1 ส.ค. 2020 เวลา 16:17 • สุขภาพ
รัสเซียออกข่าวว่า จะเป็นชาติแรกที่คิดค้นวัคซีนโควิด-19 สำเร็จ เป็นความจริง
หรือเป็นเรื่องการเมือง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย(M.Murashko)ให้สัมภาษณ์ว่า รัสเซียกำลังจะจดทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ในต้นเดือนสิงหาคม 2563 และเริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นไป
โดยอ้างว่าหน่วยงานวิจัยของรัฐ(Gamaleya Institute) ในกรุงมอสโกได้ทำการศึกษาวิจัยวัคซีนที่เรียกว่า “การทดลองทางคลินิก”(Clinical Trials) เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากทำงานเอกสารอีกเล็กน้อย ก็พร้อมที่จะทำการจดทะเบียนเพื่อฉีดวัคซีนต่อไปได้
หลังจากนั้นจะมีการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มของแพทย์และครู ในช่วงเดือนตุลาคม 2563
ซึ่งวัคซีนนี้เป็นการใช้เทคโนโลยีแบบ Adenovirus-based แต่เมื่อตรวจสอบถ้อยคำทางวิชาการแล้วพบว่า การแถลงข่าวใช้คำว่า Large Scale Trials ซึ่งน่าจะหมายถึงการทดลองวิจัยวัคซีนในอาสาสมัครเฟสสาม
ผู้อำนวยการ RDIF(The Russian Direct Investment Fund ) กล่าวว่าวันที่ 10-12 สิงหาคมจะทำการจดทะเบียนวัคซีน และ 15 สิงหาคมจะฉีดให้กับประชาชนทั่วไปได้
ผอ.RDIF ยังกล่าวต่อไปว่า ทางสถาบันไม่ได้ย่อหย่อนเรื่องความปลอดภัยของการผลิตวัคซีน
ได้ทำตามขั้นตอนของการวิจัยทุกประการ
และกล่าวอีกว่า วัคซีนครั้งนี้เป็นความสำเร็จในระดับเดียวกับการปล่อยดาวเทียมสปุกนิก(Sputnik)เมื่อปี 1957 ซึ่งสามารถตัดหน้าสหรัฐอเมริกาไปเพียงนิดเดียว
ความสำเร็จในสมัยนั้นเกิดจากความเป็นอัจฉริยะของนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย และในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ความสำเร็จของวัคซีนโควิด-19 ก็มาจากความเป็นอัจฉริยะของนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย
ผู้เขียนได้ลองทบทวนการแถลงข่าวทั้งหมด แล้วนำองค์ความรู้ทางวิชาการแพทย์เรื่องการวิจัยพัฒนาวัคซีนมาพิจารณาประกอบกัน เห็นว่าการแถลงข่าวทั้งหมดเข้าได้กับการเสร็จสิ้นการทดลองวิจัยวัคซีนในอาสาสมัครเฟสสอง ซึ่งใช้จำนวนประชากรหลัก 1000 คน และจะเริ่มทำการทดลองในเฟสสาม ประชากรอาสาสมัครจำนวนนับ 10,000 คน
แต่การแถลงข่าวครั้งนี้ ทำให้การทดลองวิจัยในเฟสสาม มีลักษณะเหมือนเป็นขั้นตอนที่จะฉีดให้กับประชาชนทั่วไปแล้ว
ขณะนี้มี 4 โครงการของโลก ที่กำลังทดลองอยู่ในเฟสสามอยู่แล้ว ได้แก่โครงการของจีน 2 โครงการสหรัฐฯ 1 โครงการ และอังกฤษอีก 1 โครงการ
วัคซีนของรัสเซียที่กล่าวถึงนี้ จึงไม่ใช่วัคซีนลำดับที่หนึ่งที่จะประกาศความสำเร็จว่าเป็นวัคซีนโควิด-19 อันแรกของโลก ถ้าเป็นจริงก็คงจะเป็นได้เพียงลำดับที่ 5
การออกข่าวทำนองนี้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศของสามยักษ์ใหญ่ของโลกคือ รัสเซีย จีน และสหรัฐอเมริกา ที่พยายามแย่งพื้นที่ข่าว สร้างความน่าเชื่อถือของการเป็นประเทศชั้นนำทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่สามารถผลิตวัคซีนได้เป็นประเทศแรกของโลกครับ
Reference
โฆษณา