9 ก.ค. 2020 เวลา 23:00 • การศึกษา
เสพสม ซากศพ
อมตะ นวยาย ขายดีบ้าง ไม่ดีบ้างเกี่ยวกับ ความรักบ่าวสาวที่กลับชาติมาเกิด ไม่ใช่เรื่องมโนอีกต่อไป เมื่อมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว .. แต่ทว่า คงเป็นเพียงอาการมโนไปเองฝ่ายเดียว ของชายคนหนึ่ง ที่ร่วมหลับนอนกับร่างไร้วิญญาณ ของคนรัก ทำไมจึงเป็นแบบนั้น ผู้เขียนจะพาทุกคนไปรับรู้ ถึงกลิ่นศพ เฮ้ย .. กลิ่นไอความรักครั้งนี้ครับ
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งอะแซหวุ่นกี้ ยกทัพมาทางด่านเจดีย์สามองค์ (นานไปไหม) ย้อนกลับไปเมื่อราวปี ค.ศ.1930 - ค.ศ.1940 เรื่องของชายผู้หนึ่ง ถูกวิพากษ์ วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความวิปริต จิตไม่ปกติ เกี่ยวกับกรณีสมสู่กับซากศพ
เรื่องราวดราม่าในคราวนั้น สร้างความหวาดหวั่น พรั่นพรึงให้กับชาวเมือง คีย์ เวสต์ รัฐฟลอริด้า เป็นอย่างมาก เมื่อท่านคาร์ล แทนซ์เลอร์ วอน คอเซล ชาวอเมริกัน ถูกจับกุมในคดีเสพสม กับร่างไร้วิญญาณ เป็นเวลานานนับหลายปี
1
เดิมที ท่านคาร์ล แทนซ์เลอร์ เป็นชาวเยอรมันครับ นิยมชมชอบการเดินทางเป็นชีวิต จิตใจ และสุดท้ายมาทำงานเป็น เจ้าพนักงานรังสีเทคนิค แห่งโรงพยาบาล มาร์รีน เมื่อปี 1930 ขณะนั้นมีอายุได้ 54 ปี
คาร์ลเอง แรกเริ่มเดิมที มีความเชื่อเกี่ยวกับ หญิงสาวในฝันนางหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงในจินตนาการ แถมมีชื่อด้วยว่า อายาช่า บ่อยครั้งที่เขามักฝันถึง หญิงสาวคนนี้ โดยไม่ทราบสาเหตุ และคาดหวังว่าเธอผู้นั้น จะกลับชาติมาเกิด อยู่ใกล้ ๆ กับตน
พรหมลิขิต ขีดเขี่ย ให้เอี้ยเดิน เมื่อคาร์ล ได้มาพบเข้ากับ สาวน้อยวัย 21 ปี ที่มีอาชีพ ม้วนซิกก้าขาย ในย่านเดียวกัน โดยพื้นเพของเธอ เป็นชาวคิวบา นั่นแหละที่ทำให้ซิกก้าจากเธอ และครอบครัวของเธอ พอจะขายได้บ้าง
เอลีน่า โฮโยส มิใช่สาวบริสุทธิ์แต่อย่างใด เพราะเธอแต่งงานกับ ฮวน เมซ่า ชายผู้ที่ขึ้นชื่อ เรื่องความเจ้าชู้ ประตูสวรรค์ ความรู้สึกของคาร์ล จึงถูกเก็บงำไว้เรื่อยมา จนกระทั่งเธอ ป่วยเป็นโรค ทีบี หรือวัณโรค ท้ายที่สุด ผู้เป็นสามี จึงได้ตีตั๋ว พร้อมตีตัว ออกห่างจากเธอไป
ด้วยความที่ เอลีน่า ต้องเข้ารับการรักษาอยู่บ่อยครั้ง ทั้งคู่จึงได้รู้จักกัน และความสัมพันธ์ก็เริ่มก่อตัวขึ้น แม้ว่าสาวน้อย และครอบครัว จะไม่ค่อยเห็นด้วย ต่อเรื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่ท่านเคานต์ ยืนยันถึงความรัก ที่มั่นคง และพร้อมจะทำให้เอลีน่า หายกลับมาจนเป็นปกติ
คาร์ลยังเชื่อมาตลอด ว่าเอลีน่า คือ อายาช่า ที่กลับชาติมาเกิด เพื่อร่วมใช้ชีวิต อยู่ไปด้วยกัน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าอย่างไรแล้ว ท่านเคานต์จะไม่ยอมเสียเธอไปอย่างเด็ดขาด ต่อให้ต้อง นั่งยานสเปชเอ็ก ออกไปรักษานอกอวกาศ ก็ตาม (ตอนนั้น ยังไม่มีโครงการนะ)
อาการของหญิงสาว ผู้เป็นที่รัก เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนอยู่ในสภาพเจ้าหญิงนิทรา นอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่มีอาการตอบสนองใด ๆ และคาร์ลก็รับเอาตัวเธอ มารักษาเป็นการส่วนตัว ด้วยความเชื่อที่ว่า เธอจะสามารถฟื้นคืนชีพ ขึ้นมาอีกครั้ง
แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1931 เธอก็สิ้นใจลงอย่างสงบ แต่ร่างของเธอ ถูกคาร์ลแอบนำไปเก็บไว้ ในซากเครื่องบินเก่า ๆ ซึ่งปรับแต่งให้เป็นห้องทดลอง ผสมกับห้องหอ ถูกลากไปไว้ยังชายหาด เมืองคีย์ เวสต์ ท่ามกลางความหวัง ที่เขาเชื่อมั่นอย่างที่สุด
เรื่องราวถูกสังคมประณาม ผ่านเสียงที่เซ็งแซ่ เมื่อเด็กส่งหนังสือพิมพ์แอบเข้าไปเห็นอะไร ที่ไม่ควรเห็น บนหัวเครื่องบินเก่า ที่จอดอยู่บนชายหาดมาหลายปี .. เราคาดว่า ภาพจำในหัว ของเด็กส่งหนังสือพิมพ์คนนั้น คงไม่มีสิ่งใดมาลบมันออกไปได้ อย่างแน่นอน
หลังจากที่คาร์ล ถูกจับกุม แพทย์ผู้ตรวจร่างไร้วิญญาณของ เอลีน่า พบการร่วมสัมพันธ์กับศพ ผ่านท่อซึ่งมีลักษณะพิเศษ ภายในมดลูก ยังมีอสุจิหมักหมม อยู่มากมาย ทรวงอก และบริเวณน้องสาว ถูกตกแต่ง และแต้มสีจนดูแปลกตา ที่น่าตกตะลึงคือ เส้นขนบนบริเวณลับ ได้รับการเติมลงไป อย่างจงใจ
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ วิจารย์กันอย่างหนัก ของชาว คีย์ เวสต์ ทำให้คาร์ล ถูกตัดสิน ให้กลายเป็นคนสติไม่ดี ซึ่งแน่นอนว่า ในสมัยนั้น เขาไม่ต้องรับโทษ อย่างไรก็ตาม ศพของเอลีน่า ถูกฝังตามพิธีกรรม พร้อมแขกที่มาร่วมพิธีมากมาย กว่า 6,000 คน
ส่วนคาร์ลเอง หนีหายออกไปจากอเมริกา กว่าสิบปี สุดท้ายมีคนพบศพ อดีต ท่านเคานต์ คาร์ล แทนซ์เลอร์ วอน คอเซลร์ล หลังจากที่เขาตายไปกว่าสองสัปดาห์ บริเวณใกล้ ๆ ที่เขาและเอลีน่า เคยอยู่อาศัย พร้อมกับหุ่นหญิงสาว ที่ทำจากปูนปลาสเตอร์ นอนเคียงกันอยู่ นักข่าวสันนิฐานว่า คงเป็นตัวแทน ของเอลีน่า นั่นเอง
1
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ครับ
กดไลค์หากถูกใจ แชร์หากเห็นว่ามีประโยชน์ คอมเมนท์เพื่อแนะนำติชม
ติดต่อเราที่นี่
แหล่งข้อมูล ภาพ และสื่อประกอบ
หนังสือ พิศวงโลกสยิว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา