5 ก.ค. 2020 เวลา 05:11 • กีฬา
บรูโน่ แฟร์นันเดส : ผู้ผสมผสาน แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยจิตวิทยาและความจองหอง
มันจะเป็นไปได้หรือ ที่นักเตะคนเดียวเข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมๆ หนึ่งที่ทำให้กองเชียร์ของพวกเขาผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทีมที่เคยยิ่งใหญ่แต่ตอนนี้กลับถูกทุกฝ่ายมองข้าม ไม่ใช่แค่กับคู่อริอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล เพราะแม้แต่ คริสตัล พาเลซ หรือ เบิร์นลี่ย์ ก็สามารถบุกมาชนะพวกเขาได้ถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาแล้ว
สิ่งที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน คือการเข้ามาของ บรูโน่ แฟร์นันเดส ที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีหวังอีกครั้ง แต่นักเตะคนนี้ทำได้อย่างไร กับการใช้เวลาเพียง 2 เดือน เปลี่ยนทุกๆ คนในทีมได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ
ติดตามทั้งหมดได้ที่นี่
ยูไนเต็ด ในเงามืด
เกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ แมนฯ ซิตี้ ในวันที่ 8 มีนาคม คือวันที่ บรูโน่ แฟร์นันเดส พิสูจน์ตัวเองว่าเขาเป็นของจริง และคือคนที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนไป
การยกบอลข้ามกองหลังจากจังหวะฟรีคิกที่ใช้ไหวพริบ อันนำมาซึ่งประตูสำคัญประตูแรก เปลี่ยนรูปเกมนี้ไปโดยสิ้นเชิง และจบเกมกลายเป็นฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศศักดาและใช้ประโยคคลาสสิกว่า "Manchester Is Red" อีกครั้งในฤดูกาลนี้
มีแต่เสียงชื่นชมผ่านมาทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าจะกับกุนซืออย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และนักเตะอีกหลายคนในทีมที่ได้พยายามอธิบายถึง อิมแพ็คต์ จากเพื่อนใหม่ของพวกเขา ที่สโมสรซื้อตัวมาด้วยราคา 55 ล้านปอนด์
อาจจะเป็นเพราะ 7 ปีที่ผ่านมา สโมสรแห่งนี้ไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะต้องประสบพบเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายถึงขั้นนี้ หลังจากที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
การตกเป็นรองอริตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล และเสียความยิ่งใหญ่ในเมืองแมนเชสเตอร์ ให้กับ แมนฯ ซิตี้ การเป็นทีมที่พลาดไปเล่นถ้วยใหญ่ที่สุดอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 3 ครั้งในรอบ 6 ปี กลายเป็นทีมที่กล้าแพ้คาบ้านให้กับทีมระดับล่างของตารางอย่าง เบิร์นลี่ย์ และ คริสตัล พาเลซ รวมถึงผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังอีกมากมายเกินกว่าจะนับนิ้วได้
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็น หลายคนบอกว่ามันผิดตั้งแต่โครงสร้างการบริหารของสโมสร พวกเขาไม่มีทีมบริหารที่เข้าใจเรื่องฟุตบอล ซีอีโออย่าง เอ็ด วู้ดเวิร์ด กลายเป็นเป้าของแฟนๆ เพราะทุกคนเชื่อว่าเขายังทำได้ไม่ดีพอในการเสริมทัพ
แต่ความจริงที่ยืนยันได้คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคที่มี วู้ดเวิร์ด เป็นซีอีโอ พวกเขาใช้เงินเกือบ 400 ล้านปอนด์ ด้วยนักเตะที่มีชื่อเสียงมากมาย อเล็กซิส ซานเชซ, ปอล ป็อกบา, โรเมลู ลูกากู, อังเคิล ดิ มาเรีย, ราดาเมล ฟัลเกา และอื่นๆ อีกมากหมายหลายคน ไม่ใช่ชื่อที่แย่เลย ทุกคนที่กล่าวมามีผลงานดีได้รับการยกย่องก่อนย้ายทีม แต่ปัญหาคือเมื่อพวกเขามาที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แล้ว หลายคนไม่สามารถรักษาฟอร์มเก่งได้ และหนักยิ่งกว่านั้น พวกเขาหลายคนกลายเป็นปัญหาที่ทีมต้องมาสะสางไม่รู้จบ
อย่างไรก็ตามการมาของ บรูโน่ แฟร์นันเดส นั้นแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง นักเตะที่ดีที่สุดจากลีกโปรตุเกส ย้ายมาด้วยเครื่องหมายคำถามว่า เมื่อต้องเล่นในลีกที่ดีที่สุดในลีกหนึ่งในยุโรปอย่าง พรีเมียร์ลีก เขาจะดีได้แค่ไหน จะล้มเหลวเหมือนอีกหลาย 10 ดีลที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาหรือไม่?
แต่สิ่งที่เราเห็นคือ บรูโน่ เข้ามาและใช้เวลาปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว จนถึงตอนนี้มีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับการยิงประตูของทีม นั่นคือเกมแรกในสีเสื้อปีศาจแดง ที่ ยูไนเต็ด เสมอกับ วูล์ฟส์ 0-0 ที่เหลือจากนั้นไม่ยิงก็แอสซิสต์ ชื่อของเขาปรากฎบนสกอร์บอร์ดเสมอมา
2
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้เราสามารถพอจะบอกได้ว่าเขาเป็นนักเตะที่ดี ... แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นคือการเป็นนักเตะที่เปลี่ยนบรรยากาศของทีมไปอย่างสิ้นเชิง จากทีมที่กลัวแม้กระทั่งการเจอกับ วูล์ฟส์ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาไม่กี่ปี ยูไนเต็ด กลับเป็นคนละทีมในเกมดวลกับแชมป์เก่าอย่าง แมนฯ ซิตี้ เขาทำมันได้อย่างไร? แค่คนๆ เดียวเปลี่ยนทีมได้จริงหรือ?
การซื้อตัวที่ดีที่สุด
"ผมเริ่มหลงรัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างจริงจังเมื่อตอนที่เห็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เล่นที่นี่ และผมก็กลายเป็นแฟนตัวยงของสโมสรแห่งนี้ตั้งแต่นั้นมา" บรูโน่ ว่าเช่นนั้นในวันที่เขาย้ายทีม
มันไม่แปลกอะไรที่นักเตะใหม่ผู้เพิ่งย้ายเข้ามาจะพูดแบบนี้ การพูดจาหวานๆ ทำให้การเริ่มต้นใหม่นั้นง่ายกว่าเดิมแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการประกาศตัว คือเขาไม่ได้แค่พูดเท่านั้น เขาแสดงให้เห็นว่าเขาอยากจะทำให้ทีมๆ นี้ดีขึ้นจริงๆ
บรูโน่ แฟร์นันเดส เข้าพบกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทันทีหลังจากการเปิดตัวจบลง และสิ่งที่เขาต้องการคือการลงซ้อมร่วมกับทีมทันที การแสดงถึงความมุ่งมั่น แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นการเริ่มต้นที่มีแววว่าจะไปได้สวยจริงๆ
สิ่งที่เกิดขึ้นในการซ้อมครั้งแรกของ บรูโน่ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เว็บไซต์ของสโมสรสรุปความคร่าวๆ ไว้ก็คือ
"เรื่องแมตช์ฟิต ไม่ใช่ปัญหาของเขาเลย เขาลงซ้อมทันทีในวันศุกร์ และหมายเลข 18 ของเราทำให้ทุกอย่างราบรื่น เขายิ้มและหัวเราะกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ของเขา ดูเหมือนว่านักเตะในทีมจะประทับใจกับฝีเท้าของ บรูโน่ เป็นอย่างมาก"
"อองโตนี่ มาร์กซิยาล คือคนที่มาให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เขารอคอยที่จะเล่นร่วมกับนักเตะที่มีทักษะการสร้างสรรค์เกมแบบนี้มานานแล้ว" นี่คือสิ่งที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรอย่าง manutd.com กล่าวถึง และถ้าหากคุณได้เห็นประตูที่ บรูโน่ ยกบอลข้ามกำแพงให้ มาร์กซิยาล เข้าไปยิงประตู แมนฯ ซิตี้ คุณจะเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจากการซ้อมของ บรูโน่ ไม่ใช่เรื่องโกหก
สิ่งที่แตกต่างจากดีลอื่นๆ คือ การที่ ยูไนเต็ด ได้นักเตะอย่าง บรูโน่ แฟร์นันเดส คือพวกเขาได้นักเตะที่อยากจะเล่นให้กับทีมๆ นี้จริงๆ แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องเงินนั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญ แต่การได้นักเตะที่ "มีความกระหายที่จะลงเล่นให้สโมสร" คือสิ่งที่ ยูไนเต็ด สามารถใช้คำว่า "วิน" ได้มากที่สุดกับดีลนี้ นับตั้งแต่การเซ็นสัญญากับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เมื่อ 3 ปีก่อน
จิตวิทยาในการเอาชนะใจ
ตามหลักจิตวิทยาในการเข้าสังคมใหม่ มีหลายสิ่งที่ บรูโน่ ทำ มีคำกล่าวว่า "บุคลิกที่ดีสามารถสร้างความมั่นใจให้กับคนรอบข้างได้จริง" ซึ่ง บรูโน่ พยายามทำสิ่งนี้ตั้งแต่วันแรก
สำนักข่าวอย่าง เดอะ ไทม์ส เขียนเกี่ยวกับการซ้อมวันแรกของ บรูโน่ แฟร์นันเดส ว่านอกจากเรื่องของรอยยิ้มแล้ว เขายังวางตัวให้คนอื่นๆ เห็นว่า เป็นคนที่เพื่อนร่วมทีมสามารถเชื่อใจได้
"ในการซ้อมเต็มรูปแบบครั้งแรก เพื่อนร่วมทีมจะได้ยินเสียงตะโกนของเขาว่า "เอาบอลมาให้ฉัน" ตลอดทั้งการฝึก ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาตั้งใจที่จะเข้ามาเป็นตัวละครหลักของทีมๆ นี้
การจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของทีมในระยะเวลาอันสั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ บรูโน่ แฟร์นันเดส ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน เขาซื้อใจเพื่อนร่วมทีมได้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทุกอย่างมันสะท้อนออกมาในแต่ละเกม นักเตะของ ยูไนเต็ด เมื่อไม่รู้จะเอาบอลไปไว้ที่ไหน พวกเขามักจะมองหา บรูโน่ เป็นทางเลือกแรก และจากนั้นเพลย์เมคเกอร์ที่พวกเขาไว้ใจจะเป็นคนเลือกเองว่า "ควรจะทำอะไรต่อจากนี้"
และเมื่อได้บอลบ่อยครั้งเข้า ทุกคนก็ได้เห็นว่าบอลที่ออกจากเท้าของเขาสามารถชี้เป็นชี้ตายได้เสมอ นั่นจึงกลายเป็นช่วงเวลาที่ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความนับถือเติบโตขึ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
"กับบรูโน่ คุณเห็นได้ว่าเขาเข้ามาและเป็นผู้ชนะโดยสายเลือด คุณเห็นได้ในการซ้อม เขาเต็มใจที่จะรับบอลในทุกสถานการณ์และเล่นคิลเลอร์พาส เราจำเป็นต้องมีการจุดประกายในเรื่องความสร้างสรรค์ ผมให้เครดิตเขาได้ไม่มากพอสำหรับการเริ่มต้นของเขา"
"เขาเป็นคนที่มีพลังมากๆ เป็นผู้เล่นหมายเลข 10 ที่ต้องการบอลตลอด แต่เขาเปรียบเสมือนอากาศที่สดชื่น มีบุคลิก และนั่นคือสิ่งที่สโมสรนี้ต้องการ เขามีสิ่งนั้นซึ่งผมพอใจมาก" นี่คือสิ่งที่ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางดาวรุ่งของทีมปีศาจแดงกล่าวถึง บรูโน่
ผสมผสานเพื่อความสำเร็จ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวไปข้างต้น เป็นการยันยืนถึงความแข็งแกร่งในคาแร็คเตอร์ของ บรูโน่ แฟร์นันเดส แต่มันจะไม่มีความหมายเลย หากเขา "เก่งอยู่คนเดียว" มีนักเตะหลายคนที่เป็นประเภท "ตัวเองมาก่อน ทีมมาทีหลัง" แต่ บรูโน่ แฟร์นันเดส ไม่ใช่แบบนั้น
มีการกล่าวอ้างถึงทีมสตาฟฟ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่า แม้เขาจะเป็นผู้มาใหม่ แต่ บรูโน่ ไม่เคยกลัวที่จะบอกคนอื่นๆ ในทีมว่า เขาต้องการอะไร หรือสิ่งใดที่เพื่อนร่วมทีมของเขาทำผิดพลาด
"ถ้าเขาคิดว่ามีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เขาจะบอกคุณตรงๆ อย่างนั้น" แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าว Metro โดยยกตัวอย่างเช่นการบอกกับเพื่อนร่วมทีม หรือคนที่เล่นในตำแหน่งที่ต้องเชื่อมต่อกับเขาโดยตรงว่าจังหวะไหนควรวิ่ง จังหวะไหนจ่ายบอล เพื่อให้ทีมสามารถเล่นเกมรุกได้ต่อเนื่อง เรื่องนี้แม้แต่ โซลชา ยังบอกว่าทุกคนในทีมให้การยอมรับในตัวของ บรูโน่ อย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่แค่คนวงในเท่านั้นที่สัมผัสได้ แม้แต่ อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิงของพรีเมียร์ลีก ที่ปัจจุบันเป็นกูรูฟุตบอลของช่อง BBC ยังพูดถึง บรูโน่ คือ เขาไม่ได้เล่นเก่งแบบข้ามาคนเดียว แต่การมาของ บรูโน่ เป็นเหมือน บาริสต้า ที่เข้ามาผสมผสานส่วนต่างๆ ของนักเตะในสนามของ ยูไนเต็ด ออกมาเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะก่อนหน้านี้ เชียเรอร์ บอกว่า ยูไนเต็ด เป็นทีมที่มีความสัมพันธ์กันระหว่างเกมรับและเกมรุกน้อยมาก ต่างคนต่างไปจนทำให้สุดท้ายผลงานตกต่ำอย่างที่เป็นอยู่
"เมื่อคุณมีใครที่เข้ามาในสโมสรฟุตบอลด้วยความจองหองในทางที่ดี มันจะสร้างความแตกต่าง เขามีความเชื่อที่จะเปลี่ยนสิ่งต่างๆ รอบตัว และแน่นอนว่าเขามีความสามารถ คนอื่นกำลังมีปฏิกิริยากับเขา เมื่อใดก็ตามที่เขาได้บอล นักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดจะเคลื่อนตัว ผมไม่เห็นแบบนั้นก่อนที่เขาจะมาถึงในหลายๆ เกม" นี่คือสิ่งที่เชียเรอร์ บอก
เห็นได้ชัดว่า บรูโน่ เข้ามายกระดับทีมนี้ และผสมผสานเพื่อนร่วมทีมให้มีเป้าหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นจิตวิญญาณของผู้ชนะ และการพาทีมไปยังจุดมุ่งหมาย นั่นคือการสร้างความสำเร็จที่ห่างหายจากสโมสรแห่งนี้มานานนม
กระทั่งรางวัลแรกมาถึง เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ของพรีเมียร์ลีกมาครอง จนถึงตอนนี้ พรีเมียร์ลีก กลับมาลงแข่งขันในโปรแกรมที่เหลือของฤดูกาล 2019/20 หลังจากช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บรูโน่ แฟร์นันเดสและแมนฯ ยูไนเต็ด ยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง กับสถิติอันยอดเยี่ยม ลงเล่น 16 นัดหลังสุดในทุกรายการ ชนะ 12 นัด เสมอ 4 นัด ไม่แพ้ใคร ยิงได้ 43 ลูก และเสียเพียง 6 ประตู ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการมาของคนๆ เดียว กลับกลายเป็นการผสมผสานทุกอย่างที่มีได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว จนรู้ตัวอีกที ยูไนเต็ด ก็กลายเป็นทีมที่หลายคนไม่เคยเห็นมานาน
จากจุดเริ่มต้นที่ต่างคนต่างก็มีเครื่องหมายคำถาม กลับนำมาสู่การผสมผสานของ 1 ผู้เล่นที่สร้างความเป็นทีมและทำให้มีโอกาสที่จะได้เห็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งจากการผสมผสานครั้งนี้
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา