25 ก.ค. 2020 เวลา 16:18 • สุขภาพ
ไทยเร่งมือเต็มที่ หวังให้มีวัคซีนฉีดครบทุกคนภายใน 6 เดือนหลัง Oxford
1
ศาสตราจารย์ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร
ที่ปรึกษา ศบค.เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังพิจารณาทางเลือกที่สอง เพิ่มเติมจากทางเลือกที่หนึ่งคือ การวิจัยพัฒนาวัคซีนของเราเอง (ซึ่งที่ก้าวหน้ามากสุดตอนนี้คือของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 12-18 เดือน)
1
ทางเลือกที่สองดังกล่าวคือ การเร่งเจรจาซื้อหรือขอใช้เทคโนโลยีการผลิตวัคซีนจากหน่วยงานหรือบริษัทที่มีแนวโน้มว่าจะพัฒนาวัคซีนสำเร็จเป็นลำดับต้นของโลก แล้วเราเร่งเตรียมการพัฒนาโรงงานผลิตวัคซีนของเราให้มีศักยภาพพร้อมที่จะผลิตวัคซีนเองภายใต้เทคโนโลยีของเจ้าของวัคซีนดังกล่าว
ในขณะนี้(24กค2563)องค์การอนามัยโลกพบว่ามีวัคซีนชั้นนำที่ทดลองในมนุษย์แล้ว 27 ตัว อยู่ใน.
เฟสหนึ่ง 19 ตัว
เฟสสอง 13 ตัว
เฟสสาม 4 ตัว
ขอใช้เป็นกรณีพิเศษ 1 ตัว
4 วัคซีนชั้นนำที่มีความก้าวหน้ามากสุด คืออยู่ในขั้นทดลองเฟสสามได้แก่
 
1)AstraZeneca-University of Oxford ของอังกฤษ ใช้ไวรัสเป็นพาหะ(Viral Vector)
2)Sinovac ของจีน เป็นวัคซีนเชื้อตาย
(Inactivated)
3)Moderna ของสหรัฐฯใช้รหัสพันธุกรรม(mRNA)
4)Sinopharm ของจีนเป็นวัคซีนเชื้อตาย(Inactivated)
โดยประเทศไทยกำลังจะไปเจรจาขอความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Oxford ซึ่งมีวัตถุประสงค์ว่าหากพัฒนาวัคซีนสำเร็จจะทำให้คนทั่วโลกสามารถใช้วัคซีนในราคาทุน แต่เนื่องจากปริมาณการผลิตมีจำนวนนับพันล้านเข็ม ทางOxford เองไม่สามารถจะผลิตไหว จึงจะพิจารณาโรงงานทั่วโลกที่มีศักยภาพสามารถผลิตได้ ก็จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ และไทยเรามีศักยภาพเพียงพอ
สำหรับประเทศไทยนั้น
บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด
(Siam Bioscience) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านบาท และเกิดจากพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่เก้า ที่อยากจะให้เร่งพัฒนาวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพของคนไทย ทั้งเรื่องยาและวัคซีน ผ่านการวิจัยทางการแพทย์ชั้นสูง นับเป็น “ของขวัญจากพ่อ”หรือ “ของขวัญจากในหลวง” มีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด19ได้
บริษัทได้เคยดำเนินการสำเร็จไปแล้ว
ในการผลิตชุดทดสอบหาไวรัสโควิด-19
โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถรองรับเทคโนโลยีได้ โดยจะเร่งพัฒนาความพร้อมในช่วงนี้ ใช้งบประมาณประมาณ 600 ล้านบาท และกำลังจะเตรียมให้ อย.มาตรวจรับรองมาตรฐานภายในกันยายนนี้
Siam Bioscience
เมื่อกระทรวงต่างประเทศซึ่งจะเดินทางไปร่วมเจรจาด้วย ประสบความสำเร็จ ก็จะสามารถกลับมาผลิตวัคซีนในประเทศไทยได้หลังจากนั้นอีกหกเดือน
โดยมีเป้าหมายผลิตวัคซีน 200ล้านเข็ม ซึ่งจะเพียงพอสำหรับฉีดให้คนไทยทุกคน และอาจจะช่วยเผื่อแผ่ให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้อีกด้วย
เป็นความหวังอีกทางหนึ่ง ในสามหนทางของการมีวัคซีน ได้แก่
1)พยายามวิจัยพัฒนาวัคซีนขึ้นเอง
2)เตรียมความพร้อม พัฒนาศักยภาพของโรงงานผลิตวัคซีนและรับเทคโนโลยีของบริษัทชั้นนำมาผลิตเอง
3)เตรียมซื้อวัคซีนจากบริษัทซึ่งผลิตขึ้นสำเร็จในโลกนี้
Reference
โฆษณา