี
#SSF
#SSFX
#กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ
#กองทุนรวมเพื่อการออม
#RMF
#กองทุนรวม
โฆษณา