17 ก.ค. 2020 เวลา 18:47 • สุขภาพ
หนึ่งในวิธีที่สามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดคือการระบุตัวผู้ติดเชื้อให้เร็วที่สุดเพื่อลดการสัมผัสเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง
ดังนั้น นอกจากวัคซีนที่บริษัทยาทั่วโลกต่างเร่งวิจัยแล้วนั้น สงครามชุดทดสอบในแต่ละประเทศก็เข้มข้นไม่แพ้กัน
โจทย์สำคัญของชุดทดสอบที่ตลาดทั่วโลกคือ ความแม่นยำ รวดเร็ว และราคาถูก
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ไม่ใช่ทุกประเทศจะสามารถคิดค้นชุดทดสอบได้เอง ดังนั้นเมื่อประเทศใดหรือบริษัทยาบริษัทใดสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกได้ก่อนแล้วล่ะก็
เงินกำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป
เม็ดเงินมหาศาลจากการขายชุดทดสอบก็พร้อมที่จะไหลมาเทมาไม่แพ้วัคซีนเลยค่ะ
ดังนั้นวันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าแต่ละประเทศเค้ามีการคิดค้นพัฒนาชุดทดสอบหรือทำอะไรกันไปถึงไหนแล้วบ้าง
ออสเตรเลีย - ประเทศที่โดนการระบาดระลอกสอง
ออสเตรเลียสามารถผลิตชุดทดสอบโควิดรู้ผลภายใน 20 นาที คิดค้นโดยมหาวิทยาลัยโมนาช
นอกจากจะช่วยตรวจสอบว่าติดเชื้อโควิดหรือไม่ ยังสามารถระบุได้ว่าคนๆ นั้นมีประวัติเคยติดเชื้อโควิดมาก่อนอีกด้วย
ชุดตรวจสอบนี้จะใช้พลาสมาเพียง 25 ไมโครลิตร จากตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจสอบดูว่ามีการเกาะกลุ่มของเซลล์เม็ดเลือดแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิดหรือไม่
ข้อดีของชุดทดสอบนี้คือออสเตรเลียจะสามารถตรวจหาเชื้อโควิดได้หลายร้อยคนภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง อีกทั้งนักวิจัยหวังว่าจะใช้ชุดทดสอบนี้ขยายผลต่อยอดเพื่อศึกษาการตอบสนองของเซลล์เม็ดเลือดขาวหลังการฉีดวัคซีน
ขณะนี้ทางคณะวิจัยต่างกำลังเร่งหาทุนสนับสนุนเพื่อทำการผลิตชุดทดสอบนี้ค่ะ
อเมริกา -ประเทศที่มีการระบาดเป็นอันดับ 1 ของโลก
อเมริกาเป็นประเทศแรกๆ ที่สามารถผลิตชุดทดสอบโดยบริษัทยายักษ์ใหญ่ขาประจำของโลกซึ่งก็คือ Abbott นั่นเอง
หลังจากที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA ได้อนุมัติเป็นการฉุกเฉินให้ใช้ชุดตรวจที่บริษัทยา Abbott ผลิตขึ้นมาเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยชุดตรวจสอบของ Abbott มี 5 แบบคือ
2 แบบแรกเป็นการตรวจภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยมีหลักการทำงานคือการตรวจสอบการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ผลตรวจสามารถระบุว่าเป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่ถึงแม้ว่าบุคคลนั้นจะแสดงอาการของโรคเพียงเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการเลยก็ตาม แบบต่อมาคือการตรวจแบบ automated test ในห้องแลป และแบบสุดท้ายที่ใช้ในทำเนียบขาวโดยสามารถรู้ผลภายใน 5 นาที!!!
แต่ก็มีข่าวออกมาว่าชุดทดสอบที่ใช้ในทำเนียบขาวนั้นเร็วซะเปล่า แต่ไม่แม่นซักกะติ้ก
photo credit: Bangkok Post
จากชุดทดสอบทั้ง 5 บริษัท Abbott ทำรายได้จากการขายชุดทดสอบโควิดในอเมริกาและประเทศต่างๆ ทั่วโลกในช่วงระยะเวลา 3 เดือน (เมษายน - มิถุนายน) ทั้งสิ้นกว่า 1.99 พันล้านเหรียญสหรัฐ และหุ้นของ Abbott ก็กำลังดีดขึ้นเลยค่ะ
อินเดีย - ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อแตะ 1 ล้านคน
หลังจากที่อินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับสามของโลก รัฐบาลจึงพยายามเร่งหาทางยับยั้งการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้วยประชากรในประเทศที่มีมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก รัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีอาวุธเพื่อต่อสู้กับศึกครั้งนี้เป็นจำนวนมาก และที่สำคัญคืออาวุธชิ้นนี้ราคาจะต้องถูกกว่าท้องตลาด!!
เมื่อเร็วๆ นี้ สภายาแห่งชาติของอินเดียได้อนุมัติให้มีการใช้ชุดทดสอบจากบริษัทยา NewTech Medical Devises ในอินเดียชื่อ Corosure
photo credit: PIB
โดยราคาชุดทดสอบนั้นทางรัฐบาลอินเดียเคลมว่า Corosure ของอินเดียมีความแม่นยำและมีราคาถูกที่สุดในโลก ซึ่งจะอยู่ที่ราวๆ 399 รูปี หรือประมาณ 169 บาทเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าจะรวมราคาการตรวจในห้องแลปทั้งหมดเข้าไปด้วย ก็จะอยู่ที่ประมาณ 650 รูปี หรือ 274 บาทเท่านั้น (ชุดทดสอบ 1 ชุดตรวจได้ 10 ตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นราคาอยู่ที่ 240 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7,600 บาท)
โดย Corosure นี้สามารถรู้ผลภายใน 3 ชั่วโมง
รัฐบาลตั้งเป้าให้มีการผลิตชุดทดสอบ 2 ล้านชิ้นภายใน 1 เดือน อีกทั้งยังเร่งให้มีการคิดค้นชุดทดสอบที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ดังนั้นสถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดียซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ออกใบอนุญาตให้ทำการผลิตชุดทดสอบได้อนุมัติให้บริษัทยาอีกกว่า 10 แห่งเพื่อเร่งผลิตชุดทดสอบให้ทันกับความต้องการในประเทศ
อิสราเอลกับการพัฒนาชุดทดสอบด้วยการใช้ลมหายใจ!!
นอกเหนือจากความรวดเร็วของการแสดงผลตรวจแล้ว อิสราเอลมาเหนือกว่าประเทศอื่นโดยการใช้ "ลมหายใจ" ในการตรวจหาเชื้อ
อันนี้มาเหนือจริงๆ แถมยังให้ผลลัพธ์ภายใน 1 นาทีเท่านั้น!!!!!
ด้วยการมองว่าวิธีการแสวปจมูกหรือการเก็บสารคัดหลั่งในจมูกนั้น หากตัวอย่างที่เก็บมามีวิธีการเก็บรักษาไม่ถูกต้องหรือไม่ดีพอ ก็จะส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนของการตรวจได้
ดังนั้นนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเบน-กูเรียนและกระทรวงกลาโหมได้ร่วมมือกันพัฒนาการตรวจหาเชื้อโดยการใช้ระบบไฟฟ้าเชิงแสง ประกอบด้วยชุดทดสอบขนาดเล็กประมาณ 7 ซม.พร้อมหลอดเป่าและแคปซูลบรรจุชิพและเซนเซอร์
หายใจออกหรือเป่าแบบนี้หละค่ะ// photo credit: Times of Israel
การใช้งานคือผู้ทำการตรวจจะหายใจออกหรือเป่าที่เซนเซอร์แล้วระบบจะประมวลผลภายในระยะเวลาประมาณ 20 วินาทีเท่านั้น และผลการตรวจทั้งหมดจะถูกบันทึกข้อมูลไว้เพื่อทำการบันทึกเส้นทางการระบาดและการจัดลำดับการรักษาผู้ป่วย
ล้ำจริงอะไรจริงค่ะ
แต่ทั้งนี้ชุดทดสอบนี้ยังอยู่ในระยะทดสอบกับตัวอย่าง 120 คน และให้ผลแม่นยำกว่า 85% และกำลังพยายามขยายกา่ทดสอบกับนายทหารที่ป่วยและมีสุขภาพดีในกองทัพ
คาดว่าอีกไม่นานน่าจะได้ข้อสรุปและนำมาใช้อย่างแน่นอนค่ะ
// มีต่อตอนที่ 2 กับอีกหลายๆ ประเทศนะคะ ตอนนี้แอดขอไปนอนก่อนค่ะ
//หากชื่นชอบบทความ ฝากกดติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ยินดีน้อมรับคำติชมค่ะ
Infographic โดย <a href='https://www.freepik.com/free-photos-vectors/health'>Health vector created by freepik - www.freepik.com</a>
ภาพโปรยเงิน โดย <a href='https://www.freepik.com/free-photos-vectors/background'>Background photo created by jcomp - www.freepik.com</a>

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา