YGG มีอะไรดี?..ราคาบวกที 155%!! ใน 10 วัน
[เทรดมั่วทัวร์ดอย]
YGG : YGGDRAZIL - [เทรดมั่วทัวร์ดอย]
หากย้อนเวลากลับไป 10 วันทำการก่อนหน้า ตลาดหุ้นไทยหรือ SET Index ปิดที่ 1352 จุด เทียบกับ SET Index ล่าสุด (03/07/63) ปิดที่ 1,372 จุด นับเป็นการเปลี่ยนแปลงปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.47% แต่กลับมีหุ้นตัวหนึ่ง ได้มีการวิ่งออกจากฐานราคา 5.30 บาท เบรกขึ้นทำจุด all time high ใหม่ จนสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น 155% ในระยะเวลาเพียง 10 วันทำการเท่านั้น
ใช่แล้วครับ ผมกำลังจะพูดถึงหุ้น "YGG" หรือ บมจ.อิ๊กดราซิล กรุ๊ป บริษัทน้องใหม่ที่ IPO ตัวแรกในตลาด MAI ของปี 2563 ที่ได้เข้าเทรดในวันที่ 07 มกราคม 2563 เป็นวันแรก โดยเสนอขาย IPO ที่ราคา 5 บาท/หุ้น จำนวน 45 ล้านหุ้น และเปิดเทรดที่ราคา 5.30 บาท คิดเป็นการเกิดเหนือจองที่ 6%
YGG หรือ อิ๊กดราซิล กรุ๊ป ก่อตั้งในปี 2552 โดยคุณธนัชและคุณศรุต เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการตัดแต่งภาพโฆษณาและภาพเคลื่อนไหว หรือที่เรียกว่า Visual Effect (VFX) อีกทั้งบริษัทยังมีการต่อยอดออกไปในส่วนงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิก แอนิเมชั่นและเกมอีกด้วย
สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงินจาก IPO เพื่อ
1. ขยายสำนักงานใหม่ (กทม) ประมาณ 40 ลบ. (ภายในปี 2563)
2. จัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศแคนาดา เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอเมริกาเหนือและเอเชีย ประมาณ 50 ล้านบาท (ภายในปี 2564)
3. เงินทุนหมุมเวียนของบริษัท 122 ล้านบาท
Business Model
YGG แบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.งานโฆษณาและภาพยนต์ (Visual effect : VFX)
2.งานภาพยนต์แอนิเมชั่น (Animation)
3.ผลิตและรับจ้างผลิตเกม (Game)
1. งานโฆษณาและภาพยนต์ (Visual effect : VFX)
ก่อนจะมาทำความรู้จักการทำงานด้าน VFX ของ YGG เรามาลงทำความรู้จักถึงกระบวนการการผลิตงานโฆษณาและภาพยนต์กันก่อน
Cr.แบบ 56-1 บมจ. อิ๊กดราซิล กรุ๊ป
กระบวนการการผลิตโฆษณาและภาพยนต์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นตอนหลักๆ ได้แก่
• pre-production เป็นกระบวนการเริ่มต้นในการวางกรอบแนวคิด ไอเดีย รวบรวมข้อมูล ฯลฯ สำหรับใช้สร้างเนื้อหาเรื่องราว จัดหาตัวละคร เตรียมความพร้อมก่อนเริ่มการถ่ายทำ เพื่อให้ผลงานออกมาตรงกับความต้องการและสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย
• production คือ ขั้นตอนการถ่ายทำให้ตรงตามกรอบของ pre-production ทั้งในส่วนของการถ่ายภาพ การลงสถานที่จริงเพื่อเก็บภาพและเสียงตามรายละเอียดที่กำหนดไว้
• post-production เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการผลิต ซึ่งเป็นการเก็บรายละเอียดของงาน คือ การนำชิ้นงานจากขั้นตอนก่อนหน้ามาทำการตัดต่อ ให้เป็นเรื่องราว การใส่เทคนิคสร้างภาพพิเศษต่างๆ รวมถึงตัวละครจำลองที่ไม่สามารถถ่ายจริงได้ อีกทั้งยังมีการปรับสีภาพ ปรับแสงและใส่เสียงเพื่อให้งานเสร็จสมบูรณ์
ในกลุ่มงานโฆษณาและภาพยนต์นั้น YGG จะเข้ามามีบทบาทในขั้นตอนสุดท้าย หรือ Post-Production ซึ่งเป็นขอบเขตงานหลักของ YGG ในปัจจุบัน
แต่อนาคตอันใกล้นี้ ทางบริษัทได้มีการนำเข้าเทคโนโลยี unreal engine และ visual production ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พึ่งถูกใช้ถ่ายทำซีรี่ย์เรื่องใหม่ของ Star Wars: The Mandalorian มาเป็นส่วนต่อยอดในการรับงานบริการเพิ่มในส่วน production มาเติมเต็มในขั้นตอนการถ่ายทำชิ้นงานให้กับลูกค้ามากยื่งขึ้น
คงต้องติดตามกันนะครับ ว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะเข้ามามีส่วนเพิ่มในการสร้างรายได้ให้กับทางบริษัทได้มากน้อยแค่ไหน?? เพราะ YGG เขาเคลมว่า studio ถ่ายด้วยเทคโนโลยีนี้ ตัวเองเป็นเจ้าแรกของไทยและรอบๆบ้านกันเลยทีเดียวครับ
งานภาพยนต์แอนิเมชั่น (Animation)
ด้านงานแอนิเมชั่น มีขั้นตอนการผลิตคล้ายกับส่วนของโฆษณาและภาพยนต์ แต่มีความต่างที่แอนิเมชั่นนั้น จะเน้นไปที่ตัวละครจำลองที่สร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์ จึงทำให้ YGG สามารถเข้ามามีบทบาทในการสร้างตั้งแต่ส่วนของ production ไปจนจบที่ post-production
Cr.แบบ 56-1 บมจ. อิ๊กดราซิล กรุ๊ป
YGG จึงทำงานตั้งแต่การออกแบบภาพรวม ไปยันการปรับแต่งสี แต่ส่วนงานหลักจะไปเน้นที่การแสดงออกของตัวละครแอนิเมชั่น ทั้งการแสดงกริยาท่าทาง อารมณ์ของตัวละคร ให้มีความสมจริงและมีความเป็นธรรมชาติ
ผลิตและรับจ้างผลิตเกม (Game)
นอกเหนือจากงานโฆษณา ภาพยนต์และภาพยนต์แอนิเมชั่นแล้ว YGG ยังเป็นผู้ผลิตเกม โดยปี 2560 YGG ได้สร้างกระแสให้กับวงการเกมไทย ที่ทำให้เกมฝีมือคนไทยไปติดอันดับเกมขายดีบน PC Game platform อย่าง “Steam” ขายดีติดหน้าแรกในตลาดเอเชีย 2 อาทิตย์ติด ทำให้เกมคนไทยกลายเป็นที่รู้จักแบบสากลด้วยความหลอน ภายใต้เกมที่ชื่อ “Home Sweet Home” หลังจากนั้น YGG ยังได้ปรับ home sweet home ขึ้นไปยังเครื่องเล่น play station4 play station VR และ Xbox อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยกระแสความน่ากลัวของ Home Sweet Home ภาคแรก ทำให้เกิดความสนใจจากนักลงทุนจีน เข้ามาจ้าง YGG ทำภาคต่อ Episode II เพื่อไปทำการตลาดในจีน และเกมใหม่อย่าง “Number 6” อีกด้วย แต่งานนี้ YGG เป็นแค่ผู้สร้างเพียงเท่านั้น ไม่ได้รับรู้รายได้จากการขายเกมแบบภาคแรกนะครับ
ด้วยไอเดียที่ไม่หยุดนิ่ง YGG ผุดไอเดียการสร้าง Home Sweet Home Suvival: HSHS เกมภาคใหม่ในโหมดของการเล่นแบบ multiplayer บนคอนเซ็ปภาพของเกมที่ให้อารมณ์ย้อนยุคไปในสมัยหนังสือผีเล่ม 5 บาท โดยแนวเกมมีลักษณะคล้ายกับ dead by daylight หรือ identity v
คาดว่าจะปล่อยออกมาให้เล่นกันในช่วงไตรมาสนี้ ซึ่งจะออกมาในเวอร์ชั่น PC ก่อน และน่าจะมีเวอร์ชั่น Mobile ตามมาทีหลัง ส่วนด้านการสร้างรายได้จาก HSHS นั้น YGG ตั้งโมเดลการทำรายได้ผ่านการขายชุดปรับแต่งตัวละคร รวมถึงเอฟเฟ็กต่างๆที่สร้างความสวยงามให้กับผู้เล่น และการขาย ad ลงไปในฉากของเกม แบะทางทีมงานเองก็เตรียมที่จะผลักดัน HSHS ให้เป็น esport แบบจริงจัง
หากทำสำเร็จ น่าจะเป็นรายได้ที่ส่งผลลงกำไรได้อย่างงามเลยทีเดียว สตอรี่เยอะซะขนาดนี้ ถ้าเกมเปิดตัวออกมา สงสัยผมต้องลองโหลดมาเล่นซะแล้วหล่ะ
โครงสร้างรายได้และกำไรของ YGG
ปี 2559
รายได้รวม 85.1 ล้านบาท
• VFX 84.0 ล้านบาท (98.7%)
• Animation 1.1 ล้านบาท (1.3%)
กำไร 28.1 ล้านบาท
ปี 2560
รายได้รวม 135.3 ล้านบาท
• VFX 96.1 ล้านบาท (71.0%)
• Animation 15.5 ล้านบาท (11.4%)
• Game 23.7 ล้านบาท (17.5%)
กำไร 14.0 ล้านบาท
ปี 2561
รายได้รวม 170.7 ล้านบาท
• VFX 57.5 ล้านบาท (33.7%)
• Animation 57.5 ล้านบาท (33.7%)
• Game 55.6 ล้านบาท (32.6%)
กำไร 21.0 ล้านบาท
ปี 2562
รายได้รวม 195.7 ล้านบาท
• VFX 94.1 ล้านบาท (48.1%)
• Animation 53.6 ล้านบาท (27.4%)
• Game 47.9 ล้านบาท (24.5%)
กำไร 48.6 ล้านบาท
1Q2563
รายได้รวม 57.2 ล้านบาท
กำไร 13.1 ล้านบาท
พร้อมด้วยงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส1ปี2563 ที่มูลค่า 110.5 ล้านบาท ซึ่งประมาณ 80% เป็นงานแอนิเมชั่นเป็นหลัก ทำให้การรับรู้รายได้จะเป็น project ไป ตามระยะเวลาของงานนั้นๆ
ข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจ
• YGG เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอยู่บน New Economy นับว่าเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างเห็นได้ชัด และด้วยผลงานที่ผ่านมาของ YGG ทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักทั้งจากลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหากพิจารณาตามกลุ่มลูกค้าพบว่า แนวโน้มการเติบโตของบริษัท จะมาจากรายได้ลูกค้าต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
Cr.แบบ 56-1 บมจ. อิ๊กดราซิล กรุ๊ป
• แนวโน้มอุตสาหกรรม
กลุ่มธุรกิจงานโฆษณาและภาพยนต์ของ YGG นั้น มีแนวโน้มที่จะเติบโตในฃ่องทางออนไลน์ค่อนข้างสูง
Cr.แบบ 56-1 บมจ. อิ๊กดราซิล กรุ๊ป
กลุ่มงานแอนิเมชั่นในต่างประเทศเอง ก็เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต โดยข้อมูลจากแบบ 56-1 ของ YGG ได้หยิบนำข้อมูลจาก Researchandmarkets.com คาดว่ามูลค่าตลาดของแอนิเมชั่นทั่วโลกในปี 2563 จะอยู่ที่ 270,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (จาก 259,000 ล้านเหรียญฯในปี 2561)
Cr.แบบ 56-1 บมจ. อิ๊กดราซิล กรุ๊ป
ด้านเกมมือถือ จะเป็นตัวผลักดันหลักการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมอย่างเห็นได้ชัด จากการที่มือถือเป็นอุปกรณ์จำเป็นของผู้คน ทำให้เกมมือถือจึงเป็นคีย์หลักที่บริษัทกำลังจะก้าวเข้ามาในตลาดนี้ผ่านเกม HSHS
• กลุ่มลูกค้าและผลงานของ YGG
ลูกค้าหลักคือกลุ่มลูกค้า Production house
Cr.Oppday 1Q63 : YGG
และผมเชื่อว่า..พวกเราทุกคนล้วนแต่เคยชมผลงานของ YGG โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่า YGG เป็นส่วนหนึ่งในฐานะผู้ผลิตฯผลงานดังกล่าว
Cr.Oppday 1Q63 : YGG
Cr.Oppday 1Q63 : YGG
แม้แต่ค่ายหนังอารมณ์ดีอย่าฃ GDH ก็ใช้บริการ VFX กับทาง YGG เช่นกัน
Cr.Oppday 1Q63 : YGG
Cr.Oppday 1Q63 : YGG
Cr.Oppday 1Q63 : YGG
ล่าสุด YGG ติด Cash balance
ด้วยความร้อนแรงของราคาหุ้น ล่าสุด (03/07/63) YGG โดนประกาศให้ซื้อ-ขายด้วยบัญชี cash balance จากการที่ราคาปิดที่ 13.50 บาท/หุ้น คิดเป็น PE ที่ 44.6 เท่า!! โดยเริ่มตั้งแต่ 07/07/63 ถึง 14/08/63
ต่อให้บริษัทจะน่าสนใจ หรือมีความสามารถในการเติบโตมากแค่ไหน แต่ด้วยราคาหุ้นที่เทรดบน valuation ที่แพงมาก เรียกได้ว่าสะท้อนการเติบโตในอนาคตไปเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่สนใจจึงควรพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและกำไรในอนาคต ว่าจะสามารถวิ่งตามราคาหุ้นได้ทันหรือไม่?? ก่อนตัดสินใจการลงทุนครับ
ด้านความเห็นของผู้เขียนกับ YGG
ในมุมของผู้เขียนนั้น YGG เป็นบริษัทที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะว่าธุรกิจตั้งอยู่บนเทคโนโลยี ซึ่งเป็น New Economy ที่สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ แปลว่าบริษัทมีความสามารถในการหารายได้จากนานาประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก
โดยการแข่งขันระดับสากล จะวัดกันจากคุณภาพของผลงานเป็นหลัก อีกทั้งอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นเองนั้น หากมีตัวละครที่ติดกระแส ก็จะมีส่วนเพิ่มในการต่อยอดเชิงธุรกิจได้ในอนาคต
สุดท้ายคือเทคโนโลยีเกม โดยเฉพาะเกมมือถือ เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีผู้เล่นทั่วโลกรออยู่ และการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีในอนาคตอย่าง VR เอง ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ว่าบริษัทจะเติบโตไปกับเทรนเหล่านี้ได้หรือไม่? คงต้องติดตามกันไปยาวๆครับ
แต่ด้านราคาช่วง 10 วันทำการที่ผ่านมา ได้มีการปรับตัวขึ้นมาแรง ทำให้ราคาปัจจุบัน ดูจะไม่น่าสนใจแล้ว เพราะเสี่ยงต่อการซื้อไล่ราคา หรือซื้อหุ้นดีที่ราคาแพงได้ครับ
ยอมรับเลยว่า YGG เป็นหุ้นนอกกระแสที่ผมเองก็เคยอ่านแค่ผ่านๆ แต่ไม่ได้ไปศึกษาลงลึกและตอนราคา 4-5 บาท YGG เทรดแบบมี bid offer เพียงแค่หลัก 1,000-10,000 หุ้นต่อช่อง มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องสูง จนผมได้มีโอกาสมาฟัง oppday ของบริษัท ซึ่งเป็นจังหวะราคาขึ้นมาแถว 6 บาทกว่าแล้ว และตั้งใจว่าจะรอการพักตัวของราคา จากวันนั้นถึงวันนี้ ราคาหุ้นยังไม่มีการพักตัวเลย จึงขอเขียนเตือนตัวเองถึงการต้องพยายามศึกษาข้อมูลบริษัมต่างๆให้ดี เพื่อโอกาสที่จะเจอหุ้นดีก่อนราคาจะวิ่ง ทำให้ YGG เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ควรเขียนบันทึกเอาไว้เตือนตัวเองครับ
สุดท้ายนี้
บทความนี้เป็นเพียงแค่การรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจของบริษัท มาทำสรุปตามความเห็นของผู้เขียน มิได้มีประสงค์ที่จะชี้นำให้เกิดการซื้อขายหุ้นแต่อย่างใด อีกทั้งการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุนครับ
ที่มา:
• แบบ 56-1 บมจ.อิ๊กดราซิล กรุ๊ป
• Oppday 1Q63 - YGG
#เทรดมั่วทัวร์ดอย
- 31
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
