จิตคือจิต กายคือกาย มีกายนอก กายภายใน มีขันธ์ห้าซ้อนขันธ์ห้าซ้อนกันไป จึงซับซ้อนเกินบรรยาย
ให้ลองไปฟังธรรม แล้วทำความเข้าใจกันเอาเอง
จิตที่มีคุณค่า จะต้องเป็นจิตที่อยู่เหนือสมมติ ไม่ถูกครอบงำจาก ลาภยศ สรรเสริญ ไม่ลุ่มหลงในสิ่งใด ไม่ให้ราคาในสิ่งใดให้มีอำนาจเหนือจิต ทำให้ตกเป็นทาสเป็นทุกข์ จิตจะอิสระจากทุกสิ่ง เป็นจิตที่สะอาดสงบเย็น เป็นจิตอิสระ
แต่ละดวงจิตเดินทางมาแตกต่างกัน จึงมีกรรมที่ลิขิตมาแตกต่างกันบ้าง เหมือนกันบ้าง จึงควรปล่อยวาง เห็นเป็นธรรมดา เพื่อจะได้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ฉะนั้น จึงควรฝึกให้เข้าใจผู้อื่นเห็นใจผู้อื่น เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ในโลกนี้มีสิ่งที่ ซ่อนเร้นเยอะแยะมากมาย เกินกว่าเราจะรู้ ทำความเข้าใจได้ในทุกสิ่ง เพื่อไม่ให้เกิดพลาด สร้างกรรมเบียดเบียด ให้แก่ตนและผู้อื่น จึงไม่ควรสนใจใคร ให้สนใจตนเอง ไม่ตัดสินว่าใคร ไม่เพ่งโทษใคร ทำเราให้ดี คิดดี พูดดี ทำดี เพื่อจะได้พ้นจากความทุกข์
เข้าใจผู้อื่นแต่ไม่มีใครเข้าใจเราเลย จะให้คิดอย่างไรเพื่อจะไม่ให้เป็นทุกข์
การเข้าใจผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่ดี จะเข้าใจผู้อื่นได้ต้องประกอบด้วยความเมตตา รู้จักให้อภัย เป็นการสร้างความดี จะเป็นพลังมาหนุนนำจิตใจให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ในลำดับต่อไป ให้เราศึกษาที่จะทำความเข้าใจในตัวเราด้วย เพื่อจะเป็นการเปิดจิตใจให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เมตตาผู้อื่นได้ ให้อภัยผู้อื่นได้ ต้องรู้จักเมตตาให้อภัยตัวเองด้วย ไม่ต้องรอให้ใครมาเข้าใจเรา ขอให้เราเข้าใจตัวเราเองก็พอ
จิตคือ ความว่างที่มีชีวิต
จิตที่ไม่หลุดพ้น คือความว่างที่ไม่รู้ตน ว่าตนคือความว่าง
ก็เลยยึดเอาถือเอา สิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นของตน เลยพลอยสุขพลอยทุกข์กับสิ่งที่ไม่เที่ยง
ส่วนสภาวธรรมของจิต ที่ละเอียด ลึกซึ้งเป็นยังไง ลองไปฟังธรรมนี้
การที่ดวงจิตได้หนึ่ง ได้สร้างความดี จนถึงที่สุดของความดี เป็นผู้รู้แจ้งโลก เข้าใจในโลก เข้าใจในวัฏสงสาร
แต่เขารู้แบบไหน เขาเห็นแบบไหน อันนี้ มีรายละเอียดเป็นยังไง
พระพุทธองค์จะไขปัญหา ให้ได้ฟังกัน
ดวงจิตที่หลุดพ้น จากกิเลส ตัณหา ด้วยการกระทำตามศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา
เมื่อรู้ตื่นแล้ว จิตจะไม่ใช่ตื่นด้วย อำนาจของศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา แต่จะรู้ตื่น เบิกบาน ด้วยสภาวธรรมของจิตเอง
ธรรมนี้ ละเอียดอ่อนยิ่งนัก พึงพิจารณาให้จงดี จะได้ไม่งง และหลงทาง
คิดว่า ว่าง ว่าง ว่าง ทุกอย่างนิพพานอยู่แล้ว จะถึงพระนิพพานได้ไหม ได้
แต่ถึงแค่คิดเอา นั่งสมาธิให้ถึงความว่าง จะให้ถึงพระนิพพานได้ไหม
ได้ แค่นิพพานพรหม
ผ้าห่มยังไม่ซัก บอกว่าให้หายเหม็น คงเป็นไปไม่ได้
การว่างอย่างพุทธะ ไม่ใช่ว่างอย่างคิดเอา ปรารถนาที่จะรู้เป็นยังไง ควรไปฟังเอา
*** การรู้ การเข้าใจ คิดเอา นึกเอา ***
สรุปคือทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นเรื่องเกี่ยวกับ จิต
ทั้งหมดและที่มาของดวงจิตที่หลุดพ้น แบบไหนเป็นยังไง วันนี้ผมได้อ่านเรื่องนี้มาหลายฉบับและได้เชื่อมโยงความหมายนี้ของแต่ล่ะฉบับ แต่ล่ะวรรคที่มีความสำคัญมาเรียบเรียงให้อ่านและเข้า
ใจง่ายยิ่งขึ้นจาก
สายปฏิบัติธรรม สัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ
เรียบเรียงจาก เจ หนุ่มสกลคนอิสระ
Pinterest
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
