6 ก.ค. 2020 เวลา 06:54 • การศึกษา
บังฮาซัน
ชื่อนี้คิดว่า ใคร ๆ หลายคน คงจะเคยได้ยิน ชื่อเขา มาบ้าง
บางคนอาจจะเคยดูไลฟ์ บัง บางคนอาจจะเคยเป็นลูกค้า หรือบางคนอาจจะแค่เคยได้ยินชื่อ เขาคนนี้
วันนี้ผมจะพา มาให้เห็นถึงมุมมอง ความคิดที่แตกต่าง ของ บังฮาซัน
เพราะอะไรที่ทำให้เขาถึงก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วกัน
ถ้าใครที่ไม่รู้จักบังฮาซันเลย ให้อ่านตรงนี้ก่อนนะครับ เพื่อที่จะรู้จักเขามากขึ้นสักนิด
บังฮาซัน แท้จริงแล้วไม่ใช่พ่อค้า แต่เขาก็คือ พนักงานกินเงินเดือน ของสถานีโทรทัศน์ ท้องถิ่นคนหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ด้วยความที่ชีวิตต้องสู้ วันหนึ่ง ที่เขา แทบจะไม่มีเงินติดตัวแล้ว สถานีกำลังจะเจ๊ง เพราะการ เปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ทำให้เขาต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง นั่นก็คือ ไลฟ์สด ขายของนั่นเอง
cr. รูป จาก https://www.bbc.com/thai/thailand-48212553
สิ่งที่บังเลือกนำมาขายนั่นก็คือ อาหารทะเลตางแห้ง ซึ่ง เรียกว่าแปลก และก็ไม่เหมือนใครในตอนนั้น
ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ หมวกทรงสีแดง ที่ใส่เป็นประจำ และลีลาการขายที่ไม่เหมือนใคร นั่นทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาในเวลาที่รวดเร็ว
จากวันนั้นจนวันนี้ บังฮาซัน กลายเป็นพ่อค้าขายของในโลกออนไลน์อย่างเต็มตัว สร้างรายได้ให้กับตัวเอง นับร้อยล้านบาท ในระยะเวลา 1 ปี
แล้วอะไรบ้างหละที่ผลักดัน ผู้ชายคนนี้ก้าวไปสู่ความสำเร็จในระดับนั้นได้ เรามาดูกันครับ
-ความคิดที่แตกต่างย่อมนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่าง-
เมื่อเราอยากได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง ย่อมหาไม่ได้จากการกระทำแบบเดิมๆ บังฮาซันเองก็เช่นกันครับ
ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การขายของเปลี่ยนจาก ออกหน้าร้านมาสู่ online มากขึ้น ถ้ายังคงขายแบบเดิม ๆ ก็คงยังขายยากเช่นเดิม จุดเริ่มต้นของการนำอาหารทะเลมาขาย นั่นก็เป็นเพราะว่า บังเห็น คนในชุมชน นำอาหารทะเลตากแห้งนั้น ออกมาเดินขาย บังก็เลยซื้อ มาไว้ และนำมาลองไลฟ์สดขายดู แต่วันแรกขายไม่ได้เลย พอวันที่ 2 สถานการณ์เริ่มค่อยจะดีขึ้น และก็ดีขึ้นๆ ในวันต่อ ๆ มา
ลีลาการขายที่ไม่เหมือนใคร
สร้างเอกลักษณ์ และตัวตน ในการไลฟ์ นี่คือสิ่งที่ทำให้แต่ละคนจดจำ
ลีลาการขายของบังนั้น ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน มีทั้งการพูดจาที่น่าฟัง มีการรับส่ง ระหว่างลูกคู่ ลูกรับ การเล่าที่มาที่ไปของอาหารที่นำมาขาย รวมไปถึง การมีลูกล่อลูกชนระหว่างการขาย สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เขาไม่เหมือนใคร เอกลักษณ์ที่สำคัญนั่นก็คือ เสียงกระดิ่งตอนไลฟ์ ซึ่งในปัจจุบัน ใครหลายๆ คนนำไอเดียนี้ไปเลียนแบบ
บังบอกว่า ถ้าเราจะขายอาหารเราก็ต้องเข้าใจในสินค้า และมีความรู้
ด้วยความที่บังเคยช่วยพ่อ ออกเรือหาปลา บังก็สามารถเล่าได้ว่า วิธีการหาปลาจะเป็นยังไง ปลาชนิดนี้ต้องกินแบบไหนถึงจะอร่อย นั่นก็เพราะมีประสบการณ์ที่ผ่านมาโดยตรง ทำให้พอเล่าเรื่องออกไป ดูน่าสนใจ น่าเชื่อถือ และยังทำให้อาหารตากแห้งธรรมดา ดูมี เรื่องราว จนน่าซื้อขึ้นมา
อ้อ!! ที่สำคัญไปมากกว่ารู้จักสินค้าดี ก็คือ ต้องกินให้ดู!!
ในหลาย ๆ ครั้ง บังเลือกที่จะกินอาหารที่เขาขายโชว์ในไลฟ์ เพื่อเป็นการทำให้คนดูเห็นว่า ของที่เขาขายนั้น ขนาดเขาเองยังกินอย่างเอร็ดอร่อย แล้วทำไมคนซื้อจะไม่อยากกินหละ??
ขาดไม่ได้เรื่องการเอาใจใส่และให้ความสำคัญกับลูกค้า
บังอ่านคอมเมนท์เสมอ และรับคำติชมมาปรับปรุง
มีช่วงหนึ่ง บังไปไลฟ์ เกือบเที่ยงคืน เพราะเคยมีคนบอกว่าดึกแล้วนอนไม่หลับหรือเพิ่งเลิกงานและอยากดูบัง บังก็ไปไลฟ์ให้ดู เพราะกลุ่มลูกค้าตอนกลางคืน ใช่ว่าจะไม่มี ยังมีคนอีกหลายคน ที่ทำงานและเลิกดึก จนไม่มีเวลาตอนกลางวันเพื่อไปซื้อของ สิ่งที่เขารอ ก็อาจจะเป็นการที่เขาได้ซื้อของ ผ่านการดูไลฟ์ของบังก็เป็นได้
1
ใครจะ CF และไม่ โอน บังก็ไม่ว่า (CF ตือการตกลงว่าจะซื้อแน่ๆ สำหรับภาษาพ่อค้าออนไลน์)
ปกติแล้ว สำหรับแม่ค้าออนไลน์ การ CF และไม่โอนถือเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเจอ เพราะเรียกว่าจะเกิดการเสียหายสำหรับยอดขาย แต่สำหรับบังนั้น มองในมุมต่าง
นั่นก็เพราะว่า การ CF แต่ไม่โอน สำหรับการไลฟ์สด นั่นทำให้ลูกค้าคนอื่นๆ มั่นใจในการซื้อมากกว่า ไม่มีคน CF เลย มันช่วยเพิ่มยอดขายให้มากกว่า คน CF น้อย
มีโปรโมชั่น สำหรับคนโอนเร็ว
อันนี้แปลกและเป็นไอเดียที่ดี บังจะทำโปรสำหรับคนที่โอนคนแรก หรือ 5 คนแรกจะแถมของเพิ่มให้ ส่งฟรี เพื่อที่จะ กระตุ้นยอดตั้งแต่การซื้อแรก และก็ได้ผลดีเลยทีเดียว เพราะ มีคนส่วนมากแย่งกันโอนจะให้เร็วที่สุดหลายคน ทำให้ยอด CF แต่ละครั้งพุ่งเอามาก ๆ
1
ให้ความสำคัญกับลูกค้า
ลูกค้าถูกเสมอ คือสิ่งที่บังมักจะทำ
มีหลาย ๆ ครั้งที่ลูกค้ามาโวยวาย เรื่องของที่ส่งไป เสียบ้าง บูดบ้าง สิ่งแรกที่บังทำนั้นคือการขอโทษก่อน ถึงแม้ว่า ต้นเหตุจากความผิดพลาดจะไม่ได้เป็นที่บังเสมอไป เพราะบังเข้าใจว่า บางทีก็แค่การอยากระบาย ของลูกค้า และถ้าสาเหตุที่แท้จริงเมื่อสอบถามแล้ว เป็นความผิดจากทางร้าน ก็ยินยอมที่จะส่งของให้ใหม่ หรือแม้กระทั่งคืนเงินให้กับลูกค้า โดยไม่เอาเปรียบ
ครั้งหนึ่งบัง ลงทุนกับออเดอร์ หนึ่ง 30,000 และส่งไปให้ลูกค้า แต่ของดันเสียระหว่างส่ง บังก็เลยส่งไปให้ใหม่ อีกครั้ง แต่ก็ยังเสียอยู่ สุดท้าย บังเลยคืนเงินให้กับลูกค้า ทำให้ครั้งนั้น จากทุน 30,000 ขาดทุนไป 90,000 แต่มันกลับแลกกับความไว้เนื้อเชื่อใจลูกค้า เพราะลูกค้าคนนั้นกลายเป็นลูกค้าประจำของบังตั้งแต่นั้นมา
เขาเป็นคนหนึ่ง ที่มีความคิด และมุมมองที่แตกต่าง จากคนอื่น นั่นจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จอย่างในทุกวันนี้
-กว่าจะเป็นบังวันนี้ ไม่ได้อยู่ ๆ ก็มาเป็น-
หลายๆคนอาจคิดว่าบังฮาซันเป็นแค่ใครก็ไม่รู้ที่อยู่ดีๆเกิดมาไลฟ์สดและคนก็ชอบ เขาถึงโด่งดัง
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าแท้จริงแล้วขอผ่านประสบการณ์ในชีวิต และการขายของหน้าจอมามากเพียงใด
ชีวิตของบังฮาซัน เรียกว่าไม่ได้โรย ด้วยกลีบกุหลาบ เลยสักนิด
เขาเกิดในเกาะตันหยง ที่ซึ่งยังไม่มีแม้กระทั่งไฟฟ้าใช้ (ในตอนนั้น)
ตั้งแต่เด็กๆบังเป็นนักพูดมาตั้งแต่เด็ก เริ่มต้นด้วยการเป็น ผู้นำสันทนาการ นำกิจกรรมให้กับคน พอโตขึ้นมาหน่อยบังมีหน้าที่ในการอ่านพระคัมภีร์ให้กับคนอื่นฟัง หลังจากนั้น เข้าสู่ช่วยวัยรุ่น เป็นช่วงที่เรียกได้ว่า ติดเพื่อน ติดเหล้า ติดทุกอย่าง ทำให้ วิถีชีวิตพลิกผันกลายเป็นเรียนไม่จบ จนแม่ต้องฝากฝังให้มาทำงาน ณ สถานีโทรทัศน์ศาสนาช่องหนึ่ง นั่นคืองานแรกในชีวิตของเขาที่ได้เงินเดือน
แต่เขาก็สังเกตว่า ทำไมเงินเดือนของคนอื่น ๆ มากกว่าเขา จนรู้ว่า สาเหตุมาจาก คนอื่น ๆ นั้นมีการพูดขาย น้ำสุมนไพรในช่องด้วยนั่นเอง เขาก็เลยขอรับหน้าที่นี้บ้าง และนั่นก็เป็นการขายของหน้าจอครั้งแรกของบังฮาซัน
จากนั้นชีวิตก็ พลิกผันอีกครั้ง เมื่อช่องที่ ทำต้องปิดตัวลง ทำให้บังต้องระหกระเหินอีกครั้ง ได้กลับบ้านลองไปทำประมงกับพ่อ แต่ก็เปลี่ยนใจ และก็กลับมาได้งาน แบบเดิม ในสถานีโทรทัศน์อีกครั้ง แต่ต่างกันตรงที่ สถานีที่ทำนั้น มีความจะเจ๊งแหล่ ไม่เจ๊งแหล่ ตั้งแต่แรกเข้าไปทำงาน ประโยคเด็ดที่ทำให้ เขาถูกเลือกจากสถานีโทรทัศน์ที่กำลังจะเจ๊ง นั่นก็คือ เขาบอกกับเจ้าของว่า "เขาจะมาหาเงินให้กับเจ้าของ" และเขาก็ทำได้อย่างที่พูดจริง ๆ
จุดนี้ สิ่งที่ทำให้เขาแย่ลง นั่นก็เพราะไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ ทำให้เขาเป็นหนี้ และไม่มีเงินเก็บ ซ้ำร้ายเงินในกระเป๋ายังเหลือน้อยลงทุกที
สุดท้าย ทางที่เขาลองเลือกทำนั่นก็คือ การมาไลฟ์ขายอาหารทะเลตากแห้ง ในโลกออนไลน์ ที่ตอนนี้กลายมาเป็นอาชีพหลักของเขาในที่สุด
เรียกว่าก่อนจะมาเป็นบังในทุกวันนี้ ผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย และประสบการณ์ การขายของเขานั้นก็ไม่ใช่พึ่งจะมี แต่สั่งสมมาตั้งแต่เริ่มทำขายน้ำสมุนไพรในช่องโทรทัศน์ตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว
ด้วยการที่บังพยายาม พัฒนาตัวเองตลอด หากลวิธีในการดึงความสนใจให้คนมาดูไลฟ์เยอะ ๆ จนในที่สุด ก็ประสบความสำเร็จในการขายของออนไลน์
-ไม่เป็นนักธุรกิจ แค่เป็นตัวของตัวเอง-
ภายในระยะเวลา 1 ปี จากคนที่เรียกว่าติดลบ กลับกลายมาเป็นคนที่มีกิจการเป็นของตัวเอง มีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท ด้วยอายุเพียง 30 ปี
คำถามที่บังฮาซัน มักจะเจอในการไปรายการต่าง ๆ นั่นก็คือ ประสบความสำเร็จแบบนี้แล้ว จะยังไงต่อ??
เป็นคำถามที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาจะรับมือกับมันยังไง มาฟังคำตอบกันครับ
สิ่งที่บังบอกนั่นก็คือ เขาจะพยายามทำให้คนรอบ ๆ ตัวเขามีความสุข มากขึ้น ๆ
บังเริ่มต้นด้วยการนำอาหารทะเลตากแห้งจากคนในชุมชนมาขาย พอเริ่มขายดีมากขึ้น ก็เป็นคนรับของโดยตรงจากชาวประมง ชาวประมงก็มีรายได้มากขึ้น เพราะไม่ต้องส่งให้พ่อค้าคนกลาง
สำหรับราคา บังบอกเลยว่า ทุกคนรู้ว่าบังขายเท่าไหร่ เพราะบังขายออนไลน์ เพียงแค่อยากรู้ก็เข้ามาดู เพราะฉะนั้น ราคารับ กับราคาขาย ถ้ามันห่างกันมาก ก็ไม่มีใครส่งให้บัง แต่ด้วยการทำแบบนี้ ตัดพ่อค้าคนกลางออก ทำให้ชาวประมง สามารถขายของให้บังในราคาที่มากกว่าเคยส่งให้พ่อค้าคนกลาง และก็นำมาสู่รายได้ที่มากขึ้นของพวกเขา ชุมชมก็เติบโตขึ้น
ส่วนคนที่อยู่รอบตัว พนักงานที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่แรก ๆ บังไม่เคยทอดทิ้งพวกเขา มีแต่จะให้เขามากขึ้น ๆ บางที ซื้อรถ ให้กับครอบครัวเขา เพราะเข้าใจว่า การทำงานกินเงินเดือน มันยากที่จะได้รถสักคันหนึ่ง
มีหลายต่อหลายคน ที่เป็นนักธุรกิจ มาบอกบัง มาชวนบัง ทำส่งออก ขยายกิจการให้เติบโต ทำโรงงาน
แต่ท้ายที่สุด บังปฏิเสธไป สาเหตุนั่นก็เพราะว่า งานทุกงานของบังในตอนนี้ ใช้แรงงานคน ถ้าวันใดวันหนึ่ง เป็นแรงงานเครื่องจักร แล้วคนจะอยู่ยังไง??
ทุกวันนี้ คนในพื้นที่ เริ่มมีรายได้มากขึ้น มีงานมากขึ้น จากการขายของบัง ถ้าวันหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปทำในเชิงธุรกิจ ที่มองแต่ผลกำไร วันนั้น บังคงไม่สามารถจะแบ่งปันให้กับชุมชนแบบเดิมได้อย่างแน่นอน
บังพอใจที่จะอยู่ในสถานะ กิจการที่ไม่ใหญ่โต แต่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนส่วนมาก และเติบโตไปพร้อม ๆ กัน มากกว่าที่จะก้าวไปเป็นการทำแบบธุรกิจ กิจการใหญ่โต ที่มุ่งเน้นแต่ผลกำไร
บังบอกว่า เขาเคยอยู่ในจุดที่ไม่มีอะไรเลยมาแล้ว จนวันหนึ่ง มีเงินในบัญชี หลายสิบล้าน วันนี้เขาอยากซื้ออะไรก็ได้ อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ไปได้ แต่นั่นเหมือนไม่ใช่ความสุขและเป้าหมายของเขาอีกแล้ว สิ่งที่เขาอยากเห็นมากกว่าคือ อยากเห็นคนรอบ ๆ ตัวเขาเป็นได้แบบเดียวกับเขา เขาเลยพยายามที่จะ พาพวกเขาไปพร้อมกัน
ผมฟังทั้งหมดแล้วรู้สึก ดีใจที่ชาวสตูล มีคนแบบบังฮาซัน คนที่พร้อมจะช่วยให้ท้องถิ่น เติบโตไปพร้อม ๆ กัน ไม่ใช่ ทำธุรกิจ ที่มุ่งแต่เพียงผลประโยชน์ ส่วนตนกันเท่านั้น
สุดท้ายขอจบด้วยประโยคเด็ด ของบังฮาซัน ที่เป็นคติประจำตัวของเขา
"อยากเป็นอะไรขอให้ฝึก อยากรู้สิ่งใดจงไต่ถาม อยากเป็นอะไรขอให้พยายาม ความสำเร็จของคนเราไม่ได้มีวิธีเดียว"
สิ่งที่เล่ามาข้อมูลส่วนมากฟังมาจาก ไลฟ์ คุณนิ้วกลม+บังฮาซัน รวมกับคลิปสัมภาษณ์อื่นๆ ที่ผมไปฟังมาเพิ่มเติม
เป็น 2.30 ชม. ที่ทรงพลังมาก หากใครว่างลองไปฟังแบบเต็ม ๆ ดูครับ
โฆษณา