25 ก.ค. 2020 เวลา 00:08 • ปรัชญา
As it is...มันเป็นเช่นนั้นเอง
คำถามนึงที่หุยถามตัวเองในใจ
จิตวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์และ สูงส่ง
ต้องเป็นอย่างไร
สิ่งจิตวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำ คือ การเรียนรู้ประสบการณ์
ประสบการณ์ที่เกิดจากความคิด
ประสบการณ์ที่เกิดจากอารมณ์
ประสบการณ์ที่เกิดจากความรู้สึก
ประสบการณ์ที่เกิดจากการะทำของตน
ประสบการณ์ที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมที่มากระทบ
เมื่อได้รับประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในแบบที่ชอบหรือไม่
ทุกข์หรือสุข มันคือการตีความของเราเอง
และจึงเกิดการเรียนรู้ ว่า ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ ต้องทำสิ่งนั้น
ซึ่งมัน ก็เป็นแค่ประสบการณ์ของการทำงานของสมองมนุษย์
ที่ก่อให้เกิดความสับสนไม่สิ้นสุด
เหมือนเรือน้อย ที่ลองแบบไร้ทิศทาง
วนอยู่ในวงเวียนของกรรม หรือ การกระทำ
แต่เป้าหมายที่สูงสุด
คือ ความสามารถในการที่จะบังคับให้จิตวิญญาณสูงส่งนี้
ได้กลับบ้าน คือ ความเป็นหนึ่งเดียวกันว่า เราคือ สิ่งเดียวกัน
ในความแตกต่าง เราไม่ได้แตกต่าง
ไม่ว่า มั่งคั่ง หรือยากจน ไม่ว่าจะชาติไหน ภาษาใด
ไม่ว่าเราจะทำอะไร อาชญากร หรือ รัฐบุรุษ เราคือ จิตวิญญาณเดียวกัน
เราเกิดมาเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ที่แตกต่าง
มองเห็นความแตกต่างคือการเรียนรู้
หยุดการตัดสิน หยุดการแยกแยะ
หยุดการให้นิยามความหมาย
หยุดการวิพากย์วิจารณ์
แค่ตระหนักรู้ และ
มองโลกในแบบที่มันเป็น
As it is
มันเป็นเช่นนั้นเอง
เมื่อนั้น ชีวิตจะทรงพลังมหาศาล
เพราะเราเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ของเรา
คือ เรียนรู้ประสบการณ์
ไม่ติดทุกข์ ไม่ติดสุข
แยกร่างกาย การกระทำ ความคิด ความรู้สึก อารมณ์
ออกจากตัวตนที่จริงแท้ของเรา
เราไม่ใช่ร่างกายของเรา
เราไม่ใช่การกระทำของเรา
เราไม่ใช่อารมณ์ของเรา
เราไม่ใช่ความรู้สึกของเรา
เราทุกคนคือ จิตวิญญาณเดียวกัน
จิตวิญญาณที่สูงส่งและศักดิ์สิทธ์
เกิดมาเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์
และเห็นโลก As it is
โฆษณา