30 ก.ค. 2020 เวลา 03:29 • ความคิดเห็น
สมบัติพ่อ
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
สมัยที่ยังเป็นเด็กเล็กอยู่
ผมไปในป่าของจังหวัดตราดกับพ่อ
ได้เจอคนตัวเล็กๆ พูดภาษาที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง
พ่อบอกว่าพวกเขาพูดภาษากะซอง
พอโตเป็นวัยรุ่น ผมมีโอกาสไปแถวมะขาม แก่งหางแมว และโป่งน้ำร้อน ของจังหวัดจันทบุรี
ผมได้ยินคนตัวเล็กๆ สูงประมาณ 140-150 เซ็นติเมตรพูดภาษาคล้ายกับที่เคยได้ยินที่จังหวัดตราด
เมื่อสอบถาม พวกเขาบอกว่านี่คือภาษาชอง
เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ผมค้นไปจึงได้ทราบว่า...
ในบันทึกของโจวต้ากวน นักการทูตจีนที่มาเยือนราชอาณาจักรเขมรในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 บรรยายประเพณีในราชสำนักเขมร
ในบันทึกมีเขียนถึงทาสด้วย
ทาสของพวกเจ้าเขมรเรียกว่าชวง
มีถิ่นฐานตั้งเดิมอยู่ตามป่าเขา
และถูกจับเอามาขายเป็นทาส
ผมเข้าใจว่าชวงกับชองน่าจะเป็นพวกเดียวกัน
ตอนหลังมีนักประวัติศาสตร์ไปค้นคว้าพบว่า ภาษาของพวกชองเป็นภาษากลุ่มชนดั้งเดิมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สมัยอาณาจักรเขมร
อย่างนี้ก็ค่อนข้างแน่ว่าบรรพบุรุษของชองคือชวง
ก่อนที่จะมาเข้าเรียนชั้น ม.1-3 ที่โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี)
ตามด้วย ม.4-6 ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท
และปริญญาตรีที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ลูกสาวของผม นางสาวกษมล มิ่งรุจิราลัย และพี่ๆ น้องๆ จบ ป.6 จากโรงเรียนวัดคลองตะเคียน กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
ภูมิถิ่นแถวนั้นคือตำบลตะเคียนทองและตำบลคลองพลู
ทุกครั้งที่กลับไปเยี่ยมลูกๆ ผมชอบไปเยือนหมู่บ้านชอง
ผมยังได้ยินภาษาชอง เช่น เจ้ด(กวาง) ชอ(หมา) น่อง(ภูเขา) เม์ว(ปลา) วา(ลิง) พร่อก(กระรอก) กรึบ(มะเขือ) กะมาด(แรด) มะง่าม(ผึ้ง) กะแท็ฮ(ฟ้าผ่า)
วั่ดว่ายกะท่อง(วัดตะเคียนทอง) ซุกครองมลู่(บ้านคลองพลู) ซุกว่ายกะท่อง(บ้านตะเคียนทอง) จันทะบูย(จันทบุรี) ฯลฯ
เอาเรื่องชองมาเขียน เพราะเมื่ออังคาร 21 กรกฎาคม 2563 ลูกๆ ของท่านผู้ใหญ่ที่ผมเคารพแถวบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง มาขอให้ผมช่วยขายที่ดินในกรุงเทพของพ่อ 7 ไร่ 47 ตารางวา
พ่อของน้องๆ เหล่านี้ เสียชีวิตเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ตอนผมมาลงหลักปักฐานหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อ พ.ศ.2525
มุสลิมครอบครัวนี้ช่วยเหลือผมมาก ผมสนิทกับลูกทั้ง 9 คนของครอบครัวนี้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และมีความสัมพันธ์ที่ดีเสมือนผมเป็นพี่ชายคนโตมายาวนานถึงปัจจุบัน 38 ปี
ตอนที่ตัดสินใจลงหลักปักฐานชีวิตในกรุงเทพฯ เมื่อ 9 มกราคม 2525
ผมพบว่าที่ดินใน 10 เขตในโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ คือเขตบางกะปิ หนองจอก ลาดกระบัง สะพานสูง บึงกุ่ม คันนายาว คลองสามวา มีนบุรี ประเวศ และวังทองหลาง ส่วนใหญ่เป็นของมุสลิม
30 ปีระหว่าง พ.ศ.2530-2560 มีการขายที่ดินและที่ดินใน 10 เขตนี้เปลี่ยนมือไปเป็นจำนวนมาก
ผมบอกน้องๆ เมื่อคราวมารวมตัวกันเพื่อให้ผมช่วยขายที่ดินเมื่ออังคาร 21 กรกฎาคม 2563 ว่าเป็นไปได้ไหมที่จะรักษาที่ดินของเยาะ (พ่อ) ของพวกน้องๆ ไว้
ต่อไปในอนาคต น้องๆ อาจจะได้กลับมาปลูกบ้านในที่ดินของเยาะ
แต่ทุกคนบอกว่า ต่างมีบ้านของตนในเขตอื่นของกรุงเทพกันหมดแล้ว
และยืนยันจะขายทั้ง 7 ไร่ 47 ตารางวา
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปสมัยที่ผมเรียนอยู่ในชั้นประถม
พ่อผมชอบซื้อที่ดิน ผมคิดว่าพ่อน่าจะมีที่ดินมากที่สุดในตำบลของเรา
ครั้งหนึ่ง ผมเคยตามพ่อไปซื้อที่ดิน 1,000 ไร่ที่ป่าตกตัก อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด
สมัยก่อน ที่ดินส่วนใหญ่เป็นของชาวชอง
วันนี้ ที่ดินทั้งหมดของชองกลายเป็นของคนเผ่าพันธุ์อื่น
ลูกหลานชองจำนวนหนึ่งที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบันกลายเป็นลูกจ้างในสวนผลไม้ในที่ดินของบรรพบุรุษของตนเอง
อนาคต ที่ดินจะแพงมาก
คนจำนวนไม่น้อยที่ขายที่ดินไปแล้ว
บางจังหวะของการเดินชีวิต
อาจจะล้มคว่ำคะมำหงาย
จนต้องกลายเป็นผู้เช่าที่ดินเพื่อทำที่อยู่อาศัยก็ได้.
โฆษณา