11 ก.ค. 2020 เวลา 06:18 • ปรัชญา
เคยมีคนบอกไว้ว่า ในตอนที่ จิ๋นซี ฮ่องเต้ ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ได้ทรง ให้เหล่าขุนนาง ออกตามหา โอสถที่ทำให้พระองค์เป็นอมตะ
แต่หารู้ไหมว่า ความอมตะที่แท้จริง ที่พระองค์ตามหานั้น ได้เกิดขึ้น หลังจากที่พระองค์ สิ้นพระชนม์ชีพลงนั่นเอง
แล้วอะไรหละ คือความอมตะที่แท้จริง??
เป็นเวลาเนิ่นนานนับพันปีแล้วตั้งแต่ที่องค์
จักรพรรดิจิ๋นซี สิ้นพระชนม์ชีพ แต่ชื่อของพระองค์ ยังถูกกล่าวถึง อยู่ไหนประวัติศาสตร์
กำแพงเมืองจีนที่พระองค์สร้าง ยังงตั้งตระหง่านอยู่จนถึงปัจจุบัน
แม้กระทั่งสุสานของพระองค์ ก็ได้กลายเป็น มรดกโลก ที่ใครๆก็อยากที่จะได้ชื่นชม
ไม่ว่าจะอีกกี่ร้อยกี่พันปี ชื่อของพระองค์ ก็ยังจะถูกเอ่ยถึงไม่มีวันเปลี่ยน
นี่คือความอมตะที่แท้จริง
ความอมตะที่แท้จริงคือสิ่งที่คนคนนั้นได้ทำ หรือความรู้ที่คนคนนั้นได้ถ่ายทอดออกมา
เราเห็นบุคคลหลายๆคนบนโลกใบนี้ ที่ได้ตายจาก ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่ากาลเวลาจะยาวนานสักเท่าไหร่ ชื่อของเขาก็ยังถูกกล่าวถึง อยู่ไหนปัจจุบัน นั่นไม่ใช่เพราะว่าพวกเขา เป็นคนเด่นหรือคนดัง แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขา ได้ทำ บางสิ่งบางอย่างให้คนได้จดจำ
คนเราทุกคนล้วนเกิดมา เพื่อรอความตาย ไม่มีใครหลีกหนีความจริงนี้ได้
แต่จะมีสักกี่คน ที่ถึงแม้ความตาย จะพราก ชีวิตและร่างกายไปจากเขา แต่มันไม่เคยพราก การ
กระทำหรือความรู้ที่เขาได้ส่งมอบต่อ ให้กับคนในปัจจุบัน
ในภาพยนต์ อนิเมชั่นชื่อดัง ที่ได้รางวัล ออสการ์มาในปี 2018 ก็พูดถึงเรื่องราวในทำนองนี้เหมือนกัน
ที่นำเทศกาล Dia de los Muertos (Day of the Dead) มาเป็นแกนหลักของเรื่อง ซึ่งเทศกาลนี้จะเกิดขึ้นในทุก ๆ วันที่ 1-2 พฤศจิกายน ของทุก ๆ ปี เป็นวันที่คนที่มีชีวิตอยู่ จะมาลำรึกถึงคนที่ได้ตายไปแล้ว และวิญญาณคนตาย ก็จะได้ข้ามภพมา เพื่อพบเจอกับโลกของคนเป็นอีกครั้ง
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในโลกวิญญาณนั้น ก็มีทั้งวิญญาณ ที่ไม่ได้เป็นที่จดจำจากใครเลย กับวิญญาณที่เป็นที่จดจำของคนอื่น ซึ่งถ้าเกิดว่า วิญญาน ตนไหนไม่เป็นที่จดจำของใครเลย ก็จะไม่ได้ข้ามภพมา
ซึ่งความพีคของหนังก็เล่นในเรื่องของประเด็นนี้ ชี้ให้เห็นถึง ความน่าเศร้าของการที่ได้ตายไปแล้ว ยังไม่มีแม้กระทั่งคนจดจำ
ไม่ใช่เพราะว่า เป็นคนไม่เด่นหรือไม่ดัง แต่บางทีก็อาจเป็นเพราะ สุดท้าย ไม่มีลูก หรือหลาน ก็เลยทำให้ถูกลืมไปโดยปริยาย
ถึงแม้ที่กล่าวมาจะเป็นแค่เพียง การ์ตูน อนิเมชั่น แต่มันก็แฝงไปด้วยความจริง
ความจริงที่ว่า "เราทุกคนล้วนแล้วแต่เกิดมา เพื่อตาย แต่ก่อนที่จะตายไปนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วแหละว่า จะทำอะไรให้คนจดจำมากเพียงไหน
คงไม่มีใครหรอกที่อยากจะจากโลกนี้ไปแบบที่ ไม่มีใครจดจำคุณ
ขอให้ใช้เวลาที่มีอยู่ สร้างสิ่งดีๆ ให้โลกนี้จดจำ นะครับ
สุดท้าย มันไม่สำคัญหรอกว่า ใครจะจดจำคุณแบบไหน แต่มันสำคัญกว่าว่าคุณทำตัวแบบไหนให้เขาจดจำ
ขอให้บทความนี้ "ฉุดคิด" คุณ ที่ได้อ่าน บ้างนะครับ
โฆษณา