30 ก.ค. 2020 เวลา 02:38 • ปรัชญา
“ความคิดของภิกษุชรา ที่ภิกษุหนุ่มไม่รู้” ธรรมชาติเป็นของสว่าง หาใช่เป็นของที่ใช้แสวงหาเหตุผล?
คำว่าธรรมมะ หรือ ธรรมชาตินั้นเป็นเพียงของที่ปรากฎอยู่เป็นปกติ ผู้ใดมีปัญญาย่อมจะมองเห็นสิ่งเหล่านั้นได้
แต่ผู้ใดขาดซึ่งปัญญา ก็คงมองเห็นแต่ปัญหา และเป็นแต่เพียงผู้ที่จะแสวงหาซึ่งเหตุผลเพียงเท่านั้น
วันนี้เพจใจดีจะมาเล่าเรื่องราวของภิกษุชรา ที่สอนสั่งเหล่าพระหนุ่นที่คงแก่เรียน ให้เห็นหลักธรรมที่เป็นธรรมชาติ มากกว่าเหตุผล
ครั้งหนึ่ง ได้มีนักบวชต่างศาสนาผู้หนึ่งมาแสดงธรรม เพื่อชักชวนให้พระภิกษุกลุ่มหนึ่งหันไปเลื่อมใสในศาสนาของตน
ภิกษุชราก็ได้เชื่อเชิญ นักบวชต่างศาสนา ให้เข้ามาพัก และจัดสถานที่ให้นักบวชผู้นั้นได้แสดงธรรมของตน
เหล่าภิกษุหนุ่มที่คงแก่เรียนทั้งหลายแสดงความไม่พอใจ และกล่าวโทษ นักบวชต่างศาสนามากมาย
แต่ด้วยที่ภิกษุชราเป็นผู้ที่มีหัวใจเป็นธรรม ได้หัวเราะแล้วกล่าวกับภิกษุหนุ่มทั้งหลายว่า
“ไปโกรธเขาทำไม เขาอุตส่าห์เอาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดของเขามาให้แก่พวกเรา”
“เขาคิดว่าดีจริงๆ จนขนาดคนของเขาเคยยอมตายนับไม่ถ้วนเพื่อสิ่งนี้”
“วันนี้เขาเอาสิ่งที่ดีที่สุดของเขามาให้เรา จะรับไว้หรือไม่มันอยู่ที่เรา”
“ไม่ใช่เรื่องไปโกรธเขา ถ้าเขาเอาของไม่ดี มาให้เราสิ พวกท่านจึงค่อยโกรธเขา”
“หรือแม้พวกท่าน จะโกรธก็โกรธแต่เพียงเหตุผลของคำสอนที่แตกต่างกัน”
“หาใช่ความปรารถนาดี ที่นักบวชผู้นั้นมีต่อพวกเรา”
“สิ่งที่พวกท่านกำลังแสวงหากันอยู่ เป็นเพียงเหตุผลเท่านั้นหรือ!”
ภิกษุหนุ่มทั้งหลายได้ยินดังนั้น ก็ได้กล่าวคำขอขมา แก่นักบวชต่างศาสนาและได้เดินจากไป
ในสังคมปัจจุบันที่มีแต่คนมานั่งถกเถียงเกี่ยวกับความถูกผิด และพยายามหาเหตุผลมาหักล้างกัน จนบางครั้งกับลืมไปว่าใจที่บริสุทธิ์และสงบนั้นคือคำตอบ ไม่ใช่ความโกรธของใจที่คอยแต่จะแสวงหาเหตุผล
สามารถติดตามใจดี ได้อีกช่องทางที่ App :facebook blockdit และ instagram
#ถ้าใจเราดี.อะไรๆก็ดีไปหมด
โฆษณา