2 ก.ค. 2020 เวลา 14:11 • ประวัติศาสตร์
ปกติผมจะเป็นคนกลัวผีแต่วันนี้นึกยังไง ไม่รู้ถึงนำ
เรื่องผีมาเล่าเพราะว่าครั้งหนึ่งผมเคยไปคำชะโนด
มาครับ เรื่องผีจ้างหนัง มีอยู่จริงทุกคนอาจจะเคย
ได้ยินมาบ้างแล้ว แต่บางคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่าภาคอีสานเรามีเรื่องมีราวลี้ลับมากมายในสมัยนั้น ที่เป็นตำนานและมีอยู่จริงครับ
เรื่องตำนานผีจ้างหนังเกิดขึ้นจริงในปี พ.ศ.2532 มีคนมาว่าจ้างบริษัทหนังแห่งหนึ่ง ให้ไปฉายหนังกลางแปลงที่ ดินแดนคำชะโนด หมู่บ้านวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
คุณธงชัย แสงชัย เจ้าของหนังเร่บริษัทแจ่มจันทร์ภาพยนตร์กล่าวในบันทึกประวัติคำชะโนดของนายสวาท บุรีเพีย อดีตศึกษาธิการอำเภอบ้านดุง “เรื่องเกิดขึ้นในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2532 มีคนมาว่าจ้างให้หนังของผมไปฉายที่บ้านวังทอง อำเภอบ้านดุง ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 100 กิโลเมตร ค่าจ้างตกลงกันไว้ 4,000 บาท มีหนังฉาย 4 เรื่อง แต่มีสัญญาพิเศษอยู่ 1ข้อ คือ ให้ฉายถึงแค่ตี 4 เท่านั้น ห้ามฉายถึงสว่าง พอตี 4 ก็ให้รีบเก็บข้าวของออกจากสถานที่ฉาย ซึ่งผมได้ฟังก็แปลกใจมากแต่ไม่ได้คิดอะไรในตอนนั้น เพราะเห็นว่าเป็นความต้องการของผู้มาว่าจ้าง จึงไม่ได้ซักถามถึงเหตุผล แต่ปรกติแล้วเวลาไปฉายหนังที่อื่น ชาวบ้านมักจะให้ฉายถึงสว่างทุกเจ้าไป
สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่รู้จักไปทั่วประเทศจากเรื่องเล่าผีจ้างหนังโดยมีบุคคลนิรนามไปว่าจ้างหน่วยฉายหนังเร่แจ่มจันทร์ภาพยนตร์ในตัวเมืองอุดรธานีไปฉายหนังในเกาะคำชะโนด
เมื่อถึงวันนัดหมาย ทางเจ้าของหนังกลางแปลงก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ไปยังสถานที่นัดหมาย ซึ่งพบว่าพื้นที่นี้ทำไมไม่มีใครเลย กลับเป็นป่าทึบที่แม้ที่ๆ จะเอาจอหนังขึงยังแทบจะไม่มี เจ้าหน้าที่ก็ต่างสงสัยกันว่าผู้คนละแวกนี้หายไปไหนหมด หรือไม่รู้ข่าว อีกอย่างคือปกติเวลามีการฉายหนังกลางแปลง ก็จะร้านค้า ร้านอาหาร ต่างพากันมาเปิดขายกันมากมาย แต่งานนี้ กลับไม่มีเลย!! บรรยากาศโดยรอบดูเย็นยะเยือกไปหมด
จากนั้นก็ทำการเริ่มฉายหนัง โดยเริ่มตอน 3 ทุ่มตามที่นัดหมาย จู่ๆ ก็เริ่มมีคนเดินเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ที่แปลกคือ คนที่มาหากเป็นผู้หญิงจะนุ่งขาวห่มขาวและเลือกนั่งอยู่ด้านขวา ส่วนผู้ชายจะใส่เสื้อผ้าสีดำจะนั่งอีกข้างหนึ่ง โดยคนทั้งหมดนั่งกันสงบเงียบ เรียบร้อยไม่มีเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะฉายหนังอะไร ก็ไม่มีการส่งเสียงหรือแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาทั้งสิ้น
1.เวลา 21.00 น. จะมีชาวบ้านเริ่มทะยอยมาดูหนัง (ปกติจะมากันตั้งแต่ 19.00 น.)
2.ไม่ว่าหนังจะเป็นบู๊ หรือตลก อย่างใดก็ตามไม่มีการแสดงความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น
3.เมื่อใกล้เวลา 04.00น. ทุกคนก็รีบเก็บของ(เสื่อปูที่นั่ง)กลับทันที
4.ไม่มีแม่ค้ามาขายของแม้แต้เจ้าเดียว
จนกระทั่งฉายไปถึงเวลาตี 4 ก็มีคนมาบอกว่าให้เก็บข้าวของไปได้แล้ว อีกทั้งยังสั่งกำชับว่าเมื่อเก็บข้าวของเสร็จแล้ว ให้ออกไปทันที ห้ามหันหลังกลับมามองบริเวณที่ฉายหนังเด็ดขาด พอทางเจ้าหน้าที่เก็บของและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกเดินทางออกจากที่ทำการฉายหนังทันที แต่ก็เอะใจในคำสั่ง เลยหันกลับไปดู ซึ่งก็พบว่า คนดูหายไปไหนหมดแล้ว หายไปอย่างรวดเร็ว สร้างความสงสัยให้กับเจ้าหน้าที่ฉายหนังเป็นอย่างมาก
พอขับรถมาถึงหมู่บ้านวังทองตอนเช้าก็แวะซื้อของที่ร้านค้า ชาวบ้านเลยถามว่าไปฉายหนังที่ไหนมา เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าฉายในหมู่บ้านวังทอง แต่ชาวบ้านกลับยืนยันว่าไม่มีหนังมาฉายในหมู่บ้านเลย แม้กระทั่งเสียงชาวบ้านยังไม่ได้ยิน เรื่องก็เลยยุ่งว่าเมื่อคืน ไปฉายหนังที่ไหนมา ในที่สุดเมื่อถามกันจนเป็นที่เข้าใจ ก็ได้รับคำตอบจากชาวบ้านว่า... สถานที่ที่ไปฉายหนังคือ ป่าคำชะโนด สถานที่ลี้ลับที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นเมืองพญานาคซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านวังทองนั่นเอง
เรียบเรียง เจ หนุ่มสกลคนอิสระ
ครั้งหนึ่งที่คำชะโนด
โฆษณา