30 ก.ค. 2020 เวลา 09:44 • บันเทิง
and the review goes to.. "Our 30 minute sessions - เทปลับสลับร่างมารัก"
สวัสดีครับ everybody ห่างหายจากการเขียนรีวิวไปนานจนคิดว่าต้องเขียนหน่อยแล้วล่ะ! ก่อนที่เพจนี้จะกลายเป็น Hiroe Igeta Thailand Fanclub ไปสะก่อน (ฮา) สำหรับโพสนี้จะมารีวิวหนังเรื่อง "เทปลับสลับร่างมารัก" หนังดราม่าจากญี่ปุ่นที่มาในแนวลุ้นรักสลับร่าง จะเป็นยังไงมาดูกัน
เทปลับสลับร่างมารัก เป็นเรื่องราวของ "คุโบตะ โชตะ" หนุ่มโลกส่วนตัวโคตรสูงที่ดันไปเก็บเครื่องเล่นเทปคาสเซตต์เก่าแก่ได้ แถมเครื่องนี้ดันมีการแสดงอิทธิฤทธิ์โดยสามารถทำให้วิญญาณเจ้าของเครื่อง "มิยาตะ อากิ" เข้ามาสิงร่างเขาได้ครั้งละ 30 นาที
ซึ่งอากิในตอนที่มีชีวิตอยู่ไลฟ์สไตล์ต่างกับโชตะแบบสุขขั้ว และด้วยนิสัยที่ชอบทำอะไรตามใจ (แต่ก็เป็นที่รัก) ทำให้โชตะต้องเข้าไปพัวพันกับอดีตวงดนตรีของอากิ ซึ่งอากิตั้งใจจะรวมวงดนตรีของเขากลับมาใหม่เพื่อแสดงในงานเทศกาลที่กำลังจะถึงนี้ และนั่นทำให้ชีวิตของโชตะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล
เมื่อคนโลกส่วนตัวสูงต้องมารับหน้าแทนผีโคตร friendly ที่เอาร่างเขาไปใช้ตามใจชอบจะเป็นอย่างไร โชตะและผีอากิจะลงเอยแบบไหน ติดตามได้ใน "Our 30 minute sessions - เทปลับสลับร่างมารัก" วันนี้ในโรงภา.. น่าจะต้องรอแผ่นแล้วล่ะ (ฮา)
ก่อนรีวิวขอเล่านิดหน่อย ตอนแรกกะจะดูเรื่องนี้อยู่แล้วแต่ไม่ได้จริงจังมากเท่าไร แต่พอรู้ว่าคนเขียนบทคนเดียวกับเรื่อง "ย้อนรักร้อยครั้งก็ยังเป็นเธอ" เท่านั้นแหละแม่คุณเอ๋ย พุ่งไปโรงหนังแทบไม่ทัน อนึ่งคือ ย้อนรักร้อยครั้งก็ยังเป็นเธอเป็นหนังที่ทำให้ผมร้องไห้เหมือนคนบ้า ถ้าจำไม่ผิดร้องประมาณสามรอบ (เพราะหลังจุดพีคยังมีการขยี้เข้าไปอีก) ประทับใจมาก แถมยังมาในแนว รักวัยรุ่น+วงดนตรี เหมือนกันอีก เลยคิดว่าเรื่องนี้พลาดไม่ได้เด็ดขาด
เอาล่ะมารีวิวกัน เริ่มจากเนื้อเรื่องจะเป็นเรื่องย่อยง่ายแต่ได้อารมณ์ คือไม่ได้มีปมหนักหนามากมายแต่ว่ายังมีน้ำหนักพอให้หนังไม่น่าเบื่อและไม่น้ำเน่า หนังสามารถถ่วงดุลระหว่างมิตรภาพกับความรักออกมาได้ดี ทำให้โทนหนังออกมากลมกล่อม ไม่เอียนความรักและไม่เลี่ยนมิตรภาพจัดเกินไป
เนื้อเรื่องเป็นแนวสูตรสำเร็จที่พอจะเดาตอนจบได้ แต่ข้อดีของการนำสูตรสำเร็จมาใช้คือเมื่อดูไปสักระยะจะทำให้รู้สึกว่า จะมีการหักมุมอะไรรึป่าว (เพราะรู้ว่าตอนจบจะเป็นประมาณไหน) สำหรับผมตอนจบรู้สึกว่าจบแบบหักดิบไปหน่อย แต่ก็กลับมาคิดว่าหากเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริง ตอนจบแบบนี้แหละที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
การเล่าเรื่องผ่านตัวละครที่เก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร แต่โดนยาแรงคือผีนำร่างไปใช้เพื่อให้วงดนตรีที่แตกไปแล้วกลับมารวมวงกันอีกครั้ง contrast จุดนี้ทำออกมาได้ดีมาก ผมชอบตรงที่เนื้อเรื่องไม่ได้เอาใจคนดูมากไป แต่ก็แอบเสียดายที่ไม่มีช็อตขยี้เหมือนย้อนรักฯ เหมือนกัน
ที่นี้ก็มาถึงการดำเนินเรื่องของหนังที่ทำออกมาเป็นเส้นตรง หนังเน้นเรื่องการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่า การใช้เรื่องผีที่มีเฉพาะโชตะที่มองเห็นมาเล่นในช่วงแรกถึงจะเป็นมุกเก่า ๆ แต่ก็ยังสนุกเหมือนเดิม และมันยังเชื่อมโยงโชตะเข้ากับกลุ่มเพื่อนของอากิได้อย่างไหลลื่น
ซึ่งการเติบโตของความสัมพันธ์ตัวละครที่ค่อย ๆ สวนทางกัน มันทำให้ความรู้สึกใจหายมาก ๆ เลย
การดำเนินเรื่องเป็นแพทเทิร์นที่เราคุ้นเคยคือ opening-happy-drama-ending หนังเรื่องนี้มีการทิ้งอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ระหว่างทาง แต่ตอนดูจบจะไม่มีอะไรคาใจ ทุกอย่างที่ตัวละครทำจะมีเหตุผลรองรับที่เฉลยอยู่ช่วงท้ายเรื่อง ซึ่งนั่นช่วยดึงให้ตัวละครมีมิติเพิ่มขึ้น และนำไปสู่ตอนจบของเรื่อง ทำให้เราที่อินกับตัวละคร+ตอนจบสวย ๆ ที่ตัวละครทุกตัวมีจุดหมายร่วมกัน ผลิดอกออกผลมาเป็นฉากจบที่โคตรประทับใจ
เรื่องการแสดง อันนี้ชอบมาก พล็อตเรื่องผีสิงแบบนี้นักแสดงต้องแสดงสองบทบาทคือตอนปกติกับตอนผีสิง ซึ่งคุณ "คิตามุระ ทาคุมิ" (โชตะ) ทำออกมาได้โคตรดี รู้เลยว่าตอนนี้ร่างโชตะมีวิญญาณของใคร การแสดงตัวตนออกมาทางสีหน้าของคุณคิตามุระนี่ขั้นเทพ ส่วน "แมคเคนยู" (อากิ) อันนี้ก็ใช้คำว่าหล่อได้เปลืองมาก บทสดใจและดึงดูดผู้คนรอบข้างเหมาะกับเขาจริง ๆ
สำหรับนางเอกครับ คุณ "ซายุ คุโบตะ"อันนี้เหมือนมีดอกไม้ที่ค่อย ๆ เบ่งบานอยู่ในใจ ตอนแรกเฉย ๆ แต่ดูไปดูมาน่ารักโคตร นางเอกน่ารักแบบละสายตาไม่ได้เลย
และที่ขาดไม่ได้เลยคือเรื่องเพลง ผมชอบฟังเพลงภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้วจากการดูอนิเม ขอยืนยันว่าเพลงในเรื่อง "เพราะทุกเพลง" ทุกเพลงจริง ๆ แถมความหมายดีมาก และจุดเล็ก ๆ ที่หนังใส่เข้ามาคือ ฉากที่ใคร (A) ร้องเพลงและต้องการสื่อถึงใคร (B) ในช่วงท่อนที่มีความหมายสำคัญ หนังจะฉายตัวละครนั้น (B) ขึ้นมาด้วย มันดูใส่ใจรายละเอียดและทำให้เพลงมันสื่อความหมายออกมาได้ชัดมากขึ้นไปอีก ทำให้ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้าเราก็เข้าถึงบทเพลงไปกับตัวละครได้
เรียบร้อยสำหรับรีวิวหนังเรื่องนี้
สรุปว่าเทปรักสลับร่างมารักเป็นหนังที่สามารถสื่อสารออกมาได้ชัดเจน
ถึงโอกาสที่ได้รับเพราะในทุกสิ่งที่ได้มามักจะมีเหตุผลของมัน
อดีตที่ผ่านมาส่งผลต่อชีวิตมากแค่ไหน
อนาคตที่ต้องเขียนขึ้นมาใหม่เมื่อรู้ตัวแล้วว่าชีวิตเรายังไม่จบแค่นี้
และการเผชิญหน้ากับสิ่งที่หลีกเลี่ยงมาตลอด คือสิ่งที่ทำให้เราก้าวต่อไปข้างหน้า...
ยังไงก็ฝากหนังเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ (ร้องไห้ตอนจบด้วยแหละ) แล้วเจอกันใหม่บ๊ายบายย
ปล. ในรูปลืมใส่คะแนน เอาไปเลย 9/10
โฆษณา