2 ก.ค. 2020 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา โมเดลธุรกิจที่ทำให้ Fortnite ใหญ่กว่า Kitty 10 เท่า
Fortnite เกมแนว Battle Royale ที่มีรายได้มากที่สุดในโลกปี 2019
เจ้าของเกมนี้คือบริษัทผู้พัฒนาเกมและซอฟต์แวร์สำหรับสร้างเกมที่ชื่อว่า Epic Games
Hello Kitty ตัวการ์ตูนสุดน่ารักที่หลายคนชื่นชอบ มีเจ้าของคือ Sanrio อาณาจักรการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ในญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ ลงทุนแมน และ ลงทุนเกิร์ล เพิ่งเขียนสองเรื่องนี้ไป
ทำให้รู้ว่า ในตอนนี้ Epic Games มีมูลค่าสูงกว่า Sanrio ถึง 10 เท่า
อะไรทำให้ 2 ธุรกิจ ในสองอุตสาหกรรมนี้ มีมูลค่าต่างกันมากขนาดนี้
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักแต่ละฝั่งกันก่อน..
Epic Games เป็นบริษัทพัฒนาเกมและพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับสร้างเกมสัญชาติอเมริกัน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดยมีผลงานเกมที่มีชื่อเสียง เช่น Gears of War, Unreal, Infinity Blade
Cr. Epic Games Store
แต่ที่ประสบความสำเร็จ และเรียกว่าเป็นหัวเรือหลักของ Epic Games คือ “Fortnite”
เกมแนว Battle Royale ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกจนขึ้นแท่นเกมที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2019
Epic Games ยังมีซอฟต์แวร์สำหรับสร้างเกม หรือกราฟิกสำหรับสร้างภาพยนตร์ ที่ชื่อว่า Unreal Engine ที่เป็นที่นิยมของนักพัฒนาเกมและสร้างกราฟิกทั่วโลก และยังมีแพลตฟอร์มสำหรับขายเกมออนไลน์เป็นของตัวเองอีกด้วย
ในฝั่งของ Sanrio
เป็นบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนที่เน้นความน่ารัก เช่น Bad Badtz-Maru, Pompompurin, My Melody
แต่ที่พูดชื่อขึ้นมาแล้วน้อยคนมากจะไม่รู้จัก คงจะเป็น “Hello Kitty”
อาณาจักรตัวการ์ตูนสุดน่ารักแห่งนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1960
จากกิจการผ้าไหมในตอนเริ่มแรก จนเริ่มมีชื่อเสียงจากการวาดลายการ์ตูนลงบนรองเท้าแตะ
จนกระทั่งขยายอาณาจักรยิ่งใหญ่มาจนถึงตอนนี้
Cr. CNN
จะเห็นว่า สิ่งที่เป็นจุดเด่นของทั้ง 2 บริษัท คือ ความมีชื่อเสียงในระดับโลกของแบรนด์ และมีสินค้าที่โด่งดังเป็นที่นิยม
คราวนี้มาดูมูลค่าของแต่ละบริษัท
Sanrio หรือ Sanrio Co., Ltd. จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว มูลค่าปัจจุบัน 44,000 ล้านบาท
ส่วน Epic Games, Inc. ถูกประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ 530,000 ล้านบาท
มูลค่าของ Epic Games ที่มากกว่า Sanrio ถึง 10 เท่า มันเกิดจากอะไร? ทั้งที่ในชีวิตของทุกคนอาจจะคุ้นเคยกับสินค้าของ Sanrio กันมากกว่า
ถ้าไม่นับเรื่องการตีมูลค่าจากนักลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ของ Epic Games อาจเป็นราคาที่ให้พรีเมียมสูงเกินกว่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จริงของ Sanrio แล้ว
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ช่องทางในการสร้างรายได้ของทั้ง 2 บริษัทนี้มีรูปแบบที่ต่างกัน
Epic Games มีรายได้เกือบทั้งหมดจากช่องทางออนไลน์ ผ่านการขายไอเทมในเกม ขายเกม และค่าบริการการใช้ซอฟต์แวร์สร้างเกม
ขณะที่ Sanrio สัดส่วนรายได้มาจาก
การขายสินค้า 40%
สวนสนุก 23%
ค่าลิขสิทธิ์ 20%
อื่นๆ 17%
รายได้มากกว่า 60% ของ Sanrio มาจากการขายสินค้าและให้บริการสวนสนุก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นออฟไลน์
ประเด็นคือ การเข้าถึงในสินค้าของ 2 บริษัทนี้มีความแตกต่างกัน
ลองคิดง่ายๆ ว่า ถ้าเราอยากซื้อสินค้าภายในเกม Fortnite ก็ซื้อได้เลย และได้ของจากบริษัท Epic Games ได้ทันที
Cr. Epic Games Store
แต่ถ้าเราอยากได้ตุ๊กตา Hello Kitty สักหนึ่งตัว จะต้องไปซื้อที่ห้างหรือสั่งซื้อออนไลน์จากผู้จัดจำหน่ายที่ไม่ใช่ Sanrio หรือสวนสนุกของ Sanrio ก็ต้องมีคนเดินทางไปเที่ยวจึงจะสามารถสร้างรายได้ขึ้นมา
Cr. All About Japan
ซึ่งจุดนี้ทำให้การเข้าถึงลูกค้ามีความแตกต่างกัน
Epic Games สามารถเข้าถึงลูกค้าทุกคนทั่วโลกได้ทันทีโดยตรง
ส่วน Sanrio ต้องขายสินค้าผ่านตัวกลางมากมาย ซึ่งก็ต้องเจอกับปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ที่ถูกเลียนแบบอีกด้วย
อีกประเด็นสำคัญ คือ ขนาดของตลาดที่แตกต่างกัน
Epic Games อยู่ในตลาดที่ใหญ่ทั่วโลก ครอบคลุมหลายช่วงอายุ ตั้งแต่ เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือผู้ใหญ่
ในขณะที่ Sanrio มีขนาดของตลาดที่เล็กกว่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักคือ เด็ก หรือ ผู้หญิง
ทั้งหมดที่ว่ามาสะท้อนให้เห็นจากผลประกอบการในปี 2019 ของสองบริษัท
Epic Games มีรายได้ 130,000 ล้านบาท กำไร 23,250 ล้านบาท
Sanrio มีรายได้ 12,245 ล้านบาท กำไร 455 ล้านบาท
จากตัวเลขนี้ก็เห็นได้ว่า การตีมูลค่านอกตลาดหลักทรัพย์ที่ให้ Epic Games มีมูลค่าสูงกว่า Sanrio ถึง 10 เท่า อาจจะสมเหตุสมผลแล้วก็เป็นได้ เพราะ Epic Games ก็สามารถทำรายได้มากกว่า Sanrio ถึง 10 เท่าเช่นกัน
แม้ทั้งสองบริษัทนี้จะอยู่คนละอุตสาหกรรมที่มาเทียบกันโดยตรงได้ยาก
แต่ถ้ามองปัจจัยหลายอย่างในมุมกว้าง
ก็จะเห็นหลายเหตุผลที่บอกว่าทำไมมูลค่ามันถึงแตกต่างกัน
อย่างในกรณีนี้ก็ได้เห็นว่า
ถึงแม้อายุของบริษัท Epic Games จะไม่นานเท่า Sanrio เจ้าของอาณาจักรคิตตี้ที่ยิ่งใหญ่
แต่เมื่อ Epic Games มีโมเดลธุรกิจที่เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายกว่า ก็สามารถสร้างมูลค่าที่สูงกว่าได้เช่นกัน..
1
โฆษณา