1 ก.ค. 2020 เวลา 13:40 • ธุรกิจ
ทำความรู้จัก STGT
หุ้นน้องใหม่จากวิกฤติ เตรียมตัวเข้าประชิดตลาด New normal
เชื่อว่าหนึ่งในหุ้นที่ตลาดให้ความสนใจกันมากที่สุดในช่วงนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นหุ้น “ถุงมือยาง” อย่าง STA ที่ราคาพุ่งปรี๊ดกันขึ้นมาในช่วงโควิด จึงไม่แปลกที่หุ้นตัวนี้จะถูกพูดถึงกันไม่เว้นวัน
ก็เพราะว่า Demand หรือความต้องการของถุงมือยางนั้นเพิ่มขึ้นมากนับตั้งแต่ที่โรคระบาดได้เกิดขึ้นกันแบบก้าวกระโดด
และเดี๋ยววันนี้พวกเราทีมงาน หุ้นพอร์ทระเบิด ก็จะพา
ทุกคนไปเจาะดูหุ้นที่เป็นบริษัทย่อย(แต่เป็นแรงหลัก) ของ STA อย่าง STGT กันดีกว่าว่า หุ้นน้องใหม่ดาวรุ่งตัวนี้เป็นใคร ทำอะไร และน่าสนใจแค่ไหน ?
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ
ซึ่ง STGT หรือบมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) ก็เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือยางที่ใหญ่สุดในไทยและยังถือว่าเป็นอันดับ 3 ในเวทีโลกอีกด้วย โดยที่ธุรกิจของ STGT ก็จะแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ
ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติ (Latex Glove)
ในส่วนนี้จะประกอบด้วยถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง (Latex Powdered Glove) และถุงมือยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง
ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางไนไตรล์ (Nitrile Glove)
ถุงมือชนิดนี้จะมีคุณสมบัติในการทนทานต่อน้ำมันและสารเคมีได้สูง ผลิตมาจากน้ำยางสังเคราะห์
ย้อนกลับไปในปีพ.ศ. 2560 STGT ยังคงมีกำลังการผลิตทั้งหมดอยู่เพียงราวๆ 15,000 ชิ้นต่อปี แต่หลังจากที่ Covid-19 ได้เกิดการแพร่ระบาดนั้น ทางบริษัทก็ได้มองเห็นโอกาสจากความแข็งแกร่งของบริษัทแม่อย่าง STA ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำยางระดับโลก
ทำให้ STGT ไม่รอช้า เร่งกำลังการผลิตมาเรื่อยๆจากการเข้าไปควบรวมกิจการกับ TK จนในปัจจุบันสามารถผลิตถุงมือเพิ่มขึ้นได้เป็น 33,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งถ้าหากไปในดูข้อมูลที่เป็นโครงสร้างการตลาดของถุงมือยางแล้วนั้น ประเทศมาเลเซียจะถือว่ามีสัดส่วนการตลาดเป็นเบอร์ 1 ของโลกอยู่ถึง 63% รองลงมาคือประเทศไทยเราที่ 18% นั่นเอง
แต่เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า ในสัดส่วนรวมกว่า 81% ของประเทศมาเลเซียและไทยเรานั้น มีบริษัทชั้นนำที่อยู่ในสนามนี้เพียงแค่ 5 เจ้าเท่านั้น ซึ่งแน่นอนครับว่า STGT ก็คือ 1 ใน 5 แต่ทีนี้คำถามก็คือว่า แล้วทำไมไม่มีใครมาทำแข่ง ? หรือทำไมตลาดถุงมือยางมีผู้เล่นอยู่น้อยจัง ??
ซึ่งความจริงนั้น “ถุงมือยาง” จัดว่าเป็นสินค้าที่ต้องใช้ความละเอียดในการผลิตเยอะมากเพราะมันคืออุปกรณ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ อีกทั้งวัตถุดิบหลักอย่าง “น้ำยางเข้มข้น” นั้นก็ยังมีอยู่แค่ในประเทศแถบนี้อย่างไทย, มาเลเซียและอินโดนีเซีย เนื่องจากต้นยางจะให้ผลผลิตดีที่สุดในบริเวณเส้นศูนย์สูตร
โดยเรื่องนี้ก็จะถือว่าเป็นความได้เปรียบหลักๆที่เราเห็นได้จาก STGT นะครับ เพราะบริษัทแม่อย่าง STA นั้นก็เป็นผู้ผลิตและส่งออกวัตถุดิบที่เป็นหัวใจสำคัญของถุงมือยางอย่างน้ำยางเป็นรายใหญ่ของโลกที่มีสวนยางอยู่ถึง 19 แห่งด้วยพื้นที่รวมทั้งหมด 45,000 ไร่กันเลยทีเดียว ดังนั้น STGT ก็จะถือว่าได้เปรียบบริษัทถุงมือยางเจ้าอื่นทางด้านต้นทุนไปแล้วล่ะครับหนึ่งข้อ
และในทางด้านภาพรวมของอุตสาหกรรมถุงมือยางนั้นก็จะถือว่าเดินมาในทิศทางที่ดีมาโดยตลอด 4 ปีครับ เพราะว่าอุตสาหกรรมนี้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 12% ส่งผลให้รายได้และกำไรของ STGT เติบโตขึ้นมาแบบระเบิดๆกันไปในปีนี้
💰 งบการเงินของ STGT
ปี 2560 รายได้ 11,246 ล้านบาท
กำไร 214 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 10,988 ล้านบาท
กำไร 981 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 11,991 ล้านบาท
กำไร 614 ล้านบาท
(ล่าสุด)ไตรมาส 1 ปี 2563
รายได้ 3,873 ล้านบาท
กำไร 421 ล้านบาท
ถึงแม้ว่ากำไรจะมีการผันผวนไปบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมาจากการลงทุน ขยาย และปรับโครงสร้างกิจการต่างๆ แต่ในไตรมาสล่าสุดก็จะเห็นเลยครับว่ากำไรของ STGT ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 184% เนื่องจากยอดขายของถุงมือยางในไตรมาสนี้ได้เพิ่มขึ้นมากว่า 29% กับอัตรากำไรขั้นต้นซึ่งเป็นจุดเด่นของธุรกิจปลายน้ำที่สูงถึง 23%
โดยที่เป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตของ STGT ก็จะมีอยู่ว่าเพิ่มเป็น 50,000 ล้านชิ้นต่อปีให้ได้ภายในปี 2567 แตะ 70,000 ล้านชิ้นต่อปีภายในปี 2571 และเดินหน้าไปให้ถึง 100,000 ชิ้นต่อปีภายในปี 2575
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรงสุดๆในช่วง Covid-19 กันเลยก็ว่าได้นะครับสำหรับ STGT โดยที่ Demand ของถุงมือยางก็น่าจะเติบโตไปได้อีกราวๆปีละ 10 - 12% แต่ปีนี้และปีหน้าก็น่าจะมีอะไรให้ตื่นเต้นกันมากสักหน่อย เพราะว่าถุงมือยางนั้นจำเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมการแพทย์
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ STGT หุ้นอีกตัวหนึ่งที่ “น่าจะ” ไหลไปได้ดีกับคลื่นของพฤติกรรมใหม่ของผู้คนที่เรียกว่าNew normal และสำหรับใครที่สนใจก็ยังมีเวลาให้ไปทำการบ้านกันต่ออีกนิดหน่อย เพราะว่าหุ้นตัวนี้กำลังจะเข้าทำการซื้อ-ขายเป็นวันแรกใน SET แล้วในวันที่ 2 ก.ค. 63 หรือพรุ่งนี้นั่นเอง
ด้วยราคา IPO ที่ 34 บาท/หุ้น STGT ในวันพรุ่งนี้จะรุ่งหรือร่วง ?
เรื่องนี้ก็คงจะต้องไปติดตามกันต่ออย่างใกล้ชิด เพราะสุดท้ายนั้น เจ้ามือที่แท้จริงของราคาหุ้นก็คือ “กำไร” ของบริษัทและในวันนี้ก็คงจะต้องขอตัวลากันไปก่อน
สวัสดีครับ...
ติดตามบทความดีๆของพวกเราได้ทาง WEBSITE
หรือ FACEBOOK เพจ หุ้นพอร์ทระเบิด
และช่องทางใหม่ YouTube ‼️
- - - -
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
โฆษณา