18 ก.ค. 2020 เวลา 17:31 • นิยาย เรื่องสั้น
เด็กหญิงใต้ต้นพุทรา
เมื่อเสียงเจ้าโอ้ขันดัง "โอ้ อี โอ้โอ้!" สาวน้อยลืมตาขึ้น เอามือมาขยี้ตาสองสามที แล้วเธอก็ลุกขึ้นเก็บที่นอน พับผ้าห่มวางไว้ปลายเตียง ตบหมอนสองสามทีให้หมอนพองขึ้น
เธอหันยิ้มให้กับตุ๊กตาข้างหมอนบนเตียง แล้วเธอวิ่งลงชั้นล่างของบ้าน แม่ของเธอตื่นหุงข้าวและทำกับข้าวแกงโปรดของเธอเอง สาวน้อยวิ่งไปที่หม้อหุงข้าว ยื่นจมูกไปใกล้กับหม้อเพื่อสูดดมกลิ่นข้าวจากไอระเหยของหม้อ "หอมจัง"
สาวน้อยเธอวิ่งไปที่เตาไฟนั่งลงบนเก้าอี้ตัวจิ๋ว พร้อมกับเอามือไปจับมือเหยี่ยวๆมือหนึ่ง แต่รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่เธอต้องการ เจ้าของมือนั้นหันมามองแล้วยิ้มให้ เขาคือคุณย่าของสาวน้อยเอง แสงไฟแผ่ความร้อนออกจากเตาทำให้มือเล็กๆอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ สาวน้อยวิ่งไปใส่รองเท้าบูทสีเหลืองโดดเด่นอยู่ข้างๆรองเท้าบูทสีดำคู่ใหญ่อีกสองคู่ที่เรียงกันไว้
วันนี้สาวน้อยหยุดเรียนเธอจึงมีความสุขมากเป็นพิเศษ เธอวิ่งออกไปนอกบ้านพร้อมกับเจ้าอ้วนวิ่งตามหลัง ลูกหมาหลงทางที่เธอพบอยู่กลางนา จึงขออนุญาตปู่ของเธอเอามาเลี้ยง ตอนนี้มันโตมากวิ่งได้เร็วกว่าเธอเสียอีก ทั้งสองวิ่งตามชายแก่ผมขาวไปในนา
ระหว่างทางเต็มไปด้วยดอกหญ้า โบกสะบัดของสายลมเหมือนทุกๆอย่างที่อยู่รอบตัวเธอ
กำลังเต้นรำและวิ่งเป็นเพื่อนเธอไปพร้อมๆกัน
เมื่อชายแก่ผมยาวเดินมาหยุดที่ตัวกระท่อมกลางนา เอาข้าวของน้ำดื่มที่พกมาวางไว้ในกระท่อมแล้วแบกจอบอันใหญ่เดินเข้าไปในนา เขาหันหลังมาบอกสาวน้อย "แดดร้อนแล้ว
เล่นอยู่ในกระท่อมนะอย่าไปไหนล่ะ" สาวน้อยหันไปตามเสียง แล้วยกมือทั้งสองท้าวเอวท่าทางไม่พอใจพร้อมตะโกนว่า "ปู่! หนูไม่กลัวร้อนสักหน่อย" ชายแก่ยิ้มแล้วเดินต่อไปตามคันนาโดยไม่หันกลับมา เขารู้จักหลานสาวตัวเองดีว่าดื้อและซนขนาดไหน
สาวน้อยนั่งลงในกระท่อมแล้วมองซ้ายขวาเธอกำลังคิดว่าจะทำอะไรดีนะ? เสียงเจ้าอ้วนก็เห่าขึ้น "โฮ่งๆ โฮ่งๆๆ" มันกำลังเห่าผีเสื้อสีเหลืองที่บินผ่านหน้ามันพร้อมกับวิ่งตามผีเสื้อตัวนั้นไป สาวน้อยรีบลุกขึ้นวิ่งตามหลังเจ้าอ้วน เธอวิ่งไปอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยเหมือนมีอะไรมาเติมเต็มพลังของเธอให้วิ่งไปข้างหน้า เมื่อนึกได้ว่ากำลังวิ่งตามเจ้าอ้วนอยู่เธอจึงหยุดวิ่งแล้วมองไปรอบๆตัว รายล้อมไปด้วยผืนนาอันกว้างสุดลูกหูลูกตาที่ชาวนาเพิ่งเกี่ยวข้าวกันเสร็จ
พื้นนาที่มองเห็นเป็นดินแห้งแตกเป็นซีกๆ ตอข้าวเหลืองน้ำตาลเต็มท้องนาแม้จะดูเหยี่ยวแห้ง แต่สาวน้อยคิดถึงภาพตอนก่อนหน้านี้ว่ากว่าจะเป็นภาพในวันนี้ ต้นข้าวนั้นเขียวขจีงด
งามและสดใสมากมองนานแค่ไหนก็ไม่เบื่อ เมล็ดข้าวที่เธอได้กินทุกวันนั้นช่างอร่อยและหอมชวนหิวมากเพียงใด เธอมองตอข้าวต้นแล้วต้นเล่าเธอก็ยังยิ้มและมีความสุข
เธอเดินตามคันนาไปเรื่อยๆเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่บนคันนา เธอก็เบิกตากว้างยิ้มอยู่
มุมปาก นั่น!ชายแก่ผมขาวของเธอกำลังนั่งพักหลบแดดอยู่ใต้ร่มไม้สาวน้อยวิ่งตรงไปที่
ต้นไม้ต้นนั้นแล้วนั่งลงข้างๆ ปู่ของเธอลูบหัวหลานเบาๆพร้อมกับยื่นลูกไม้สีเขียวๆเหลืองๆลูกกลมๆเล็กเท่าลูกแก้วที่เธอชอบเล่นไว้บนมือเธอสามสี่ลูก
สาวน้อยถามขึ้นว่า"ลูกอะไรคะ กินได้ไหมคะ" ปู่ของเธอพยักหน้า เธอไม่รีรอที่จะหยิบลูกไม้สีเหลืองบนมือมากัด"หวานจังค่ะ" ปู่ตอบกลับเธอว่า"เขาเรียกลูกพุทรา"พร้อมกับชี้มือไปตรงพื้นที่มีลูกพุทราตกเกลื่อนกลาดไปหมด เธอลุกขึ้นไปเก็บลูกพุทราสีเหลืองมาชิมอีกรอบ เพราะเธอรู้แล้วว่าลูกสีเหลืองจะรสหวานสุดๆกลิ่นก็หอม แต่เสียดายพอกัดอีกด้านมีตัวหนอนน้อยๆอยู่ด้วย เจ้าหนอนก็คงชอบกินพุทรามากๆเหมือนเธอสินะ ส่วนลูกสีเขียวปู่บอกว่ายังไม่สุกดีรสชาติจะเปรี้ยวๆฝาดๆ เธอเองก็เห็นด้วย
สาวน้อยเพลิดเพลินกับการเก็บลูกพุทรา ชายแก่ผมขาวเห็นแล้วเอ็นดูพร้อมกับพูดว่า "ถ้าอยากไดลูกไม่มีหนอน ก็ต้องเก็บลูกที่ยังอยู่บนต้นนะ" เธอรีบวิ่งไปเก็บไม้ยาวๆที่วางข้างต้นพุทรามาชูขึ้นแล้วฟาดไม้ด้วยกำลังแรงที่มีลงไปที่กิ่งพุทรา ลูกพุทราหล่นมาเป็นสาย
ห้าหกลูกในคราเดียวกัน เธอตั้งใจเก็บไปเยอะๆเพื่อเอาไปฝากเพื่อนๆของเธอที่โรงเรียน
ในวันรุ่งขึ้น
สาวน้อยไม่ได้เก็บอยู่คนเดียวหรอกนะ ยังมีนกตัวเล็กตัวใหญ่ที่กำลังมาจิกกินลูกพุทรา
เหล่านกแข่งกันร้องส่งเสียงดังจ้อกแจ้ ฟังแล้วเพลินหูไม่เบื่อเลยเหมือนพวกมันกำลังร้องเพลง เมื่อเธอเก็บลูกพุทราได้เต็มกระเป๋าทั้งสองบนตัวเสื้อของเธอ หลังจากนั้นเธอมานั่งพิงลำต้นพุทรา ความอ่อนล้าทำให้ตาดวงน้อยค่อยๆปิดลงไป เหลือเพียงเสียงของเหล่านกที่ยังคงดังก้องอยู่ไม่ขาดสาย
เพียงไม่กี่นาทีผ่านไป สาวน้อยได้ยินเสียงชายวัยกลางคนสองคนคุยกันว่าจะตัดต้นพุทรานี้ทิ้งเพราะมันแตกกิ่งก้านมาก ทำให้พืชผลที่ปลูกใกล้หรืออยู่ใต้ต้นเติบโตไม่เต็มที่เนื่องจาก
ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ เธอมองไปยังชายทั้งสองคนแล้วน้ำใสๆจากดวงตาเริ่มไหรินมาอาบแก้มแดงๆของเธอ
ต่อไปนี้เธอคงไม่ได้กินลูกพุทราแล้วสินะ? ไม่เพียงรู้สึกเสียใจเธอยังเสียดายที่รู้จัก
ต้นพุทรานี้ช้าไป ถ้ารู้ก่อนหน้านี้เธอคงได้เป็นเพื่อนกับต้นพุทราและเหล่านกทั้งหลายและได้
ใช้เวลาเล่นสนุกด้วยกัน ต้นพุทรานี้ร่มเงา ที่พักอาศัย อาหารให้กับเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ทั้งนก กระรอก กระแต รวมถึงตัวเธอและชายแก่ผมขาวเอง เธอยังไม่ได้พาเพื่อนมาดูต้นพุทรา เธอยังไม่ได้อ่านการ์ตูนเรื่องโปรดให้ต้นพุทราฟัง เธอยังไม่ได้ทำความรู้จักกับต้นพุทราเลย
ชายสองคนนี้ช่างใจร้ายจัง เธอได้แต่ถอนหายใจยืนมองต้นพุทราด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง
ชายแก่ผมขาวเอามือไปจับที่ไหล่ของสาวน้อยทั้งสองข้างพร้อมกับเรียก"พุทรา พุทรา
พุทราลูก" สาวน้อยลืมตาหันไปทางต้นเสียงนั้น "คุณปู่ขา" พร้อมกับร้องไห้โฮออกมา "คุณปู่ขา เขาจะไม่ตัดต้นพุทราทิ้งใช่ไหมคะ หนูไม่อยากให้เขาตัดเลย" ชายแก่ผมขาวยื่นมือไป
โอบกอดหลังรักของตนแล้วพูดว่า "ใครจะมาตัดล่ะพ่อกับแม่หนูคงเสียใจแย่เลย"
สาวน้อยพุทรามองหน้าชายแก่พร้อมกับสีหน้านิ่ว คิ้วขมวดสงสัย ชายแก่เล่าต่อว่า"นาแปลงนี้เป็นของปู่เองตกทอดมาจากทวดของหลาน พ่อกับแม่หนูพบรักกันใต้ต้นพุทราต้นนี้555
นานมาแล้ว เมื่อตอนแม่ของหนูมาช่วยลงแขกเกี่ยวข้าวน่ะ พอแต่งงานกันมีลูกก็เลย
ตั้งชื่อหนูว่า'พุทรา'ไงล่ะ" ชายแก่เล่าเรื่องพ่อกับแม่ของเธอให้ฟังอย่างเพลิดเพลินสลับกับเสียงหัวเราะของปู่และพุทราแทรกเป็นระยะตลอดการเดินทางกลับบ้าน
แต่งโดย monna 18 กรกฎาคม 2563
ฝากติดตามด้วยนะคะ ตั้งใจเขียนมากๆ เรื่องราวนี้ได้แรงบันดาลใจจากวิถีชีวิต
ของชุมชนหนึ่ง ที่ตัวผู้เขียนได้สัมผัสและถ่ายทอดผ่านจินตนาการของเธอ
....สามารถติดชมได้ ยินดีรับฟังทุกข้อเสนอแนะค่ะ
โฆษณา