6 ก.ค. 2020 เวลา 09:02 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อความโหดร้ายมาเยือน
เราเคยถามตัวเองบ้างหรือไม่ว่า ถ้าวันหนึ่งเราต้องเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายที่เราไม่ได้
คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน เราจะรับมือกับมันอย่างไร
บางคนเลือกที่จะหลอกตัวเอง เพียงแค่ไม่ต้องการเผชิญกับความจริงที่โหดร้าย แต่แท้ที่จริงแล้วการที่ไม่ยอมรับความจริงนั้นเป็นเรื่องที่โหดร้ายยิ่งกว่า วิธีนี้ช่วยได้เพียงแค่
ปลอบใจตัวเองเท่านั้น การที่เราไม่ยอมรับความจริง เป็นเพราะเรายังไม่พร้อมที่จะทนกับความเจ็บปวดและความผิดหวัง แต่ถ้าเราบอกกับตัวเองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่มิอาจปฏิเสธได้ เมื่อมันเกิดขึ้นได้ก็ต้องจากเราไปได้เช่นกัน เหมือนกับที่ไม่มีความสุขหรือทุกข์ใดที่อยู่กับเราไปตลอด การละเลยหรือมองข้ามความเป็นจริงจะส่งผลกระทบตามมายิ่ง
กว่าความจริงที่เราต้องเผชิญ เราสามารถหลอกคนทั้งโลกได้แต่เราหลอกตัวเองไม่ได้
การตั้งความหวังกับสิ่งใดไว้สูงเราก็ต้องยอมรับกับความเจ็บปวด ความผิดหวังได้ด้วย
เช่นเดียวกัน
นักจิตวิทยา Jennifer Kunst กล่าวไว้ว่า “สุขภาพจิตเกี่ยวข้องกับความสามารถในการเผชิญกับชีวิตในทางที่เป็นจริง ความดีกับความเลว ความแข็งแกร่งกับความอ่อนแอ
ความรักกับความเกลียดชัง ความสุขกับความผิดหวัง การค้นหาความสมดุลแบบนั้น
เป็นงานที่ต้องทำตลอดชีวิต แต่มันคือความสมดุลที่ควรค่าแก่การแสวงหาเพราะช่วยให้เราทำสิ่งที่เราทำได้เพื่อทำให้ชีวิตของเราดีที่สุด เราจะไม่สามารถกลายเป็นคนที่
แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่เราสามารถกลายเป็นคนที่ดีกว่าได้”
การยอมรับไม่ได้แปลว่าเราจะหมดหนทาง เรายอมแพ้ มนุษย์ทุกคนล้วนมีสัญชาตญาณแห่งการเป็นนักสู้ บางครั้งเราก็จำเป็นต้องเรียกมันออกมาเพื่อเพิ่มพลังให้กับชีวิตในการที่จะเดินต่อไปในวันข้างหน้า การยอมรับความจริงด้วย สติและปัญญานั้นจะทำให้รู้ว่า
ชีวิตคนเรานั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกย่างก้าวที่เราเดินถ้าจะต้องโดนหนามตำ
โดนแก้วบาดบ้าง แต่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นและพร้อมที่จะเผชิญกับความจริงที่โหดร้ายมันก็น่าจะคุ้มมิใช่หรือ
โฆษณา