20 ก.ค. 2020 เวลา 01:51 • สุขภาพ
ก่อนอื่นต้องกล่าวคำว่า
"ขอโทษครับ"
ที่หายไปเป็นอาทิตย์ๆเลย
เนื่องจากข้อมือของผม
มีอาการบาดเจ็บจาก
การทำงานในสวนต่อเนื่องและหนักเกินไป
มือของผมเกิดอาการชาเนื่องจาก
เส้นเอ็นที่ข้อมือเกิดพังผืด
จนไปทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการ
ชา3 นิ้วครึ่ง คือ โป้ง ชี้ กลาง และนางครึ่งนิ้ว
ผมตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาล
เพราะอาการแบบนี้เกินขีดความสามารถของร่างกายของผมที่จะจัดการด้วยตัวเอง
คุณหมอตรวจแล้วก็สรุปเหมือนที่ผมบอกด้านบน
สั่งให้ผม"งดใช้ข้อมือทำงานหนัก
หรืออยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ
ซึ่งนิกจากห้ามทำสวนแล้วก็ยังห้ามเล่นสมาร์ทโฟนอีกด้วย😅
และให้ยามากิน 2 เวลา หลังอาหาร
เช้า และ เย็น
ถ้าเป็นเมื่อ 2 ปีที่แล้วคงไม่มีปัญหาอะไร
เพราะผมกินอาหารครบ3มื้อ
แต่ ณ ปัจจุบัน ผมฝึกร่างกายมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งร่างกายของผมชิน
กับการกินแค่ "มื้อเดียว"
หลายคนเจอปัญหาเดียวกับผม
แก้ปัญหาด้วยวิธีแตกต่างกันไปเช่น
กินมื้อเช้ารองท้องพอให้ได้กินยา
พอจะกินมื้อเย็นค่อยอัดทีเดียวอิ่มๆ
สำหรับผมสิ่งที่ผมถามหมอคือ
"ยาที่ให้มาผมต้องกินห่างกันอย่างน้อยกี่ชั่วโมง"
คุณหมอตอบว่า 6 ช.ม.
ผมเลยตัดสินใจเลือกแบบนี้
มื้อแรกคือมื้อเช้าหลังจากส่งลูกที่โรงเรียน
ผมจัดหนักๆจนอิ่มแล้วค่อยกินยา
ก็จะกินเสร็จประมาณ9.00 น.
นับไปอีก6ช.ม. ก็คือ15.00 น.
ผมก็กินอีกมื้อให้อิ่มแบบสบายๆ
ก่อนกินยา กินเสร็จก็ไปรับลูกทันพอดี
หลังจากกินอาหาร2ช.ม. ผมจะออกกำลังกายก็ยังได้
และสามารถนอนหลับสบายเพราะไม่กินก่อนเวลานอนมากเกินไป
แถมยังได้กินยาตามหมอสั่งอีกด้วย
อุบัติเหตุ การเจ็บไข้บางอย่าง
มันไม่บอกล่วงหน้าหรอกครับ
ผมดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยอาหารดีๆมาตลอด
แต่สุดท้ายก็ตกท้าตายเพราะทำงานเยอะเกินไปจนร่างกายรับไม่ไหว
นี่แหละครับตัวอย่างของวลีที่ผมย้ำบ่อยๆ
"ยืดหยุ่น แต่ไม่ หย่อนยาน"
ผมต้องยืดหยุ่นเพื่อเวลาในการกินอาหาร
แต่ไม่หย่อนยานที่จะไปกินอาหารที่
ทำร้ายตัวของผมเอง
รัก
โย/22
YoFlexible
โฆษณา