บริษัทโซฟาร้อยล้าน ที่เกิดจากความต้องการที่ไม่มีใครใส่ใจ
เรามักจะเคยได้เห็นตัวอย่างของสินค้าหรือบริการหลายอย่างที่เกิดขึ้น "unmet need" ซึ่งก็คือความต้องการที่ไม่มีใครสามารถตอบสนองหรือไม่มีใครสนใจ ซึ่งเหมือนกับ Kabeer Chopra and Stephen Kuhl ที่เกิดคำถามว่าทำไมไม่มีโซฟาที่มีคุณภาพ จัดส่งไว และไม่ต้องเสียเวลาปรพกอบมากมาย จากคำถามจึงก่อเกิดเป็น "Burrow" ซึ่งอาจจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเฟอร์นิเจอร์ก็เป็นได้
Burrow คือใคร มีที่มีที่ไปอย่างไร เราตามไปดูกัน
1) ซื้อโซฟาสักตัวทำไมยากจัง?
เรื่องมันเกิดเมื่อหนุ่มสองคนคือ Chopra และ Kuhl ย้ายไปเรียนปริญญาโทที่ Wharton แน่นอนว่าพวกเค้าต้องย้ายบ้านและซื้อของใช้หลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโซฟา
Kuhl เช่ารถไปซื้อโซฟาที่อิเกีย แต่ต้องกับมานั่งประกอบโซฟาของเค้ากว่าครึ่งวัน ขณะที่นาย Chopra เลือกซื้อโซฟาสำเร็จรูป แต่สีและผ้าที่เค้าอยากได้ต้องใช้เวลา 12 สัปดาห์ในการผลิตและจัดส่งมาที่สาขา
สุดท้าย Chopra ตัดใจซื้อโซฟาสีส้ม เพราะสามารถได้รับของภายใน 3 สัปดาห์ ที่เจ็บช้ำกว่านั้นเค้าต้องเข็นโซฟากลับบ้านเอง (เพราะค่าส่งแพงมาก แม้จากร้านไปบ้านเข้าห่างกันไม่กี่กิโล)
💡เมื่อทั้งสองได้เเลกเปลี่ยนประสบการณ์ในชั้นเรียน จึงเกิดคำถามว่า ทำไหม ไม่มีร้านขายโซฟาที่คุณภาพดี ประกอบง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ และจัดส่งเร็วและฟรี ถ้าไม่มีใครทำงั้นเราทำกันไหม?
Chopra และ Kuhl co-founder กับโซฟาของพวกเค้า
2) ไม่ได้อย่างที่อยาก ก็สร้างสินค้าเองเลยละกัน
เริ่มต้นจากประสบการณ์แย่ๆ ทั้งสองจึงร่างไอเดียและทำแผนธุรกิจเผื่อเป็นโปรเจ็คที่ใช้สำหรับปริญญาโทรของพวกเค้า
ในขณะเดียวกันพวกเค้าก็ได้ก่อตั้ง Burrow ด้วยเงินทุนก้อนแรกจากเพื่อนๆและครอบครัว แต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คิด เพราะหลังจากที่พวกเค้าพัฒนาตัวอย่างของสินค้า แล้วเริ่มเดินสายหาผู้ผลิต ไม่มีใครเลยที่เห็นด้วยกับความคิดของพวกเค้า
ผู้ผลิตโซฟาแบบ high-end ทั้งหลายคิดว่าถ้าทำใน concept ที่คู่หูทั้งสองคิดมาก็ไม่ต่างกับการทำให้สินค้าของพวกเค้ากลายเป็นของถูก (ประมาณว่าจะเอาสินค้าพวกฉันไปเทียบกับอิเกียได้ยังไง)
โซฟาของ Burrow ที่แยกเป็นชิ้นๆใส่ลงกล่องได้
3) คิดถึงลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ
📌 การขนส่ง - ด้วยความต้องการของผู้ก่อตั้งทั้งสองที่ต้องการให้สินค้าของเข้าสามารถส่งถึงลูกค้าได้รวดเร็วที่สุด โจทย์นี้ทำให้พวกมองที่จะใช้บริษัทขนส่งอย่าง FedEx และ UPS แทนที่จะสร้างระบบขนส่งของตัวเอง
เพื่อให้ Burrow สามารถขนส่งได้ง่าย โซฟาของพวกเค้าจึงถูกออกแบบให้เป็น modular สามารถใส่ในกล่องที่มีขนาดและน้ำหนักต่อกล่อง
ซึ่งทำให้พวกเค้าสามารถจัดส่งสินค้าได้รวดเร็วภายใน 1 อาทิตย์และควบคุมต้นทุนการส่งได้ (จนไม่ต้องเก็บค่าส่งของจากลูกค้า)
📌 การประกอบ- เพื่อให้ลูกค้าสามารถประกอบโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ พวกเค้าเลือกใช้วิธีการประกอบแบบเป็นล็อค คล้ายหัวเข็มขัด ซึ่งทำให้การประกอบใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
นอกจากนี้การที่ออกแบบโซฟาเป็นแบบ modular ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกขนาดของโซฟาได้หลากหลาย และเรียกได้ว่าปรับเปลี่ยนแบบ mix&match ได้ด้วย
วิธีการประกอบของ Burrow ที่ไม่ต้องใช่เครื่องมือ
📌 คุณภาพ - ตรงนี้เป็นจุดที่ไม่ง่ายเลยสำหรับ Burrow ในตอนเริ่มต้น เมื่อไม่มีหน้าร้าน แถมยังต้องประกอบเองอีก การที่จะทำให้ตัวเองมีภาพจำในเรื่องคุณภาพให้แตกต่างจากอิเกียจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
พวกเค้าใช่เวลาไม่น้อยกว่าจะสามารถจูงใจให้โรงงานที่ผลิตสินค้า high-end ยอมร่วมมือด้วย และการลงมือเองในทุกขั้นตอนในช่วงต้น ทำให้พวกเค้าควบคุมคุณภาพได้เป็นอย่างดี จึงค่อยๆได้รับการยอมรับจากลูกค้า
จากวันที่ก่อตั้งในปี 2016 ถึงวันนี้ Burrow สร้างยอดขายกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ได้รับเงินลงทุนเพื่อขยายกิจการอีกเกือบ 1,000 ล้านบาท ยังไม่มีใครรู้ว่า Burrow จะเติบโตได้แค่ไหน
แต่สิ่งหนึ่งที่เรียนรู้จากพวกเค้าได้ก็คือ ในอุตสาหกรรมที่แทบจะเรียกว่าอิ่มตัว ก็ยังมีโอกาสใกม่ๆเสมอ ขอแค่คุณมีไอเดียที่จะทำให้ดีขึ้น และลงมือ
How 2 students turned their idea for an affordable couch-in-a-box into a multimillion-dollar company, cnbc.com, 9 Jan 2018
This Sofa Startup Has Been Fighting Murphy's Law Since Day 1. Now It's Ending the Year With $3 Million in Sales, inc.com, 15 Dec 2017
Burrow raises $4.3M for its modular sofa, techcrunch.com, 7 Dec 2017
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
