30 ก.ค. 2020 เวลา 14:22 • ธุรกิจ
จาก Silicon Valley สู่ SICT
ทำความรู้จักหุ้นน้องใหม่สาย Deep Tech ของคนไทย
เป็นอีกวันหนึ่งที่ตลาดหุ้นบ้านเราเริ่มออกอาการงอแงกันซะแล้วครับ กับดัชนี SET ในวันนี้ที่ปิดร่วงลงมา 22.61 จุดหรือคิดเป็น 1.69%
แต่ถึงแม้ว่าราคาหุ้นในตลาดโดยรวมจะติดลบกันแดงแป๊ด ในทางกลับกันก็ยังมีหุ้นอยู่ตัวหนึ่งที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 200% จากการเข้าซื้อขาย IPO เป็นวันแรก ถือว่าเปิดตัวไปได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว
และในวันนี้เดี๋ยวพวกเรา หุ้นพอร์ทระเบิด จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับ SICT กันว่า “คุณค่า” กับ “ความแปลกใหม่” อะไรคือสิ่งที่น่าสนใจกว่ากัน ?
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ...
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึง SICT เชื่อว่าความรู้สึกแรกที่ทุกคนจะสัมผัสและรู้สึกได้ก็คือ ความแปลกใหม่ ในหุ้นตัวนี้ ซึ่งก็ไม่แปลกครับเพราะว่า SICT หรือบมจ. ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี เพิ่งจะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ของบ้านเราเป็น“วันแรก” (30 ก.ค. 63) นั่นเอง
แต่พวกเขาคือใครล่ะ ? ซึ่ง SICT ก็คือผู้ออกแบบ, วิจัย และพัฒนา “ไมโครชิพ” ที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญของอุปกรณ์ระบบRFID เช่นไมโครชิพกุญแจรถยนต์, ไมโครชิพสำหรับฝังสัตว์เลี้ยง และไมโครชิพสำหรับระบบประตูอัตโนมัติ
นอกจากนี้ SICT ยังได้ทำการวิจัยและพัฒนาไมโครชิพระบบ NFC (Near Field Communication) ที่จะทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆในอนาคตสามารถวัดคุณภาพของน้ำดื่ม, สภาพแวดล้อม หรือแม้กระทั่งสุขภาพของคนเราได้อีกด้วยตรงนี้จะถือว่าเป็นแพลนสำหรับอนาคตที่น่าสนใจเลยทีเดียวครับ
ซึ่งสัดส่วนรายได้ของ SICT ก็จะแบ่งกันอยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่นัก โดยไมโครชิพสำหรับสัตว์เลี้ยงก็จะมีสัดส่วนอยู่41.88% รองลงมาเป็นไมโครชิพสำหรับระบบประตูอัตโนมัติ 31.57% ไมโครชิพสำหรับกุญแจรถยนต์ที่ 25.30% และอื่นๆอย่างเช่นไมโครชิพที่ใช้ในระบบป้องกันการปลอมสินค้าอีก 1.25%
และสำหรับการจัดพอร์ตธุรกิจนั้น SICT ก็ได้มีการบาลานซ์ไว้ค่อนข้างดีด้วยการจัดให้ไมโครชิพที่เป็นสินค้าแบรนด์ตัวเองอย่าง “SIC” เป็นธุรกิจหลักแล้วทางบริษัทก็ยังได้มีการทำธุรกิจให้บริการดีไซน์ไมโครชิพตามแบบที่ลูกค้าต้องการไว้อีกด้วย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะค่อนข้างมั่นคง สม่ำเสมอ และยังเป็นส่วนธุรกิจที่มีอัตรากำไรค่อนข้างดี
💰 งบการเงินย้อนของ SICT
ปี 2560 รายได้ 310 ล้านบาท
กำไร 38 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 377 ล้านบาท
กำไร 51 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 308 ล้านบาท
กำไร 24 ล้านบาท
(ล่าสุด)ไตรมาส 1 ปี 2563
รายได้ 95 ล้านบาท
กำไร 15 ล้านบาท
ถือว่ากำไรก็ได้มีการสะดุดไปในปีที่แล้วคือพ.ศ. 2562 จากความกังวลของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน เนื่องจากว่าสินค้าของ SICT จะเป็นการส่งออกนอกประเทศเกือบทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรในไตรมาส 1/2563 ก็จะเห็นได้แล้วว่ากำไรสุทธิของทางบริษัทได้เริ่มมีการฟื้นตัวมาแล้ว
สำหรับการเติบโตในอนาคตนั้น SICT ก็ได้มีความมั่นใจว่าจะสามารถขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในส่วนของไมโครชิพฝังสัตว์เลี้ยงได้ ถึงแม้ว่าคู่แข่งที่สำคัญจะเป็นบริษัท
ที่มาจากทั้ง “อเมริกา” และ “ยุโรป” แต่ทาง SICT ก็ยังมีการพัฒนาทั้งในเรื่องของราคาและเทคโนโลยีอยู่อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่หยุดไปแล้ว
แต่ถึงอย่างไรการจะขึ้นไปเป็นที่ 1 ก็ต้องเข้าไปแบ่งสัดส่วนการตลาดจากเดิมที่มีอยู่ราวๆ 20% เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า30% ให้ได้ หรือก็แปลว่า SICT จะต้องหาเพิ่มมาอีก 10% กว่าๆ
สำหรับไมโครชิพในกุญแจรถยนต์ก็ยังเป็นตลาดที่มั่นคงเพราะว่ารถยนต์แต่ละคนมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 10 ปี แต่กุญแจรถนั้นต้องเปลื่ยนอยู่บ่อยครั้ง และในส่วนของ NFC ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ตรวจเช็คสุขภาพนั้นก็ได้เริ่มมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยปัจจุบันจะเป็นการออกแบบและผลิตให้บริษัทยา
ซึ่งวัตถุประสงค์ของการระดมทุนด้วยการขายหุ้น IPO ที่ราคาหุ้นละ 1.38 บาทจำนวน 100 ล้านหุ้นในครั้งนี้ SICT ก็จะนำเงิน 138 ล้านบาทไปใช้อยู่ 3 ส่วนคือ
ใช้ลงทุนในเครื่องมือและซอฟแวร์ด้านการวัด, การออกแบบ ส่วนที่สองก็จะเป็นการไปลงทุนเพื่อคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท ส่วนสุดท้ายจะเป็นการนำเงินไปร่วมลงทุนกับบริษทที่มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่จะสามารถต่อยอดให้กับ SICT ได้ และส่วนที่เหลือก็จะนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียน (ขณะนี้มี D/E อยู่เพียง0.39 เท่า)
เรียกได้ว่าเป็นหุ้น Deep Tech ของคนไทยและประเทศไทย “ตัวแรก” ที่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาด MAI และก็ได้มีราคาปิดบวกไปถึง 200% พุ่งขึ้นจาก 1.78 บาทขึ้นไปเป็น 4.14 บาทเรียบร้อยแล้วภายในวันแรกที่เปิดตัว อีกทั้งยังมีนโยบายปันผลอยู่ไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิอีกด้วย
เพื่อนๆคนไหนที่สนใจ SICT ก็ลองไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจกันอีกทีได้นะครับ แต่ตามปกติแล้วในช่วงแรกๆของการเข้าตลาดนั้น ราคาหุ้นจะยังคงติดอยู่ในโซนของการ “เก็งกำไร” กันค่อนข้างมาก ดังนั้นถ้าใครคิดที่จะเข้าไปเล่นในกองไฟก็ต้องมั่นใจพอตัวว่าคุณพร้อมทั้งความรู้, ประสบการณ์ และความรวดเร็ว
คงจะต้องไปติดตามและให้กำลังใจ SICT กันต่อว่าในอนาคตบริษัท Tech ไทยจะไปไกลถึงระดับโลกได้หรือไม่ ?
แต่ถึงอย่างไร ประสบการณ์ของอดีตนักออกแบบวงจรรวม (IC Specialist) ที่นานถึงสิบกว่าปีใน ซิลิคอน วัลเลย์ ของคุณ “มานพ ธรรมสิริอนันต์” ผู้นำทัพของ SICT ก็ถือว่าเป็นจุดแข็งที่น่าจับตามอง
สำหรับวันนี้ก็คงจะต้องขอตัวลากันไปก่อน
สวัสดีครับ...
⭐️กลับมาอีกแล้วว...รถด่วนขบวนสุดท้ายสำหรับห้อง VIP.หุ้น..TFEX สุด Exclusive By ทีมงานไก่จ๋า⭐️
เพียงแค่ท่านเปิดบัญชีกับเรา โดยมีผู้สนับสนุนใจดี
เปิดบัญชี TFEX สัญญาละ 25
หุ้นค่าคอม ล้านละ 500
.
.
สิทธิพิเศษลูกค้าใหม่ หุ้น& TFEX รับสิทธิเข้าห้องไลน์ VIP สุดพิเศษพร้อมแนะนำกลยุทธ์ทุกวัน ฟรี!!! ย้ำว่าฟรี‼️‼️
.
ด่วน!! จำนวนจำกัด...
กดได้เลย
โฆษณา