18 ก.ค. 2020 เวลา 04:46 • สุขภาพ
“หน้าประวัติศาสตร์ของวัคซีนไทย วัคซีนโควิด19 Made in thailand
วัคซีนของจุฬาฯ จะเริ่มฉีดทดลองในมนุษย์แล้ว.....”
วันที่ 12 กค 63 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โดยศูนย์วัคซีน (Chula VRC : Chula Vaccine Research Center) ได้แถลงความคืบหน้าทางวิชาการครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์วงการแพทย์ไทย คือ ความสำเร็จของการวิจัยทดลองวัคซีนโควิด 19 ในสัตว์ทดลองขั้นสุดท้าย ผลเป็นที่น่าพอใจและจะขยับเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญคือ การทดลองในมนุษย์ที่เป็นอาสาสมัคร
ทำให้วัคซีนไทยจะกลายเป็น 1 ใน 19 ชนิดของวัคซีนชั้นนำที่ทดลองในมนุษย์ โดยที่มีวัคซีนอีกกว่าร้อยชนิด (129 ชนิด) ทั่วโลกเพิ่งจะเริ่มทำการวิจัยทดลองในสัตว์
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ทางศูนย์วัคซีนจุฬาได้ทำการทดสอบวัคซีนโดยการฉีดในหนูทดลอง ผลปรากฎว่าผลการทดลองได้ผลดีมาก หนูมีภูมิต้านทานต่อไวรัสในระดับสูงมาก ระดับtiter 1:40,000 (ปกติ1:100 )
ต่อมาจึงขยับการทดลองมาทำการทดลองในลิง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 โดยฉีดวัคซีนเข็มแรก หลังจากนั้นอีก 1 เดือนจึงฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 2 ผลปรากฎว่า ระดับภูมิต้านทานในลิงขึ้นในระดับดีมาก (1:5,000)
นั่นคือปรากฎการณ์สำคัญที่จะเริ่มทดลองในมนุษย์ครั้งสำคัญของประเทศ !!!!!!!
หลังจากนี้ ศูนย์วัคซีน จุฬาจะทำการขออนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์และคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขออนุญาตให้วัคซีนสามารถนำมาฉีดในมนุษย์ 2 ขั้นตอนนี้เร่งเต็มที่คงจะใช้เวลาอีก 2 เดือน
การทดลองเฟสแรกในมนุษย์ จะเริ่มทดลองในอาสาสมัคร 100 คน โดยใช้วัคซีนขนาดต่างๆ เพื่อศึกษาหาขนาดวัคซีนที่ดีที่สุดในกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Antibody)
หากประสบความสำเร็จในเฟสแรกก็จะขยับมาทดลองในเฟสที่ 2 คือทดลองในอาสาสมัคร 500-1,000 คน เพื่อดูความเหมาะสมของขนาดวัคซีน อายุของผู้รับวัคซีน และระดับภูมิต้านทาน ว่ามีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง มีภูมิต้านทานสูงในระดับป้องกันโรคได้ ทำนองเดียวกับเฟส 1 แต่ทดลองในกลุ่มตัวอย่างคืออาสาสมัครที่มีจำนวนมากขึ้น คาดว่ากว่าจะเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ เร็วที่สุดน่าจะประมาณเดือน ธันวาคม 2563
เฟสสุดท้าย คือ เฟสที่ 3ในมนุษย์ ทดสอบในอาสาสมัครประมาณ 10,000 คน การหาอาสาสมัครที่จะฉีดวัคซีนในเฟส 3 จะแตกต่างจากเฟส 1-2 เพราะจะต้องดูความสามารถของวัคซีนในการป้องกันโรคได้จริง จึงจำเป็นต้องทดลองในประเทศที่กำลังมีผู้ติดเชื้อใหม่จำนวนมาก
ซึ่งการทดลองในเฟสที่ 3 ทำได้ยาก เพราะต้องใช้อาสาสมัครจำนวนมาก แต่ประเทศไทยขณะนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (นานถึง 48 วันแล้ว) ทำให้ไม่สามารถทดลองเฟส 3 ในประเทศไทยได้
คาดว่าทีมวิจัยจึงทำการประสานติดต่อประเทศอินโดนีเซีย เพื่อมาร่วมวิจัยเฟส 3 เพราะอินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อใหม่จำนวนมาก เพื่อจะได้ทำการทดลองในวงกว้าง ก่อนจะสรุปผลการทดลองมาผลิตวัคซีนเพื่อใช้ในประเทศไทยต่อไป......
ส่วนคำถามที่ว่าประเทศไทยจะมีโอกาสได้ใช้วัคซีนเร็วที่สุดเมื่อไหร่
คำตอบคือถ้าเราโชคดี ประสบความสำเร็จในทุกขั้นตอน เฟส 1 เราใช้เวลา 2 เดือน เฟส 2 ใช้เวลาอีก 4 เดือน เริ่มทดลองตค 63 ก็จะไปเสร็จสิ้นมีนาคม 64
หลังจากนั้นจะเป็นการฉีดอาสาสมัคร 10,000 คน ในเฟส 3 ซึ่งเป็นเฟสสุดท้าย ก็จะมีโอกาสใช้จริงในครึ่งปีหลังของปี 2564
ระหว่างนี้อีกประมาณ 1 ปี เราคงยังต้องใส่หน้ากากเวลาออกนอกบ้าน หรืออยู่ในสถานที่แออัดที่มีความเสี่ยง ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างทางสังคมเท่าที่ทำได้ และดูแลสุขภาพตนเองให้ดี เพื่อรอวันที่จะมีวัคซีนไทย ฉีดให้กับคนไทยทุกคนต่อไปครับ....
รักและปรารถนาดีจาก "เรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย...."
ขอบคุณข้อมูลจาก
- ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ
- ศูนย์วัคซีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โฆษณา