ไม่อยากทำแต่มันจำใจ !
กับแผนการ ”พลิก” โมเดลธุรกิจในช่วงโควิดของ Airbnb
ใครๆก็คงทราบดีว่า Covid-19 ได้สร้างผลกระทบให้กับชีวิตและเศรษฐกิจของคนทั้งโลกไปมากขนาดไหน และที่สำคัญคือยังไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเป็นยังไงต่อไปกับวิกฤติครั้งนี้ที่ต้องเผชิญ
แน่นอนว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับการ “ท่องเที่ยว” คือกลุ่มที่โดนโควิดเล่นงานกันไปอย่างหนักในครั้งนี้ และบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Airbnb ก็คือหนึ่งในนั้น
เพราะทั้งเที่ยวบินต่างประเทศที่โดนปิดกั้นและการทำ Social distancing นั้นก็ได้กลายมาเป็นปัจจัยลบให้กับธุรกิจกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งผู้ทำธุรกิจตัวกลางของที่พีกอย่าง Airbnb ต้องปลดพนักงานไปด้วยความจำใจ
แล้วเรื่องมันเป็นมายังไง ? ทำไมพวกเขาต้องทำเช่นนี้ ?? วันนี้เราไปติดตามอ่านกันได้เลยครับ
เชื่อว่ามีเพื่อนๆสมาชิกจำนวนไม่น้อยเลยที่รู้จัก Airbnb หรือบริษัทสตาร์ทอัพยูนิคอร์นซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มการจองที่พักออนไลน์ที่ถูกร่วมก่อตั้งขึ้นโดย Brian Chesky, Joe Gebbia, และ Nathan Blecharczyk ในปีพ.ศ. 2551
จุดเริ่มต้นของ Airbnb ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนักแต่กลับจะออกไปทางความบังเอิญด้วยซ้ำ เนื่องจากว่าจุดประสงค์ของการสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาก็เพียงเพื่อจะหาคนมาพักในห้องเช่าของตัวเอง หรือเอาง่ายๆว่าตอนนั้นพวกเขาไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง เลยสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในตอนนั้นนั่นเอง
พวกเขาล้มลุกคุกคลานและหาเงินทุนกันอยู่สักพัก แต่หลังจากนั้น Airbnb ก็ได้ทำการระดมทุนผ่าน Sequoia ได้มากมายเป็นเงินถึง 600,000$ หลังจากนั้น Airbnb ก็ได้เติบโตแบบระเบิดและได้ก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ทอัพระดับโลกที่สามารถทำรายได้ไปกว่า 153,000 ล้านบาทในปีพ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา
แต่ก็อย่างที่เราได้เกริ่นกันไปในตอนแรก จากผลกระทบของ Covid-19 นั้นก็ได้ทำให้ Airbnb ที่เป็นหนึ่งในบริษัทชื่อดังระดับโลกต้องออกมาประกาศ “ปลดพนักงาน” เพื่อลดหน่วยธุรกิจที่ไม่จำเป็นลง เช่นเดียวกันกับ Uber ที่ปล่อยประกาศตามหลังกันออกมาเพียงหนึ่งวัน
ถึงแม้ว่าผลกระทบในรอบนี้จะเป็นเพียงปัจจัยลบในระยะสั้นๆก็ตาม แต่ความน่ากลัวของโควิดมันก็ไม่ใช่เล่นๆเนื่องจากทาง Airbnb ก็ได้ออกมาคาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2563 นี้ รายได้ของบริษัทน่าจะมีอยู่ “ไม่ถึงครึ่ง” นึงของปีที่แล้ว ส่งผลให้ทางบริษัทต้องจำใจออกมาประกาศลดพนักงานลง 25% หรือราวๆ 1,900 คน
ซึ่งความน่าสนใจที่เราอยากจะพูดถึงก็คือคำ “บอกเลิก” จาก Brian Chesky ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ Airbnb ที่ทำให้ทุกคนต่างก็แปลกใจและชื่นชมกันไปทั่วทั้งโลก ไม่เว้นแม่แต่ตัวพนักงานที่โดนปลดออกเองเสียด้วยซ้ำ
เนื่องจากจดหมายของเขานั้นแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ, เห็นใจ และเข้าใจในตัวพนักงาน และพร้อมๆกันนั้นยังได้ทำการอธิบายถึงสถานะการณ์ปัจจุบันที่ Airbnb ต้องเผชิญหน้าอยู่ โดยเหตุผลหลักที่ยังคงเป็นใจความสำคัญในการปลดพนักงานในครั้งนี้ก็คือความไม่แน่นอน
เพราะข้อแรกคือ Brain Chesky ไม่รู้ว่าผู้คนจะสามารถกลับมาเดินทางสัญจรกันได้ปกติ 100% เมื่อไหร่ ส่วนเหตุผลข้อสองก็คือว่า ถ้าหากการเดินทางกลับมาได้แล้ว ทุกอย่างก็คงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ดังนั้น Airbnb จึงต้องทำการรัดเข็มขัดเพื่อรับมือกับความไม่แน่ไม่นอนที่อาจจะเกิดขึ้น
พนักงานที่ถูกปลดจะได้รับเงินชดเชย 14 สัปดาห์ และบวกเพิ่มอีก 1 สัปดาห์สำหรับพนักงานที่ทำงานมากกว่า 1 ปี ซึ่งสามธุรกิจที่จะโดนลดน้ำหนักลงไปก็คือ ธุรกิจขนส่ง, Airbnb Studio และธุรกิจโรงแรมที่ Airbnb ได้เริ่มเข้าไปลงทุนเพิ่มในช่วงหลังๆ นอกจากนี้ทางบริษัทยังจะทำการตั้งเว็บไซต์ Talent directory เพื่อให้พนักงานและคนที่ตกงานจากโควิดมาอัพโหลดเรซูเม่กันไว้ได้ฟรีๆอีกด้วย
และสำหรับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปของทางบริษัทนั้น พนักงานที่ถูกปลดออกก็จะได้สิทธิ์ในการได้รับไป “ฟรีๆ” ทิ้งท้ายด้วยคำกล่าวของทางซีอีโอที่บอกไว้ว่าคอมพิวเตอร์เป็รเครื่องมือการทำงานที่สำคัญที่สุดในยุคนี้ นอกจากนี้พนักงานที่โดนปลดออกก็ยังจะได้รับหุ้นของ Airbnb ตบท้ายด้วยประกันคุ้มครองสุขภาพกายและสุขภาพจิตไปอีก 1 ปีเต็ม นับตั้งแต่วันที่ออกจากงาน
โดยหลังจากการปรับลดพนักงานในครั้งนี้ Airbnb ก็จะกลับมาโฟกัสที่ “เอกลักษณ์” แรกเริ่มของบริษัทอย่างแท้จริงมากขึ้น เนื่องจากว่า Airbnb นั้นเกิดขึ้นมาจากการเชื่อมต่อกันระหว่างผู้คน แต่ในพักหลังๆกลับดูเหมือนว่าภาพลักษณ์ของธุรกิจจะออกไปเชิงพาณิชย์มากเกินแถมยังขยายใหญ่จนไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง
ถือว่าเป็นการประกาศปลดพนักงานที่ให้สวัสดิการกันจนทั่วโลกต้องหันมาสนใจ เนื่องจากว่า Airbnb ยอมรับว่าการตัดสินใจในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะความจำเป็น ไม่ใช่ความผิดของพนักงาน
ถึงอย่างไรก็ต้องมาติดตามดูและให้กำลังใจกันต่อไปอย่างใกล้ชิดนะครับกับ Airbnb และเหล่าธุรกิจต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในครั้งนี้ เชื่อว่าทุกๆอย่างจะกลับมาเป็นปกติได้อย่างแน่นอน แต่อย่าลืมนะครับว่ามันจะต้องเป็นความปกติแบบใหม่หรือ New normal
ดังนั้นหน้าที่ของเราทุกคนคือเตรียมตัวกันไว้ให้พร้อมในทุกๆสถานะการณ์ เพราะเชื่อว่าในทุกๆวิกฤตินั้นจะมีสัญญาณอะไรบางอย่างคอยเตือนเราอยู่เสมอ เพียงแต่ว่าเราจะมีเวลาไปสนใจมันบ้างหรือเปล่าก็เท่านั้น
แล้วคุณล่ะ ? มีการปรับตัวหรือเปลื่ยนแปลงอะไรไปบ้างแล้วในวิกฤติรอบนี้ หวังว่าเพื่อนๆจะสามารถเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นมันไปได้ด้วยสติ ความอดทน และวินัยที่ดี
สำหรับในวันนี้ก็คงจะมีเนื้อหาสาระดีๆมาฝากกันไว้เพียงเท่านี้
สวัสดีครับ...
ติดตามบทความดีๆของพวกเราได้ทาง WEBSITE
หรือ FACEBOOK เพจ หุ้นพอร์ทระเบิด
และช่องทางใหม่ YouTube ‼️
- - - -
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
