24 ก.ค. 2020 เวลา 00:00 • สุขภาพ
The Depression Handbook โดย ทิวัตถ์ ชุติภัทร์
เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วผมถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าครับ ซึ่งพอถูกวินิจฉัยแล้วผมก็มีโอกาสที่นอนโรงพยาบาล กินยา แล้วถูกให้พบเจอกับนักจิตบำบัด จนผมสามารถดีขึ้นได้ คราวนี้ผมเขียนบทความเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้ว เพราะว่าผมอยากที่จะให้แฟนผมเข้าใจว่ามันเป็นยังไงเพื่อที่จะต้องทำตัวถูกเวลาอยู่กับผม ผมตอนแรกเอาบทความเรื่องนี้ให้กับคนใกล้ตัวผมเท่านั้นเพื่อที่จะเป็นวิทยาทานให้กับคนใกล้ตัวได้รู้ว่ามันมีอาการอย่างไรบ้าง แต่แล้วมีผู้หญิงคนนึงแนะนำให้ผมเผยแพร่บทความเรื่องนี้ให้กับคนทั่วไปได้รับฟังเพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้ถูกวินิจฉัยโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ มันมาจากประสบการณ์โดยตรงของผมล้วนๆ เลยโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ผมอยากจะให้ความรู้เกี่ยวกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้าครับ เพราะว่าผมมองว่าคนส่วนใหญ่ใช้อารมณ์ และ ใช้ความไม่รู้ในการตัดสินว่าคนๆนั้นเราควรจัดการอย่างไร นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้าครับ
1. ใช้เงินเยอะมาก ซื้อของไม่จำเป็นเยอะมาก ถึงแม้ว่าไม่จำเป็นจะบอกว่าจำเป็น
2. มีความต้องการทางเพศสูง และอยากมีกับคนที่ไม่ใช่คู่ของตัวเอง หรือ อยากมีกับคนอื่น หรือบางครั้งไม่อยากมีเลย ไม่อยากยุ่งจูบยังไม่อยากจูบบางที
3. พยายามทำตัวเป็นคนอื่น เพราะว่าเป็นคนเดิมแล้วมันทำให้เป็นโรคซึมเศร้า เปลี่ยนลุค เปลี่ยนวิธีการแต่งตัว เปลี่ยนทุกอย่าง อยู่ดีๆจะสักก็สัก จะโกนหัวก็โกน
4. จะคิดเล็กคิดน้อยกับทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องเล็กแบบสุดๆๆๆๆๆๆๆ แม้กระทั่ง แบบคำพูดที่เราไม่คาดคิด การกดไลค์ใน Facebook ที่น้อยกว่าความคาดหวัง
5. อยากทำไปทุกอย่างในบางที หรือ ไม่อยากทำอะไรเลยก็ตาม ถ้าให้แนะนำ ทำทุกอย่างจะดีกว่า เพราะว่าอย่างน้อยความคิดจะไม่ได้จมอยู่กับมัน
6. เรื่องที่เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วในแต่หละวัน อย่างเช่นอาบน้ำ แปรงฟัน จะกลายเป็นเรื่องยากกว่าสมัยก่อนเยอะ ต้องลองฝืนใจดู
7. บางทีอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายมาก ขึ้นๆลงๆ อย่างกับสภาพอากาศ โกรธชิบ หรือ เศร้าหนัก สวิงกว่าไม้เบสบอล
8. ถ้าทำผิดพลาดเรื่องใดๆก็ตามจะจมอยู่กับตรงนั้นหลายชั่วโมง บางทีเป็นวัน หนักสุดเป็นสัปดาห์
9. กินข้าวยาก หรือ กินเยอะเกินไป แล้วแต่อารมณ์
10. ความมั่นใจสั่นคลอนง่าย สั่นสะเทือนง่าย
หา Pattern ของมันให้เจอ ผมเป็นโรคซึมเศร้าจะมาปีหละ 3 ครั้ง คือช่วงต้นเมษาก่อนสงกรานต์ และ ช่วงมิถุนาช่วงเข้าฤดูฝน ช่วงหลังวันเกิดกลางตุลาคมและปลายตุลาคม ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นช่วงนี้ อาจจะเป็นเพราะสภาพอาหาศ ปี 2018 หนักสุดๆคือเข้าโรงพยาบาล ซึ่งพูดกับตามตรงมันไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เข้าใจตัวเอง เข้าใจว่าตอนนี้เราเป็นอะไรอยู่ พยายามดีเลย์การตัดสินใจออกไป สบายๆไม่ต้องรีบตัดสินใจ ทำตามแผนที่เราวางไว้ไปก่อน ใจเย็นๆ ค่อยๆคิด อะไรรอได้รอ ฝืนอารมณ์ตัวเองไปก่อน และต้องถามอีกคำถามนึงคือ อยากหายไหม ถ้าอยากหายมันจะง่าย จงเชื่อฟังหมอ
ตอนผมเข้าไปนอนโรงพยาบาลช่วงที่เป็นหนักๆครับ
ส่วนคนที่เป็นคนสนิทของผู้ป่วย ต้องอยู่กึ่งกลางครับ อย่าตามใจเขาจนเกินไป เพราะถ้าตามใจเขา เขาก็จะได้ใจเหมือนเด็ก demand มากขึ้น สุดท้ายเขาก็จะไม่ทำอะไรเลย อย่ากดดันเขา ถ้าเราพยายามที่จะสอนเขา เขาก็จะไม่ฟังมากขึ้น จะขึ้นกับเราและจะเห็นว่าเรามาเอาเปรียบหรือมาสอนเขา สิ่งที่ดีที่สุด คือบอกเขาว่า เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง นั่นคือคำพูดที่ดีที่สุดแล้ว เพราะต่อให้ปัญหาในชีวิตไม่มีอะไรเลยก็ตาม เขาก็จะสามารถคิดจนมันมีปัญหาได้อยู่ดี สิ่งแวดล้อมมีผลกับเขาเยอะมากครับ เยอะแบบเหลือเชื่อ ถ้าเขาจะออกไปข้างนอกแบบต้องซื้อของจริงๆ แล้วอยู่ดีๆฝนตกก็ไม่ซื้อเอาง่ายๆ ผมเคยมีครั้งนึงอยากซื้อเชือกเอาไว้ฆ่าตัวตาย ปรากฏว่าวันนั้นรถติดกว่าปกติผมไม่ไปเลย ดังนั้นสิ่งแวดล้อมมีผล
ส่วนใหญ่คนที่เป็นโรคซึมเศร้าเป็นเพราะจากความกดดันภายในตัวเอง หรือ คนรอบข้าง เพราะความคาดหวังที่บางทีไม่สามารถทำได้ ทำให้พวกเขาคิดว่ามันยากไปสำหรับพวกเขา เพราะความคาดหวังบางอย่างมันเกินคนอย่างเช่น คนที่หาเงินล้านได้ตั้งแต่อายุ 15 คนที่วิ่งมาราธอนซับ 4 ได้ตั้งแต่ 12 ใช่ครับ พวกเขาทำได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำได้ และก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำไม่ได้ บางทีคุณก็ต้องฝืนและก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวคุณเองครับ
ขอบคุณภาพจาก MS Trust, Identity Magazine และ MilkMochaBear ครับ
โฆษณา