28 ก.ค. 2020 เวลา 23:01 • ปรัชญา
“เรื่องของคนที่มีบุญเก่า”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓
คนที่มีอิทธิบาท ๔ แล้วนี้จะไม่ยุ่งกับใคร จะพุ่งไปที่การปฏิบัติเพียงอย่างเดียว จะมีอิทธิบาท ๔ ได้นี้ต้องได้ผลก่อน แม้จะเป็นผลแค่ชั่วงูแลบลิ้นก็ตาม เวลาจิตรวมใหม่ๆ นี้มันจะรวมแวบเดียว เหมือนงูแลบลิ้น สงบแป๊บเดียว แล้วมันก็ถอนออกมา แต่ความรู้สึกนี้มันมหัศจรรย์ใจ มันจะไม่หลงไม่ลืมไปจนวันตาย แล้วมันจะมีความอยากได้ความสุขแบบนี้ อยากให้มันมีมากขึ้นไปเรื่อยๆ ทีนี้ก็จะไม่สนใจกับเรื่องอื่นๆ แล้ว มีแฟนก็เลิกกับแฟนได้ มีทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองก็ยกให้คนอื่นได้ เพราะความสุขที่ได้จากแฟน ความสุขที่ได้จากข้าวของเงินทองนี้ มันสู้ความสุขที่ได้จากความสงบไม่ได้ ความสุขที่ได้จากความสงบมันดีกว่า มันสุขมากกว่า แล้วมันไม่มีพิษมีภัยเหมือนกับความสุขที่ได้จากข้าวของเงินทอง จากการมีแฟน เพราะข้าวของเงินทองมันก็ไม่แน่นอน แฟนก็ไม่แน่นอน วันดีคืนดีเขาอาจจะจากเราไปเมื่อไหร่ก็ได้ พอเขาจากเราไปทีนี้ ความสุขที่ได้จากเขาก็เลยกลายเป็นความเศร้าโศกเสียใจ แต่ความสุขที่ได้จากความสงบนี้ไม่มีพิษมีภัย ถึงแม้มันจะหายไปมันก็ไม่ได้ทำให้เราเศร้าโศกเสียใจ แต่มันจะทำให้เราอยากจะกลับเข้าไปอยู่เรื่อยๆ
ดังนั้น ต้องพยายามเข้าให้ถึงความสงบนี้ให้ได้ แม้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม แล้วก็ชั่วแป๊บเดียวก็ตาม ถ้าใครมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน บางท่านอาจจะเคยมีบุญเก่ามา แล้ววันดีคืนดีไปอยู่คนเดียวตามลำพังสักแป๊บหนึ่ง จิตก็อาจจะรวมขึ้นมาโดยอัตโนมัติก็ได้ โดยที่ไม่คาดฝันมาก่อน เหมือนพระพุทธเจ้าสมัยที่เป็นเด็ก เคยถูกปล่อยให้นั่งอยู่คนเดียวใต้ร่มไม้ วันนั้นมีงานในวัง พวกที่คนคอยดูแลอุปัฏฐากไปช่วยงาน ปล่อยให้เจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารนั่งอยู่คนเดียวใต้โคนไม้ พอไม่มีใครมายุ่งกับท่าน ใจของท่านที่เคยมีความสงบมาจากอดีตชาติ มันก็สงบขึ้นมาทันทีเพราะบรรยากาศมันเอื้อต่อความสงบ พอกายวิเวกจิตก็วิเวกโดยที่ไม่ได้ไปตั้งใจนั่งสมาธิ ดูลมหายใจ หรือพุทโธ หรืออะไรแต่อย่างใด
อันนี้เรื่องของบุญเก่า ท่านถึงเรียกว่าเป็นมงคลอย่างหนึ่ง การที่ได้มีการกระทำบุญเก่าไว้ วันดีคืนดีบุญเก่ามันส่งผลให้กับเราได้ เช่น บางทีเราตกทุกข์ได้ยาก ก็มีคนยื่นมือมาช่วยเหลือเรา โดยที่เราไม่ต้องไปขออะไรจากใคร อันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องของบุญเก่า เราเคยช่วยคนอื่นมามาก พอถึงเวลามันจะกลับมาหาเราเอง เวลาที่เราเดือดร้อน เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ ไม่ต้องไปขอ เพราะเทวดาไปขอให้แทน เคยได้ยินว่า “เทพบันดาล” ไหม เพราะคนที่มีบุญนี้ เทพจะปกครอง จะคุ้มครอง จะคอยดูแลรักษา พอรู้ว่าขาดเหลืออะไร เดือดร้อนอะไร เดี๋ยวเทพไปเข้าฝันคนนั้นคนนี้เอง เดี๋ยวคนนั้นคนนี้ก็อยู่ดีๆ ก็มาหามาช่วยเรา โดยที่เราไม่ต้องไปขออะไร ขอให้เรามีบุญเท่านั้นแหละ ขอให้เรามีบุญในอดีต บุญเก่า แล้วมันจะมาเป็นสิ่งที่จะมาคุ้มครองเราในยามที่เราตกทุกข์ได้ยาก ท่านถึงบอกว่าคนที่มีบุญนี้เป็นคนที่ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ บุญนี่แหละจะคุ้มครองพวกเรา ถ้าพวกเรายังไม่มีก็ทำกันเสียแต่บัดนี้ ยังมีเวลาทำได้ เพราะเราอาจยังต้องอยู่ต่อไปในอนาคตอีกนาน อาจยังต้องกลับมาเกิดใหม่อีกหลายรอบด้วยกัน ถ้าเรายังไม่สามารถทำพระนิพพานให้แจ้งในรอบนี้ได้ เราก็อาจจะต้องกลับมาเกิด
ดังนั้น เราอย่าประมาทในบุญ ถึงแม้ว่าเราจะไปภาวนาก็ตาม แต่ถ้าเรามีเวลามีโอกาสที่จะทำบุญได้เราก็ควรจะทำ ช่วยเหลือใครได้ก็ช่วยเหลือเขาไป เพราะเราไม่ขาดทุน เพราะเงินทองเหลือใช้ ตายไปก็เอาไปไม่ได้ เก็บไว้เฉยๆ ก็ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร เก็บไว้ทำไม สู้เอามาทำเป็นบุญไม่ดีกว่าหรือ เพราะบุญนี้เป็นเหมือนซื้อประกันชีวิตซื้อประกันภัย เดี๋ยวเวลาที่เราตกทุกข์ได้ยาก ประกันภัยของบุญจะมาช่วยเหลือเราต่อไป
นี่พูดยกตัวอย่างเรื่องของคนที่มีบุญเก่า บางคนมานั่งฝึกสมาธิเพียงไม่กี่ครั้งจิตก็สงบได้ อย่างแม่ชีแก้วนี่ ลูกศิษย์ของหลวงตา ของหลวงปู่มั่นนี่ สมัยที่ท่านเป็นสาวนี่ หลวงปู่มั่นท่านก็เคยไปธุดงค์ค์อยู่ใกล้บ้านท่าน ไปบิณฑบาตที่หมู่บ้านของท่าน แล้วท่านก็สอนธรรมะให้กับเด็กสาวคนนี้ ให้พุทโธพุทโธ แล้วคืนหนึ่งเธอก็ลองทำตามที่หลวงปู่มั่นบอก นั่งหลับตาพุทโธพุทโธ เธอบอกว่า ๕ นาทีจิตก็สงบ แต่เธอคิดว่าเธอไปฝันเพราะเธอเป็นจิตที่ผาดโผน พอสงบแล้วไม่อยู่เฉยๆ ไปรับรู้เรื่องราวต่างๆ แล้วก็มาเล่าให้หลวงปู่มั่นฟังตอนเช้า หลวงปู่มั่นบอก เออ นี่แหละสมาธิอย่างหนึ่ง แต่หลังจากที่หลวงปู่มั่นจากไป ท่านก็ห้ามว่าเธออย่าเพิ่งภาวนาตอนนี้ จิตแบบนี้ต้องมีครูบาอาจารย์คอยควบคุมคอยสั่งสอน ต่อมาเธอก็โตขึ้นเธอก็บวชชี แล้วก็ศึกษาจากหลวงปู่มั่น พอหลวงปู่มั่นจากไปก็ไปศึกษาจากหลวงตามหาบัวต่อ จนในที่สุดเธอก็ได้บรรลุธรรมขั้นสูง อันนี้ก็เป็นเพราะบุญเก่า ทำให้สามารถมาต่อบุญได้อย่างรวดเร็ว สามารถมาทำนิพพานให้แจ้งได้ภายในภพนี้ชาตินี้ สำหรับพวกที่ไม่มีบุญเก่านี่ก็ต้องขยันหน่อย ขยันสร้างบุญเสียแต่บัดนี้ อย่าไปขี้เกียจ ยังมีโอกาสอยู่ ยังสามารถทำนิพพานให้แจ้งได้ในภพนี้ชาตินี้ ถ้าเรายังมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์คอยสอนคอยบอกคอยเตือนใจเราอยู่ ขอให้เราหมั่นปฏิบัติไปเถิด ไม่ช้าก็เร็วเราจะได้ผลอย่างแน่นอน
ธรรมะหน้ากุฏิ
วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๓
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา