28 ก.ค. 2020 เวลา 12:30 • ความคิดเห็น
ไม่แกร่งจริงอยู่ยาก
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
บางครอบครัวที่ผมรู้จักทุ่มเทลงทุนกับการให้สมาชิกเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีทันสมัย และนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ในการดำเนินชีวิตและธุรกิจ ทำให้ครอบครัวและกิจการยังดำเนินอยู่ได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างเร็วของเทคโนโลยี
ครอบครัวที่แม้เคยมั่งคั่ง แต่ไม่ลงทุนกับการเรียนรู้เทคโนโลยี ต่อมาไม่นาน สมาชิกของครอบครัวก็ขาดความสามารถในการแข่งขัน กลายเป็นครอบครัวล้าหลัง ศักยภาพในการทำมาหากินลดน้อยถอยลง
ประเทศเหมือนครอบครัว จีนเป็นประเทศที่ผู้คนเคยอดอยากยากแค้น แต่ด้วยความมุ่งมั่นกับการพัฒนาศักยภาพ สาธารณรัฐประชาชนและคนจีนทั้ง 1,400 ล้านคนจึงมีวันนี้
https://www.scmp.com/business/china-business/article/2115935/chinas-xi-jinping-highlights-ai-big-data-and-shared-economy
ความเอาจริงเอาจังเรื่อง 1. การประมวลผลของคอมพิวเตอร์ 2. รูปแบบอัลกอริธึมของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 3. เทคโนโลยีสื่อสาร 5G
ทำให้จีนหายใจรดต้นคอสหรัฐและช่วยให้จีนเข้าสู่ยุค Internet of Things ก่อนหน้าหลายประเทศ สิ่งของเครื่องใช้รอบตัวของคนจีนเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต มีการเก็บและประมวลข้อมูลด้วยระบบอัจฉริยะ ชีวิตชาวจีนปัจจุบันจึงมีความสะดวกสบายอย่างที่เราคาดไม่ถึง
มกราคม-มิถุนายน 2563 ช่วงครึ่งปีแรกของพุทธศักราชนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนได้อำนวยช่วยให้มีการก่อสร้างสถานี 5G เพิ่มขึ้นอีก 2.57 แสนแห่ง
1
https://www.capacitymedia.com/articles/3825224/huawei-zte-and-ericsson-win-china-mobile-5g-contracts
ทำให้ตอนนี้จีนมีสถานี 5G ทั้งหมด 4.1 แสนแห่ง การจัดส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่สัญญาณ 5G อยู่ที่ 86.23 ล้านเครื่อง และมีผู้ใช้งานเครือข่ายสัญญาณ 5G แบบแพ็คเกจรวมอยู่ที่ 66 ล้านราย
ขณะที่บางชาติกำลังคุยกันเรื่องการทำถนนลูกรังให้หมดไปจากประเทศ จีนกำลังเข้าสู่ยุคสร้างถนนเลนพิเศษสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ ถนนที่จะมีการติดตั้งเซนเซอร์รองรับ
1 สิงหาคม 2563 จะเป็นวันครบรอบการสถาปนากองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ประธานาธิบดีสี จ้ินผิงไปที่ห้องปฏิบัติการ UAV ของมหาวิทยาลัยการบินแห่งกองทัพอากาศ สั่งให้กองทัพพัฒนาเครื่องบินไร้คนขับเพื่อเตรียมรับสงครามสมัยใหม่
เรื่องปัญญาประดิษฐ์ จีนยังอ่อนกว่าสหรัฐในด้านการประมวลผลคอมพิวเตอร์ ด้านเทคโนโลยีไมโครชิปและการวิเคราะห์คำนวณของสหรัฐก็ยังเหนือกว่าจีน
แต่จีนเหนือกว่าสหรัฐในเรื่องของบิ๊กดาต้า
ประชากร 1.4 พันล้านทำให้จีนมีข้อมูลมหาศาล การที่คนเกือบทั้งประเทศทำเกือบทุกธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ช่วยให้จีนมีข้อมูลที่ถูกเก็บในรูปดิจิทัลมากกว่าสหรัฐ และข้อมูลเหล่านี้นี่ละครับ จะช่วยให้จีนชนะสหรัฐด้านปัญญาประดิษฐ์ในบั้นปลายท้ายที่สุด
ไม่ใช่เฉพาะเรื่องบนโลกเท่านั้น วันนี้จีนพบความสำเร็จในเรื่องนอกโลกอย่างสูง
23 กรกฎาคม 2563 จีนใช้จรวดขนส่งลองมาร์ชหมายเลข 5 ส่งยานเทียนเวิ่นหมายเลข 1 เข้าสู่วงโคจรได้สำเร็จ และในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ยานของจีนก็จะลงจอดบนดาวอังคารเพื่อสำรวจ และนี่จะเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการสำรวจพื้นที่ทั้งหมดอย่างสมบูรณ์จากการโคจรรอบดาวอังคาร
พ.ศ.2562 จีนเป็นชาติแรกที่พบความสำเร็จในการลงจอดบนดวงจันทร์ด้านมืด
https://www.insider.com/china-rover-change-found-mysterious-gel-like-substance-on-moon-2019-9
และอีก 2 ปีข้างหน้าหรือ พ.ศ.2565 ผมเชื่อว่าจีนจะมีสถานีอวกาศเป็นของตนเองอย่างแน่นอน
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่อำนวยความสะดวกสบายให้มนุษยชาติ
สิ่งต่างๆ อย่างนี้นี่แหละครับที่ทรัมป์และคณะตะวันตกทนไม่ได้ ทุกครั้งที่ได้ยินความก้าวหน้าของจีน ก็ต้องตะโกนก้องร้องบอกคณะเลขาฯ ให้เอานำ้แข็งมาโปะตาด้วยความอิจฉาตาร้อนผ่าว
ผู้คนจำนวนหนึ่งซึ่งดูหมิ่นถิ่นแคลนจีนอยู่ตลอดมา เมื่อได้ยินได้ฟังความก้าวหน้าของจีนก็กลายเป็นพวกไส้เดือนโดนขี้เถ้าที่ดิ้นเสือกเถือกตัวไปมาเต็มโซเชียลมีเดีย
แม้ว่าจะโดนยำจากคณะตะวันตกและญี่ปุ่นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่จีนก็ไม่ย่อท้อ จีนพัฒนาปรับปรุงตนเองจนยืนได้
อย่างหนึ่งซึ่งจีนพบก็คือ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศในเอเชียและแอฟริกาหลายสิบแห่งที่จีนเข้าไปช่วยเหลือเกื้อกูล ทว่าถึงคราวที่จีนโดนยำ ไม่มีใครหน้าไหนออกมาช่วยจีนเลย
มีเพียงกัมพูชาที่เป็นกระบอกเสียงซัดตะวันตกช่วยจีนเท่านั้น
จีนต้องทำให้ตนแข็งแกร่งขึ้น
เพื่อให้คนทั้ง 1.4 พันล้านอยู่รอดปลอดภัย.
โฆษณา