1 ส.ค. 2020 เวลา 05:31 • การศึกษา
เรื่อง^แม่คนที่สอง^
น้องโบนัสร้องไห้จนหลับ เด็กอนุบาลชั้น อ.1/3 ครูปิดแมชท์เด็กฟังครูพูดไม่รู้เรื่อง คำนึงถึงระยะปลอดภัยนะ..แต่บางอย่างก็ต้องยกเว้น.....🥰เป็นครู ห้ามสาย ห้ามป่วย ห้ามตาย😘
ในชีวิตเราไม่ได้มีแม่เพียงคนเดียว คุณอาจมีแม่ผู้ให้กำเนิดอยู่ที่บ้าน แม่ผู้ให้ความรู้อยู่ที่โรงเรียน หรือบางครั้ง อาจมีมากกว่า
💝ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้💝
ความเอาใจใส่ดูแลที่ครูประจำชั้นมีให้ต่อนักเรียนนั้น ดูจะเป็นเรื่องดี หากเด็กหนุ่มไม่ตีความหวังดีของเธอผิดซะก่อน แม่คนที่สองคนนี้ต้องเจอเรื่องราวน่าตกใจมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง เพื่อจะได้ทำหน้าที่แม่คนที่สองของเธอให้ดีที่สุด
กิ้ง ก่อง...
เมื่อเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ขวัญข้าว หรือ ครูขวัญ ซึ่งกำลังตรวจงานวิชาสุขคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น ม.2 จึงต้องละสายตาจากงานที่ตรวจไปที่ประตูบ้าน
แม่เจ้า! ตำรวจ
หน้าประตูบ้านของเธอเต็มไปด้วยตำรวจไม่ต่ำกว่า 4 นาย รถตำรวจที่พึ่งปิดไฟกระพริบหนึ่งคัน และ...ชายหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง ความตกใจทำให้ขวัญปัดหนังสือคณิตศาสตร์บนโต๊ะตกพื้นไปหลายเล่ม ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นไปเปิดประตูบ้าน
“คุณครูขวัญใช่มั้ยครับ” ตำรวจนายหนึ่งถามเธอ
“ค่ะ ชั้นเอง คุณตำรวจมีอะไรเหรอคะ”เธอถามเสียงสั่น
“เราขอจับคุณข้อหาลักพาตัว ลูกชายของคุณสองคนนี้ครับ” ตำรวจอีกนายหนึ่งพูดขึ้นพร้อมผายมือไปทางชายหญิงที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ลูกใคร ชั้นไม่ได้ลักพาตัวใครนะคะ”ขวัญเถียงเสียงตำรวจเสียงแข็ง ด้วยอารมณ์หงุดหงิด สัปดาห์นี้เธออยู่บ้านคนเดียวมาตลอด จะไปลักพาตัวใครมาได้ยังไง แต่ยังไม่ทันที่บทสนทนาของทั้งคู่กรณีจะเริ่ม เสียงๆหนึ่งก็เข้ามาหยุดเหตุการณ์เสียก่อน
“พ่อ แม่จะทำอะไรครูขวัญน่ะ” เด็กหนุ่มคนหนึ่งพุ่งออกมาจากบ้านข้างๆ มิค ถ้าขวัญจำไม่ผิด เธอตกใจเล็กน้อยที่เด็กหนุ่มนี่มาอาศัยอยู่ข้างบ้านเธอ เขาเป็นลูกชายของชายหญิงวัยกลางคนสองคนนี่ ถ้าเธอจำไม่ผิด ‘อ่อ ไอแมนมันมาอยู่บ้านข้างๆเรานี่เอง พ่อแม่มันถึงนึกว่าชั้นพามันไปอยู่ด้วย’ ขวัญคิดในใจ
“อ่อ คุณตำรวจครับ ผมขอโทษครับ แม่กับพ่อเข้าใจผิด ครูขวัญไม่ได้ลักพาตัวผมมา ผมมาเอง ผมสมัครใจที่จะมาอยู่ข้างบ้านครูขวัญเองครับ”เด็กหนุ่มพูดแก้ตัวอย่างกล้าหาญ ในขณะที่ผู้ใหญ่รอบตัว กำลังงงกับพฤติกรรมที่เขาทำ ‘รอดตัวไปนะขวัญข้าว เกือบติดตะรางด้วยเรื่องงี้เง่าแล้วมั้ยล่ะเรา’ เธอคิด
ในขณะที่ฝ่ายตำรวจต่างขอโทษขอโพยเธอเป็นการณ์ใหญ่ แต่แปลก ที่ไม่มีคำขอโทษซักคำออกมาจากปากของชายหญิงวัยกลางคนทั้งสอง ต้นเหตุ...ที่แจ้งตำรวจมาจับเธอที่นี่!
แต่เมื่อเรื่องราวจบลง ขวัญข้าวก็ปิดประตูกลับเข้าบ้านมา เธอก้มตัวลงเก็บหนังสือคณิตศาสตร์ที่ได้ทำหล่นไว้เมื่อครู่ ‘มิคมันเป็นอะไรวะ’ คำถามนี้ผุดขึ้นทันทีที่เธอเห็นชื่อของแมน เด็กชายมนัสวีย์ เธอพึ่งมารู้จักเด็กหนุ่มคนนี้เอาปีการศึกษานี้นั่นแหละ ที่เธอมาเป็นครูประจำของเขา ตอนแรกมิคดูเป็นคนเงียบๆ เหมือนจะเก็บกดยังไงก็ไม่รู้ แต่เมื่อขวัญมีนโยบายการปกครองนักเรียนแบบใหม่
โดยการให้นักเรียนแต่ละคนมีสมุดไดอารีเล่มหนึ่ง เพื่อเขียนในแต่ละวัน นักเรียนจะเขียนอะไรก็ได้ จะเล่า จะบ่น จะระบาย จะถาม จะปรึกษา หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ครูขวัญจะเป็นคนตรวจและเขียนตอบเป็นดินสอ เมื่อนักเรียนอ่านเสร็จ ก็จบลบคำตอบของครูขวัญซะ แล้วเขียนข้อความของตนเองทับในวันต่อไป ข้อความทั้งหมดในไดอารีนั่น จะเป็นความลับ ระหว่างครูขวัญ กับนักเรียนเท่านั้น
ตอนเด็กเธอเคยคิดนะ ว่าครูประจำชั้นน่ะ ทำหน้าที่แหมือน “แม่” ของนักเรียนจริงๆเหรอ และพอได้มารับหน้าที่จริง เธอก็ได้รับคำตอบ ถึงเธอเองจะยังไม่เคยเป็นแม่คน แต่หน้าที่นี้ มันต้องใช้ความรับผิดชอบมากมายจริงๆแหละ แต่คิดมาถึงเรื่องนี้ มันก็ยังตอบขวัญไม่ได้อยู่ดี ว่ามิคจะหนีมาอยู่บ้านข้างๆเธอทำไม หนังสือคณิตศาสตร์อีกครึ่งกองวางรอการตรวจอยู่ แต่ขวัญก็เลือกที่จะทิ้งมันไว้ และมานั่งคิดเรื่องเจ้า มิค มนัสวีย์อย่างจริงจัง
“ครูขวัญ มารายงานตัวที่ห้องปกครองด้วยครับ” เสียงผู้อำนวยการ ดังก้องไปทั่วโรงเรียน สร้างความขัดเขิญให้ครูขวัญเป็นอย่างยิ่ง
‘เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ’ เธอคิด ผอ.เรียกไปห้องปกครอง ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ นักเรียนห้อง ม.2/14 ของเธอต้องไปก่อเรื่องอะไรซักอย่างอีกแน่นอน นั่นแหละนะ นอกจากเจ้าพวกนั้นจะเดือดร้อนกับการลงโทษของ ผอ.และครูอีกหลายคนแล้ว ขวัญ ผู้ทำหน้าที่เป็น “แม่” ในโรงเรียนในกับพวกเขาก็จะพลอยโดนไปด้วย ถ้าพวกนั้นไม่ได้ก่อเรื่องใหญ่ ขวัญอาจแค่โดนตำหนิ แต่ถ้าเรื่องใหญ่ล่ะก็ มันอาจจะส่งผลส่วนคลอนไปถึง เงินเดือน เดือนั้นของขวัญไปเลยก็ได้
ครูขวัญเปิดประตูห้องปกครองไป สิ่งแรกที่เธอสัมผัสได้คือ ความหนาวเหน็บของห้องนี้ อาจเป็นเพราะการตั้งอุณหภูมิแอร์ไม่ดี หรืออาจเป็นรังสีที่แผ่ออกมาจากตัว ผอ.และครูฝ่ายปกครองก็เป็นได้ ขวัญเดินเข้าไปด้วยความตื่นเต้น และสภาพของนักเรียนชาย 2 คน ก็ตอบคำถามให้เธอได้
ศีรษะของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แดง ถ้าเธอจำไม่ผิด มันมีผ้าพันอยู่ และอีกคนหนึ่ง พัด มีรอยเลือดกลบอยู่ที่ปากถึงครูทั้งสองไม่บอก ขวัญก็พอจะเดาได้ ว่าเจ้าสองคนนี้ มันไปมีเรื่องชกต่อยกันมา
“คุณครูขวัญ ลูกศิษย์ห้องคุณเค้ามีเรื่องชกต่อยกัน ไม่ใช่กับเด็กโรงเรียนอื่น ไม่ใช่กับเด็กรุ่นอื่น ไม่ใช่กับเด็กห้องอื่น แต่เด็กห้องคุณทะเลาะกันเอง” ขวัญหน้าเสียทันทีที่ได้ยินคำตำหนิของ ผอ. มันดูเป็นความรู้สึกเหมือนพ่อเรากำลังดุเรา ที่เลี้ยงลูกไม่ดี ลูกเราไปตีกับเด็กบ้านอื่น ยังไม่แย่เท่า การที่ลูกบ้านเราทะเลาะกันเอง เมื่อเห็นว่าขวัญไม่มีคำแก้ตัว ผอ.จึงพูดต่อ
“คราวนี้ผมจะลงใบบันทึกพฤติกรรมไปก่อนนะ ส่วนคุณ ครูขวัญ เอาเด็กห้องคุณไปอบรมต่อด้วย อ้อ ก่อนอื่น เอาเด็กไปทำแผลก่อน เชิญครับ” ขวัญไหว้ ผอ.ครั้งหนึ่งก่อนเดินนำนักเรียนทั้งสองไป
“โอ๊ย ครู เบาๆหน่อย ผมเจ็บนะ” พัดร้องขึ้น ในขณะที่ขวัญกำลังทำแผลให้ บุคลิกของขวัญดูจะเป็นคนสบายๆ แมนๆนิดหน่อย และสนิทกับเด็กชายได้ง่าย จนหลายคนเกือบคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงทอมบอย แต่ทว่า ครูขวัญที่มีบุคลิกเหมือนทอมบอยคนนี้ กลับมีดวงตาที่คมสวย และใบหน้าที่ได้รูป แม้จะเป็นคนผิวคล้ำ แต่ก็จัดได้ว่า ครูขวัญเป็นคนที่สวยเลยทีเดียว
“แล้วตอนต่อยกันน่ะ ทำไมไม่คิด เฮอะ เธอรู้มั้ยว่าชั้นตกใจแค่ไหน ที่ผอ.เรียกชื่อชั้นใส่ไมค์ ได้ยินกันทั้งโรงเรียนน่ะ นึกว่าจะโดนไล่ออกซะแล้วนะเนี้ย เออ แล้วนี่ทะเลาะกันเรื่องอะไรล่ะเนี้ย ถึงได้ทำกันแรงขนาดนี้” เธอถาม
เด็กหนุ่มสองคนก้มหน้าเงียบ และไม่มีทีท่าว่าจะตอบ
“ไม่ตอบก็ได้ แต่ยังไงพวกเธอก็ต้องโดนบทลงโทษนะ”ใบหน้าเรียบเฉยของเด็กหนุ่มทั้งสองมีแววตกใจขึ้นมาทันที ขวัญข้าวเป็นหนึ่งในหญิงที่ผ่านการฝึก รด. มาแล้ว ทำให้บทลงโทษแต่ละอย่างของเธอ ดูจะผิดแปลกไปจากครูคนอื่นสักหน่อย
“แต่เราสองคนบาดเจ็บอยู่นะครับ ครูจะไม่ปล่อยให้เราพักกันหน่อยเหรอ”แดงเอ่ยปากพูด
“แล้วตอนพวกเธอต่อยกันเหนื่อยแทบตาย มันมีหยุดพักมั้ยล่ะ อีกอย่าง บทลงโทษของชั้นน่ะ ไม่เกี่ยวกับหัว ไม่เกี่ยวกับปาก แต่เกี่ยวกับมือและแขนล้วนๆ ลุกขึ้น แล้วหอบสังขารตามชั้นมา” พูดจบ ขวัญก็เดินออกไป สร้างความมึนงงให้กับคู่กรณีทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง
“ครูพาเรามาคลองทำไม” พัดเอ่ยถาม
“อย่าถามมาก ยื่นมือมา...ทั้งคู่นั่นแหละ รักนวลสงวนตัวกันอยู่ได้” เด็กหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกมาอย่างงงๆ และยิ่งงงเข้าไปอีก เมื่อครูสาวใช้เช็ดหน้าผูกมดมือของทั้งคูไว้ทั้งสองข้าง มือซ้ายกับมือขวา และมือขวากับมือซ้าย
“หันหน้าเข้าหากัน” เด็กหนุ่มหันตามคำสั่ง เงื่อนตามใจชอบของครูขวัญเป็นอะไรที่ยากกว่าเงื่อนใดๆของลูกเสือที่พวกเขาเรียนมา
“ขึ้นเรือ แล้วนั่งลง” ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจจุดหมายของครูสาว แต่เด็กหนุ่มสองคนก็ต้องทำตาม
เมื่อเรือหายโคลงเคลง ขวัญก็เดินตามเด็กหนุ่มสองคนเข้าไปนั่งบนเรือ
“อ่าว ช่วยกันพาย” ถึงแม้มันจะเสี่ยง แต่ขวัญก็สั่งให้นักเรียนสองคนที่ถูกมัดมือเข้าด้วยกันให้ช่วยกันพายเรือไป ทั้งคู่ต้องหันหน้าเข้าหากัน และช่วยกัน
“ริมคลองนี้มีบ้านเพื่อนเราคนนึงใช่มั้ย บ้านใครน่ะ พายเรือพาครูไปหน่อยสิ” เธอสั่ง
“บ้านมิคครับ แต่มันไกลมากนะครับครู แค่พวกผมช่วยกันพายให้ไปมันก็ยากจะแย่แล้ว”แดงพูด
“อย่ามองครูด้วยสายตาแบบนั้น แดง พัด ช่วยกันพายไปเถอะน่า เดี๋ยวครูจะบอกเอง ว่าครูสั่งให้พวกเธอทำแบบนี้ทำไม”เธอพูด
เด็กหนุ่มจึงละสายตาจากเธอ แล้วหันไปมองทางแทน
“การที่เรามาอยู่ห้องเรียนเดียวกันน่ะ มันก็คือการลงเรือลำเดียวกันแล้ว ใช่มั้ย กิจกรรมแข่งขันระหว่างห้อง พวกเธอก็ต้องสามัคคีกัน ช่วยกันเอง ต้องช่วยกันพายเรือ เรือมันถึงจะไปถึงได้ ครูรู้หรอก ว่ากว่าเราจะช่วยกันพายเรือให้ผ่านพ้นปีการศึกษานี้ได้ มันเหนื่อย แต่ถ้าพวกเธอลองเปิดใจ เข้าใจกัน แบ่งหน้าที่กัน เราก็จะเหนื่อยน้อยลง จริงมั้ย ครูเองก็ลงเรือกับเธอมาด้วยเหมือนกัน ครูไม่สามารถช่วยเธอพายเรือได้ ครู มีหน้าที่เพียงชี้แนะแนวทางในการทำอะไรต่างๆให้พวกเธอ ทุกอย่างบนเรือ ขึ้นอยู่กับพวกเธอ เรือจะล่ม จะพายหลงทางไปไหน มันก็ขึ้นอยู่กับพวกเธอ แต่ลองสังเกตุดูสิ ว่าถึงเธอจะล่ม เธอจะหลง ครูอย่างชั้นก็ตามไปกับเธอด้วย แต่เชื่อเถอะ ถึงเธอจะมากันทั้งห้อง ชั้นก็ไม่ยอมให้พวกเธอหลงไปไหนหรอก” ขวัญข้าวพูดไปเรื่อยๆ ความเร็วเรือก็ค่อยๆเร็วขึ้นด้วยจังหวะที่เริ่มเข้ากันได้ของเด็กหนุ่มทั้งสอง
แต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มทั้งสองจะพายเรือถึงบ้านของเพื่อน เขาก็ดันเจอเพื่อนคนนั้นที่ริมน้ำเสียก่อน แม้อยากจะโบกมือทักทาย แต่ด้วยภาระที่ทั้งคู่ได้รับมอบหมายจากครูสาว ก็ทำให้พวกเขาได้แค่ยิ้ม...เพียงชั่วขณะ ใบหน้าของคนบนเรือทั้งสามก็เปลี่ยนสีไปทันที เมื่อเพื่อนคนนั้นกระโดดลงน้ำมาอย่างจัง นอกจากเรือจะสั่นคลอนสร้างความไม่มั่นคงให้กับเรือแล้ว ดูท่า มันจะไม่เป็นเพียงกันกระโดดเล่นของเด็กน่ะสิ เพราะมิค...ไมโผล่ขึ้นมาบนน้ำเลย
“ไอแดง ไอพัด เพื่อนแกเป็นอะไรวะ ลงไปดูซิ”ขวัญพูดด้วยความตกใจ
“มันเป็นอะไรน่ะ พวกผมไม่รู้หรอก แต่ครูผูกพวกผมมไว้ซะขนาดนี้ ผมคงลงไปไม่ได้หรอก ครูลงไปเองละกัน” คำพูดของเด็กหนุ่มมีเหตุผล เพราะถ้าพวกเขาลงไปด้วยกันตอนนี้ มีหวัง นักเรียนในห้องเรียน ม.2/14 คงต้องหายไปถึง 3 คน เป็นแน่ ขวัญจึงต้องเป็นคนกระโดลงไปหาเด็กหนุ่มแทน จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอมีหน้าที่ดูแลนักเรียนในห้องเสมือนลูกของตนเอง ถ้าลูกเขาตายไป เธอจะไปเอาลูกที่ไหนไปคืนพ่อแม่เขา
1
ขวัญลากร่างเด็กหนุ่มที่ใหญ่กว่าเธอเล็กน้อยขึ้นมาจากคลอง แต่เขาไม่ตื่น อาจเพราะสำลักน้ำเข้าไปมาก ‘ผายปอด’ คำนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเธอแวบหนึ่ง ก่อนถูกเธอปัดตกไป เพราะเจ้าแดงและพัด ต้องเอาไป เล่า และ ล้อ เป็นแน่
“ไอพัด ไอแดง แกผายปอดมิคมันคนละที จนกว่ามันจะฟื้น” เด็กหนุ่มที่พึ่งประคองตัวติดกันขึ้นฝั่งมาได้ถึงกับอึ้ง
“ไม่งั้นแกตกคณิตศาสตร์แน่ เร็ว” เหตุผลของขวัญอาจดูงี่เง่า ที่กลัวเด็กจะล้อ แต่ถ้าใครได้มาเห็นความหื่นกามของนักเรียนชายพวกนี้ ทุกคนจะต้องคิดแบบเธอ
เด็กหนุ่มสองคนผายปอดเพื่อนคนละทีแล้วหยุด ขวัญจึงเข้าไปดู และในที่สุด มิคก็สำลักน้ำออกมา
และตั้งแต่วันนั้น มิคก็มองขวัญด้วยสายตาที่แปลกไป เธอกลายเป็นคนช่วยชีวิตเด็กหนุ่ม และเป็นคนที่เด็กหนุ่มปรึกษาทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่...เรื่องปัญหาครอบครัว
ต้องเป็นเรื่องนี้แน่! ขวัญข้าวคิด เพราะนอกจากเรื่องนี้ เธอก็ไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรเกี่ยวข้อง พอที่จะให้มิคหนีมาอยู่บ้านข้างๆเธอได้
เมื่อไขข้อข้องใจได้แล้ว ขวัญก็เริ่มกลับมาหาเจ้าหนังสือคณิตศาสตร์ เธอตั้งหน้าตรวจมัน เพื่อนำไปแจกคืนให้กับนักเรียนในวันพรุ่งนี้
“ไหน ครูขวัญอยู่ไหน” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของแถวนักเรียน ม.2/14 ขวัญผู้ถูกกล่าวถึงจึงต้องเดินไปตรวจ และเมื่อเดินไปถึง เธอก็ต้องหยุดชะงัก
ชายหญิงวัยกลางคน ผู้เป็นคนเรียกตำรวจมาจับเธอเมื่อวาน กำลังมองหาเธออยู่ และเมื่อทั้งคู่สังเกตุเห็นเธอ ชายคนนั้น ก็ชี้นิ้วมาที่เธอ
“มันเป็นใคร ลูกถึงได้หนีตามมันไปขนาดนั้น” ชายผู้นั้นตะโกนเสียงดัง พอที่ขวัญจะได้ยิน ลูกชายเขาได้ยิน และนักเรียนกว่าร้อยคนได้ยิน
ขวัญนิ่งอึ้งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตั้งสติได้
“พวกคุณล่ะ เป็นพ่อแม่ประสาอะไร เลี้ยงลูกให้หนีตัวเองไปแบบนั้น เลี้ยงลูกให้คิดกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เลี้ยงลูกตัวเองบ้างรึเปล่า”เมื่อเห็นทั้งคู่อึ้ง ขวัญจึงกล่าวต่อ
“เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นครูคนแรกของลูก ลูกจะเป็นยังไง ก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ครูอย่างชั้น เป็นได้แค่ครูคนที่สอง เป็นแม่คนที่สอง ที่มีหน้าที่อบรมวิชาความรู้ คุณธรรมจริยธรรมเล็กน้อยให้กับลูกคุณ พวกคุณลองมองดูตัวเองบ้างนะ ว่าเลี้ยงลูกยังไง เขาถึงคิดหนีออกจากบ้าน หนีจากครูคนแรก หนีจากพ่อแม่ มาอยู่กับครูคนที่สอง และแม่คนที่สองอย่างชั้น” น้ำตาหนึ่งหยดร่วงลงจากตาของทั้งคู่ ขวัญไม่อยู่ดูเหตุการณ์ต่อ เธอเลือก ที่จะเดินกลับไปคุมแถว และกลับไปทำหน้าที่ “แม่” คนที่สองของนักเรียนคนอื่นๆให้ดีที่สุด
ขอขอบคุณ
- บทความของวัลลย์
- นิยาย Dek-D
โฆษณา