30 ก.ค. 2020 เวลา 16:15 • หุ้น & เศรษฐกิจ
MARKETS & ECONOMY : เกือบ 30 ล้านคนในสหรัฐฯ ได้รับอาหารไม่เพียงพอสำหรับบริโภคในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เศรษฐกิจของเยอรมนีหดตัวถึง 10%
ความไม่มั่นคงทางอาหารสำหรับครัวเรือนของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่สำนักสำรวจสำมะโนประชากร (Census Bureau) เริ่มติดตามข้อมูลในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีชาวอเมริกันเกือบ 30 ล้านคนที่รายงานระบุว่าพวกเขาได้รับอาหารไม่เพียงพอต่อการบริโภคในช่วง 7 วันก่อนหน้านั้นจนถึงวันที่ 21 กรกฏาคม 2020
จากการสำรวจความเคลื่อนไหวรายสัปดาห์พบว่าประมาณ 23.9 ล้านคนจาก 249 ล้านคนของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขา "มีอาหารกินไม่เพียงพอในบางมื้อ" ขณะที่อีก 5.42 ล้านคนกล่าวว่า "พวกเขาขาดแคลนอาหารอยู่บ่อยครั้ง"
จำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามที่ "ขาดแคลนอาหารเป็นบางครั้ง" ได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในสัปดาห์ที่ 12 ของการสำรวจข้อมูล ขณะที่จำนวนของผู้ที่ "ขาดแคลนอาหารอยู่บ่อยครั้ง" ได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2020
เหตุการณ์ที่ผู้คนเริ่มขาดแคลนอาหารนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการระบาดของ COVID-19 และทำให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนต้องออกจากงานของพวกเขา
ผู้ว่างงานในสหรัฐฯ ซึ่งได้รับเงินเยียวยา 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์กำลังจะหมดอายุลงในสิ้นเดือนนี้แล้ว ขณะที่สภาคองเกรสยังคงถกเถียงกันถึงมาตรการสนับสนุนครั้งใหม่
ข้อมูลอื่น ๆ ที่อัพเดทด้วยความถี่สูงอย่างเช่นความเคลื่อนไหวของตัวเลขแรงงานภาคครัวเรือน กำลังบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ถูกขัดขวางโดยการระบาดที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นของ COVID-19
หลายรัฐในประเทศจำเป็นต้องกลับไปใช้มาตรการ Lockdowns อย่างเข้มงวดอีกครั้ง
เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวด้วยระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 2 หลังจากมาตรการควบคุมไวรัสได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจและภาคครัวเรือนของประเทศ ขณะที่ผู้คนจำนวนมากตกงาน และรัฐบาลก็ได้ปรับใช้มาตรการกระตุ้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
GDP ในไตรมาสที่ 2 หดตัวลง 10.1% ซึ่งถือเป็นระดับที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลขึ้นมาในปี 1970 โดยตัวเลขที่ลดลงนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการส่งออก การใช้จ่ายของผู้บริโภค และการลงทุนที่ทรุดตัวลงภายในประเทศ
แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการสูญเสียงานเพิ่มขึ้นในระยะกลางถึงระยะยาว เช่นเดียวกับความกังวลที่จะเกิดความเสียหายต่อผู้บริโภคและตัวธุรกิจเอง
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ กำลังหมายความว่าการฟื้นตัวในอนาคตนั้นจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ขณะที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปดูดีขึ้นเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม แต่ยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดวิกฤต
อนึ่ง เยอรมนีนับเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งการลดลง 10.1% ของ GDP ในไตรมาสที่ 2 นี้ กำลังเป็นลางสังหรณ์ใจให้แก่ประเทศอื่น ๆ อย่างเช่น สเปน ฝรั่งเคส และอิตาลี ซึ่งอาจจะรายงาน GDP ออกมาเลวร้ายยิ่งขึ้นเช่นกันในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
บริษัทหลายแห่งทั่วยุโรปต่างก็รายงานยอดขายที่ลดลง รวมถึงหลายแห่งก็ได้มีการปลดพนักงานออกจากบริษัท เพื่อปรับปรุงรูปแบบธุรกิจให้สามารถเอาตัวรอดภายใต้สภาวะ Demand ที่อ่อนแอเป็นเวลานาน โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านสายการบินซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการระบาด
Airbus SE บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปในปี 2019 ได้ประกาศในวันนี้ว่าพวกเขาจะระงับการผลิตชั่วคราว ขณะที่ Volkswagen AG บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังของเยอรมนีได้ระงับการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นหลังจากรายงานผลขาดทุนในช่วงครึ่งแรกของปี 2020
ทางฝั่งรัฐบาลล่าสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ได้อนุมัติงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก 1.53 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมที่ออกมานั้นยังมีความไม่แน่นอนสูงมาก แม้ว่าข้อตกลงทางการเงินของสหภาพยุโรปที่ไม่เคยมีมาก่อนนั้น จะได้รับการสนับสนุนจากประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศส
Jamie Rush นักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg กล่าวว่า
"พวกเราได้คาดการณ์ว่ามาตรการ Social Distancing และความกังวัลของผู้บริโภค รวมถึงตัวบริษัทเองจะเป็นปัจจัยที่จำกัดให้ระดับสูงสุดของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปได้นั้นอยู่ที่ประมาณ 3-6% เมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดวิกฤต"
อนึ่ง ภาพรวมที่ออกมาได้คล้ายคลึงกันทั้งหมดสำหรับประเทศที่อยู่ในสหภาพยุโรป ซึ่งรัฐบาลมีการใช้งบประมาณด้านสุขภาพและสวัสดิการว่างงานต่าง ๆ ไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ประกาศถึงแผนการฉุกเฉินที่จะเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้
ความเสี่ยงทางด้านการว่างงานยังคงมีอยู่ในระดับสูง ขณะที่ Deutsche Lufthansa AG สายการบินแห่งชาติของเยอรมนีได้ประกาศปลดพนักงานหลายพันคน และ Daimler AG บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศก็ได้ประกาศลดชั่วโมงการทำงานของพนักงานบางคนลงเป็นระยะเวลา 1 ปี
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
อยากลงทุน อยากมีเงินเก็บอย่างจริงจัง แต่ไม่มีพื้นฐาน World Maker มีคอร์สเรียนดี ๆ มาแนะนำให้ครับ รายละเอียดคลิกเลย
โฆษณา