27 ก.ค. 2020 เวลา 13:16 • ประวัติศาสตร์
อิเหนา... นิทานปันหยีEp.13
รีบกลับเมืองแก้สงสัย... ทิ้งไว้ที่ถ้ำทอง
#เนื่องจากพอมีเวลาตอนนี้จึงค่อนข้างยาวสักหน่อยแต่รับรองเรื่องอรรถรสค่ะมาเต็ม#
อิเหนาเมื่อพบเจอกับจรกาและล่าส่ำแล้วก็รีบกลับถ้ำทองบอกเรื่องราวให้นางบุษบารับรู้ว่าตนจะต้องเข้าไปแก้สงสัยในเมืองดาหา ถ้าไม่ไปคนอื่นๆ จะเชื่อว่าเป็นจริงในตอนแรกนางบุษบาก็ให้น้อยใจในตัวอิเหนาว่าจะกลับไปพบนางจินตะหราจนอิเหนาต้องปลอบอยู่เป็นนาน
พี่รักเจ้าเท่าเทียมชีวิต อย่าควรคิดว่าจะคืนไปหมันหยา
มิให้เสียคำมั่นสัญญา วนิดาอย่าแหนงแคลงความ
ที่ทำการหาญหักเพราะรักนุช ถึงสิ้นสุดชีวิตไม่คิดขาม
ได้สมปรารถนาพยายาม แล้วจะทิ้งโฉมงามเสียฉันใด
ครั้นพี่มิไปในครั้งนี้ จะสมชาวบุรีเขาสงสัย
จำเป็นจะลาคลาไคล แต่ใจไม่พรากจากนวลน้อง
อิเหนาปลอบประโลมอยู่นาน นางบุษบาจึงยินยอม โดยบอกว่าขา
กลับให้นำนางวิยะดามาด้วยเพื่อจะได้เป็นเพื่อนกับเธอ อิเหนาก็รับปาก
เมื่อไปถึงเชิงผาสะตาหมันก็มองดูพรรณไม้ต่าง ๆ ที่อิเหนาปลูกไว้ออกดอกสวยงามคิดว่าจะพานางบุษบามาชมสวนแต่มาอย ู่ได้ ๒ วัน ยังไม่ทันพานางมาชมคงเป็นเวรกรรมที่ต้องพลัดพรากกัน หากเขาไม่สงสัยคงไม่จากนางไปจะอยู่ชมสวนกับนาง หอมดอกกล้วยไม้ยิ่งคิดถึงกลิ่นสไบของนางยิ่งคิดก็เสร้าใจเหลียว มองถ้ำแล้วก็ร้องไห้จึงรีบควบม้าลัดดงไป เมื่อถึงที่พลับพลาทหารเตรียมพร้อมแล้ว สังคามาระตาก็ออกมาต้อนรับพร้อมทหาร เดินทางมากลางป่าอิเหนายิ่งคิดถึงนางบุษบา มองดูนกยูงก็ไม่ส่งเสียงร้องดูท่าทางหงอยเหงา ดอกไม้ที่ออกดอกก็เหี่ยวแห้งโรยรา ฝูงกวางวิ่งหนี วัวกระทิงวิ่งตัดหน้าขบวนทำให้อิเหนาเกิดความสงสัย ว่าจะเกิดเหตุร้าย ลมก็ไม่พัด ใบไม้ก็ไม่ไหวติง พวงอุบะที่ทัดไปก็ขาดตกลงกลางทาง ต้นยางใหญ่ก็ล้มลงมาขวางทาง การเดินทางครั้งนี้ประหลาดนักเคยเดินทางหลายครั้งไม่เคยเป็นเช่ นนี้ อิเหนายิ่งคิดก็ยิ่งนึกถึงความฝันว่าจะเป็นเหมือนลางที่เกิดขึ้ นกลางทางก็ยิ่งคิดถึงนาง พลางเร่งควบม้าไป จนถึงเมืองดาหาลงจากหลังม้าเข้าเฝ้าท้าวดาหา
อิเหนา
เมื่อถึงเมืองดาหาอิเหนาก็เร่งรุดเข้าเฝ้าท้าวดาหาเห็นอิเหนาก็เมินหน้าหนีนึกเคืองใจอยู่แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรได้จึงถามอิเหนาว่ากลับมาทำไม อิเหนาตอบไปด้วยปัญญาว่าวานนี้จรกาไปแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นใ นเมืองว่าข้าศึกนั้นจุดไฟเผาโรงพิธีแล้วลักเอาบุษบาไป อิเหนาพึ่งทราบข่าวจึงรีบมาเฝ้าจะอาสาออกติดตาม ท้าวดาหาจึงพูดกลบเกลื่อนว่าเรื่องนี้พระองค์เข้าใจดีแต่ชาวเมืองเขาสงสัยว่าอิเหนาลักนางบุษบาไปไม่ใช่ข้าศึกจากที่ไหน แต่ท้าวดาหาไม่ได้สงสัยเพราะอิเหนาไม่ต้องการนางแล้วจึงทำให้เสียถึงวงศ์ตระกูล อิเหนาฟังแล้วให้อัดอั้นตันใจจึงก้มลงกราบทูลว่า เขาเกลียดชังตนจึงให้ร้ายเอา อิเหนาล่าเนื้ออยู่ในป่าพบกับล่าสำและจรกาคนทั้งหลายคิดว่าเป็น อิเหนาก็แล้วจะคิดใครจะคิดอย่างไรก็ไม่กลัวแล้วแต่จรกาผู้ผัวจะ คิด แต่เมื่ออิเหนาทำดีแล้วก็ไม่ร้อนใจ แล้วอิเหนาทูลลาท้าวดาหาไปเฝ้าพระบิดา
เมื่อเข้าเมืองมาก็เจอกับนางวิยะดา ที่พูดจาตรงๆ ตามประสาเด็ก เล่นเอาอิเหนาสะอึก แต่ลีลาหลอกเด็กของอิเหนาก็ไม่เบา ทั้งปลอบทั้งขู่ให้นางน้องสาวอย่าพูดเอ็ดไป
เมื่อนั้น ระเด่นวิยะดาเสน่หา
เห็นระเด่นมนตรีพี่ยา วิ่งมารับเสด็จภูวไนย
โถมกอดไว้แล้วก็ถามพลาง พระพี่นางบุษบาอยู่ไหน
โอษฐ์อ้อนอาดูรทูลไป เอามาด้วยหรือไม่จงว่ามา
เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีตอบขนิษฐา
เจ้าว่าไยฉันนั้นกัลยา กิจจาจะฟุ้งเฟื่องเลื่องลือ
ถ้าแม้นว่าระตูรู้ความ เขามิตามไปฆ่าพี่เสียหรือ
จรกาสามารถมีฝีมือ เจ้าอย่าออกชื่อให้อื้ออึง
บัดนี้พี่นางบุษบา สั่งมาว่ารำลึกตรึกถึง
อย่ารัญจวนครวญคร่ำคำนึง บ่ายคล้อยหน่อยหนึ่งจะพาไป
เมื่อนางวิยะดาเห็นอิเหนาก็วิ่งมากระโดดกอดแล้วถามหานางบุษบาว่าอยู่ไหนนางมาด้วยหรือไม่ให้บอกมา อิเหนาจึงตอบนางวิยะดาว่าอย่าอื้ออึงไปหากจรการู้เข้าจะมาฆ่าอิเหนาเสีย ตอนนี้นางบุษบาสั่งมาว่าคิดถึงพอบ่ายคล้อยจะพาไปจะได้อาบน้ำกับ พี่นาง เก็บกรวดต่างๆในสายน้ำ แม้พี่ทูลลาน้องจงร้องไห้อยากเข้าป่าด้วยใครจะปลอบอย่างไรก็อย่าหยุดให้อ้อนให้เต็มที่แล้วอุ้มนางไปยังปราสาททอง
เมื่อนั้น องค์ท้าวกุเรปันเรืองศรี
จึงมีพจนาพาที อิเหนาพายาหยีไปหรือไร
บอกพ่อตามจริงอย่าอำพราง ต่างคนเขาต่างสงสัย
เขาว่าเจ้าพาน้องไป จริงหรือฉันใดจงบอกมา
อิเหนาเข้าเมืองไปพบพระบิดาของตน ท้าวกุเรปันก็ยิงคำถามแบบตรงๆ กับอิเหนา เพราะต่างคนเขาสงสัยกัน อิเหนายิ้มแล้วทูลว่าไม่ท ราบเรื่อง ตั้งใจล่าเนื้ออยู่ในป่ามาพบกับ ๒ ระตู จรกาเล่าให้ฟังทั้งน้ำตาอิเหนาก็พลอยร้องไห้ไปด้วยจรกาก็สิ้นสง สัย ขอให้จรกามาเป็นพยาน ท้าวกุเรปันได้ฟังจึงคิดและกล่าวว่า ใครจะว่าอย่างไรก็ตามแต่อิเหนานั้นดีอยู่ถึงจะพาไปจริงก็ไม่เป็ นไร เพราะหมั้นหมายกันไว้ วงศ์ตระกูลก็เหมาะสมกัน เพราะความรักของชายหนุ่มกลัดกลุ้มนักจึงลักนางไป
หัวอกของคนเป็นพ่อแม่ มักมีทีท่าเข้าข้างลูก ไม่ว่าถูกหรือผิด นี่คือความคิดที่อิเหนาได้ยินจากปากของท้าวกุเรปัน ทำให้อิเหนามีความสุขทีเดียว
ใครจะว่าอะไรก็ตามที ตัวเจ้าดีอยู่อย่าหวั่นไหว
ถึงจะพาไปจริงก็เป็นไร พ่อเห็นก็จะไม่ผิดนัก
ด้วยได้ตุนาหงันกันมา ทั้งประยูรวงศาก็สมศักดิ์
ใจหนุ่มกลัดกลุ้มด้วยความรัก สุดคิดจึงลักเอานางไป
เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีชอบอัชฌาสัย
ซ่อนยิ้มพริ้มพรายสบายใจ ภูวไนยไม่สนองพระวาจา
อิเหนาชอบใจซ่อนยิ้มอย่างสบายใจจึงไม่ตอบว่าอย่างไร ท้าวกุเรปันจะไต่ถามซักไซ้ให้หายสงสัยก็กลัวอิเหนาจะน้อยใจจึงปรึกษากับประไหมสุหรีว่าเกิดเหตุขึ้นอย่างนี้จะนิ่งเฉยอยู่ไม่ดี นักจะคิดผ่อนปรนอย่างไรดี
ในเมื่อบรรณาการเขาก็ส่งมามากมาย นางจินดาส่าหรีธิดาของสิงหัดส่าหรีก็ยังไม่มีคู่หมั้นพี่จะขอนา งมาแทนบุษบาให้แก่จรกาจะได้มีไมตรีกันสืบไป น้องจะว่าอย่างไร ส่วนสิงหัดส่าหรีคงไม่ขัดคำสั่งหรอก นางประไหมสุหรีก็เห็นชอบด้วย
เวลาบ่ายสองกว่า ๆ อิเหนาก็ร้อนรนคิดถึงนางบุษบาจึงทูลพระบิดาว่าจะเข้าป่าเที่ยวต ามหานางบุษบาเพราะสัญญาไว้กับจรกา ฝ่ายวิยะดาเห็นอิเหนาทูลลาก็วิ่งมากอดคอไว้ทำร้องไห้ดิ้นรนจะตา มไปด้วยใครห้ามก็ไม่ฟัง พี่เลี้ยงเอาเครื่องเล่นมาล่อก็ไม่สนใจ ประไหมสุหรีเห็นวิยะดาร้องไห้จึงให้อิเหนาพานางไปด้วยจะได้ชม
พร รณไม้ในป่าสักระยะหนึ่งแล้วให้พากลับเมือง อิเหนารีบรับคำด้วยความยินดีรีบอุ้มนางออกไป แล้วบอกแก่บาหยันให้พนักงานเตรียมรถทรงจะพาวิยะดาไปเที่ยวป่า เร่งจัดนางกำนัลให้พร้อมกันทั้งน้อยใหญ่ สั่งแล้วอิเหนาก็กลับไปยังที่พัก
นางบาหยันพี่เลี้ยงจึงบอกนางกำนัลให้เตรียมแป้ง กระจก ข้าวของใส่ปิ่นโตสาน แล้วออกจากวังมาพบพี่เลี้ยงปูนตาหน้าที่พักอิเหนาให้เตรียมรถแก ้วพระธิดาจะไปเที่ยวป่าสั่งแล้วก็เข้าข้างใน พี่เลี้ยงปูนตาจึงเร่งจัดไพร่พลตามกระบวนยาตราเตรียมเกยเทียบรถ รอ พอเวลาบ่ายพี่เลี้ยงทั้งสี่ก็ชวนกันแต่งตัวพระบุตรี อาบน้ำปนด้วยเครื่องหอม ผัดหน้านวลสวยงามกระหมวดผมเป็นมวยเกี้ยวกับดอกราชาวดี กรอบหน้าเป็นลายกุดั่น ห้อยอุบะส่งกลิ่นหอม สวมกางเกง คลุมสไบสีนวลขลิบทอง ที่แขนประดับปะวะหล่ำลงยา สวมกำไลแขนรูปพญานาคพันกัน สร้อยสังวาลประดับทับทิม เข็มขัดลายประจำยามก้ามปู สวมแหวนเพชรรูปงู เมื่อแต่งตัวเสร็จพี่เลี้ยงและนางกำนัลก็ออกมารอเวลาเดินทาง ฝ่ายอิเหนาให้คิดถึงนางบุษบารีบแต่งตัวแล้วอุ้มนางวิยะดา มือซ้ายถือกริชอันมีฤทธิ์มายังเกยแล้วเสด็จขึ้นรถแก้วกับองค์ขน ิษฐาสั่งให้เคลื่อนพลออกจากเมืองดาหา เดินทางผ่านท้องทุ่งใกล้เนินเขาต้นไม้ร่มรื่นบังแสงอาทิตย์
#อีกฟากหนึ่งบนชั้นฟ้า#
และมาถึงผู้ที่อาจนับว่าเป็นต้นเหตุของการณ์ร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นอีกคนหนึ่ง การตัดสินใจ บงการแบบมีอำนาจเต็ม อย่างองค์เทวาผู้ทรงฤทธิ์ ลิขิตชีวิตของเหล่าลูกหลานให้วุ่นวายอย่างใหญ่หลวง
มาจะกล่าวบทไป ถึงองค์ปะตาระกาหลา
ซึ่งเป็นบรมราชอัยกา สถิตในชั้นฟ้าสุราลัย
แค้นด้วยอิเหนานัดดา อหังการ์ก่อเภทเหตุใหญ่
กูแกล้งสรรค์บุษบาลงไป หวังจะให้เป็นคู่ครองกัน
ไม่เลี้ยงตามวงศ์ที่จงให้ ทำตามน้ำใจหุนหัน
รักแต่ที่ต่ำพงศ์พันธุ์ บากบั่นตัดรอนบ่ห่อนคิด
เดิมว่าไม่เลี้ยงบุษบา แล้วกลับมาภิรมย์สมสนิท
กูมิให้สู่สมชมชิด จะปลดปลิดบุษบาพาไป
ถึงจะพบพานกันวันหน้า จะทรมาให้แทบเลือดตาไหล
คิดแล้วออกจากพิมานชัย ลงไปยังพื้นพสุธา
การตัดสินใจแบบทรงอำนาจ เมื่ออะไรไม่ได้ดั่งใจ ก็คิดแก้ไขด้วยความโกรธ โดยไม่คำนึงถึงผู้ที่จะรับผลกระทบเลย เอาแค่สะใจ ในเมื่อมีอำนาจยิ่งใหญ่ทำไมไม่ตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม กลับสร้างความทุกข์ระทมแก่ลูกหลานหนักขึ้นไปอีก อย่างเช่นนางบุษบาที่ต้องมารับเคราะห์ที่ตนไม่ได้ก่อขึ้น
นัดดาอย่าวิโยคโศกเศร้า ใช่เจ้าจะม้วยอาสัญ
แค้นตัวอิเหนากุเรปัน จะพรากให้พลัดกันจงสาใจ
บุษบาและพี่เลี้ยง
เมื่อนั้น บุษบาบังคมประนมไหว้
จึงทูลองค์พระอัยกาไป หลานไกลบิตุเรศมารดา
อันสองพระองค์ไม่แจ้งเหตุ จะอาดูรพูนเทวษโหยหา
เมื่อไรจะได้คืนพารา พระอัยกาจงโปรดปรานี
ฝ่ายอิเหนาเมื่อเข้าไปแสดงตน กลบเกลื่อนร่องรอย และนำน้องน้อย คือนางวิยะดามากับตนด้วย เพราะเหตุแห่งความกลัวว่า จะมีใครมาทำกับน้องสาวของตน อย่างที่ตนเคยทำกับหญิงอื่น นางวิยะดาต้องพลอยระหกระเหิน ไปตามนางบุษบาร่วมกับอิเหนาด้วย
จะให้พาวิยะดาไปส่งนั้น คิดพรั่นอยู่ไม่ไว้ใจได้
เพราะน้องเป็นหญิงจะทิ้งไว้ ครั้นจำเริญวัยวัฒนา
เกลือกจะมีเหตุเภทภัย ตัวพี่อยู่ไกลขนิษฐา
แล้วจะเป็นเช่นครั้งจรกา พาราจะเกิดจลาจล
จะไว้ใจสียะตราหนึ่งหรัด ยังไม่สู้สันทัดจะขัดสน
พี่จะต้องเป็นสองกังวล จนจิตผิดชอบจะพาไป
จะได้ตั้งใจหาไปหน้าเดียว ท่องเที่ยวไปตามอัชฌาสัย
แม้นมิพบดวงยิหวายาใจ จะสู้ม้วยบรรลัยไม่กลับมา
เพราะความสะใจขององค์ปะตาระกาหลา แกล้งให้พายุหอบพัดพานางบุษบาให้พรากจากไป ปล่อยให้อิเหนาต้อง “มะงุมมะงาหรา” ติดตามหานางบุษบาไปทุกแดน
แม้นได้ดวงยิหวามาด้วยพี่ จะชวนชี้ปรีดิ์เปรมเกษมสอง
เห็นการะเกดสีเหลืองเรืองรอง เหมือนผิวเนื้อน้องที่ต้องใจ
พระเหลือบแลดูดอกสร้อยฟ้า ยิ่งย้อยระย้างามไสว
เหมือนสร้อยห้อยมวยนางทรามวัย ฤๅน้องน้อยห้อยไว้กระมังนา
จะให้รู้ว่าอยู่ที่ป่านี้ ให้พี่มาติดตามหา
เห็นเล็บนางบานตระการตา เหมือนนขายิหวาของเรียมเอย
ภุมรินบินร่อนเร่หา ชมรสมาลาอันผายเผย
เหมือนพี่เตร่เร่ตามเจ้าทรามเชย ไม่รู้เลยว่าจะไปแห่งใด
ครวญพลางพระทางคิดคะนึง ถวิลถึงนวลน้องแล้วร้องไห้
กลัดกลุ้มคลุ้มเคลิ้มสติไป ภูวไนยชวนซบสลบลง
ป่านฉะนี้จะอยู่แห่งใด ทำไฉนจึงจะรู้นะอกเอ๋ย
หรือเทวาพาน้องไปชมเชย ใครเลยจะบอกเหตุร้ายดี
สองกรพระข้อนอุราร่ำ ชะรอยเววรากรรมของพี่
ได้สมน้องแต่สองราตรี หรือมิ่งมารศรีมาจากไป
พระยิ่งเศร้าสร้อยละห้อยหา จะสรงเสวยโภชนาก็หาไม่
แต่ครวญคร่ำกำสรดระทดใจ สะอื้นไห้โศกาจาบัลย์
เรื่องราวต่อจากนี้ จะเป็นการปลอมตัว แปลงชื่อ ติดตามหากัน ชื่อเดิมว่าจำยากอยู่แล้ว ชื่อใหม่ที่ลับลวงพรางกันขึ้นมา กลับจำยากมากขึ้นไปอีก แต่ยังไงเราก็จะตามแกะรอยไป ดูซิว่า แรงรัก แรงใคร่ จะนำพาแต่ละคนไปเจออะไร
เรื่องอิเหนาที่เรียนกันในโรงเรียนมักจะสิ้นสุดลงแค่ตอนนี้ แต่เราจะตามต่อกันไปดู พบกันตอนต่อไปนะคะ
ขอบคุณhttps://www.wekipedia.org
ขอบคุณห้องสมุดหอสมุดแห่งชาติ
ขอบคุณบทเรียนอิเหนามัธยมปีที่4
ขอบคุณเรื่องเล่าอิเหนาฉบับหลวง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา