3 ส.ค. 2020 เวลา 06:32 • การศึกษา
#เราควรมีทุนประกันชีวิตเท่าไหร่และเลือกประกันแบบไหนดี
1️⃣ ทุนประกันชีวิต มีวิธีหา 3 วิธีคือ
(1)5เท่าของรายได้ต่อปี
เพื่อให้ คู่สมรสมีเวลา 5 ปีที่จะใช้ชีวิตเหมือนเดิมพร้อมไปกับหาทางสร้างรายได้มาชดเชยรายได้ที่หายไป
(2)Human Life Value Approach หรือ Human Capital Approach
วิธีนี้ถือว่า คนเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าเพราะสามารถสร้างรายได้ในอนาคต จึงต้องใช้ TVM มาประเมินหารายได้ในอนาคต เช่น
ตอนนี้อายุ 30 มีรายได้เดือนละ 35,000 บาท ทำงานไปเรื่อยๆถึงอายุ 60 ควรมีทุนประกันชีวิตเท่าไหร่
=> ตั้งแต่อายุ 30 - 60 มีเวลาทำงานรวม 30 ปีหรือ 360 เดือน
=> สมมติเงินเดือน #คงที่ 35,000 บาท เวลา 360 เดือน เรามีรายได้ให้ครอบครัวอย่างน้อย 35,000 x 360 = 12,600,000 บาท (ยังไม่รวมรายได้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต)
ถ้าอายุ 31 เสียชีวิต เงิน 12,600,000 บาทที่ครอบครัวจะได้รับก็หายไปด้วย ดังนั้น เราควรซื้อทุนประกันไว้ที่ 12,600,000 บาท
=> กรณีเงินเดือน #ไม่คงที่ จึงต้องกำหนด เงื่อนไขเพิ่มอีก 2 ตัวคือ อัตราการขึ้นของเงินเดือน สมมติว่า 3% ต่อปี และ อัตราดอกเบี้ยธนาคาร สมมติว่า 1% ต่อปี และหา อัตราปรัยปรุง(Ir) = (1-3)%/1.03 = -1.94%
นำไปแทนค่าจะได้ มูลค่าปัจจุบันของเงินเดือน 30 ปีเป็นจำนวน 16,981,020
ดังนั้นควรทำทุนประกันที่ 16,981,020 ไม่ใช่ 12.6 ล้าน
(3)วิธีคำนวณเหมือนวิธีที่ (2) แต่ใช้ ค่าใช้จ่าย แทน รายได้ แปลว่า วิธีนี้ จะให้ผลลัพธ์น้อยกว่าวิธีที่ (2) เพราะคนเราควรจะมีรายจ่ายน้อยกว่ารายได้
2️⃣เลือกแบบประกันชีวิตที่ชอบ
🔅แบบชั่วระยะเวลา(เทอม) : เบี้ยประกันปีละ 41,434 บาท จ่าย 20 ปี คุ้มครอง 20 ปี สิ่งที่จะได้รับ
=> การเสียชีวิตภายใน 20 ปี มีเงินก้อนดูแลครอบครัว 16,981,020 บาท
=> หากมีชีวิตอยู่จนครบ 20 ปี จะไม่ได้อะไรคืนเลย จ่ายเงินทั้งหมด 828,680 เพื่อ #ซื้อ ความคุ้มครอง
🔅แบบตลอดชีพ : เลือกระยะเวลาชำระเบี้ยได้ตั้งแต่ 10ปี, 20ปี, ถึงอายุ 90 และ ถึงอายุ 99 แบบที่มีระยะเวลาส่งเบี้ยยิ่งนาน อัตราเบี้ยยิ่งถูก เช่น แบบชำระเบี้ยถึงอายุ 99 ทุนที่ต้องการคิดเบี้ยปีละ 174,055(ถูกที่สุดในบรรดาแบบตลอดชีพ) และสามารถใช้มูลค่าเวนคืน, ใช้เงินสำเร็จ มา apply สร้างอรรถประโยชน์ได้ ขึ้นกับความเชี่ยวชาญของตัวแทน
🔅แบบควบการลงทุน : เบี้ยประกันปีละ 169,810 บาท ต้องการจ่ายกี่ปีก็ได้ แต่ควรจ่ายอย่างน้อย 20 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 สิ่งที่เราจะได้รับ
=> การเสียชีวิตได้รับ 16,981,020 + เงินจากการขายกองทุนรวม(ถ้ามีเหลือ)
=> เมื่อเกษียณหรือเมื่อไหร่ก็ได้ที่ไม่ต้องมีความคุ้มครองแล้ว สามารถปิดบัญชี รับมูลค่าคงเหลือของกองทุนที่เลือกลงทุนได้ มากน้อย ไม่มีใครทราบ เพราะการลงทุนในกองทุนรวมมีความผันผวนตลอดเวลา อาจไม่เหลือเลยก็ได้
🔅แบบไฮบริด(ตลอดชีพ99/99ผสมเทอม) : โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงตามอายุดังนี้
=> อายุ 30-50
99/99 ทุน 2,830,170 เบี้ยปีละ 29,009
เทอม20ปี ทุน 14,150,850 เบี้ยปีละ 34,528
รวมเป็นทุน 16,981,020 รวมเป็นเบี้ยปีละ 63,537
และรวมเบี้ย 20 ปีเป็น 1,270,740
=> อายุ 50-60
99/99 ทุน 2,830,170 เบี้ยปีละ 29,009(ส่งต่อจนถึงอายุ 60)
เทอม10ปี ทุน 5,467,719 เบี้ยปีละ 28,541
รวมเป็นทุน 8,297,889 รวมเป็นเบี้ยปีละ 57,550
และรวมเบี้ย 10 ปีเป็น 575,500
#หมายเหตุ คำนวณ Present Value ของ Human Capital ช่วงอายุ 50-60 ณ อายุ 50 ได้ที่ 8,297,889
=>รวมทั้ง 2 ช่วง ชำระเบี้ยทั้งหมด 1,846,240 บาท
เมื่อถึงอายุ 60 แปลง 99/99 เป็น มูลค่าใช้เงินสำเร็จ กลายเป็นมรดกติดตัวทุน 2,091,495.63 ไปตลอดชีวิต แปลว่า เบี้ยประกันที่ชำระมาทั้งหมดไม่ได้หายไปไหน แต่กลายเป็นมรดกติดตัว กำไรนิดหน่อย
หรือหากต้องการใช้เงินสามารถเวนคืนรับเงินจำนวน 1,007,540.52 ซึ่งขาดทุน 838,699.48 เฉลี่ย 30 ปีเป็นค่าความคุ้มครองเพียงปีละ 27,956.65 เท่านั้นเอง
#สรุป: จะพบว่า
*แบบที่เบี้ยน้อยที่สุดคือ แบบชั่วระยะเวลา แต่จ่ายทิ้งทุกปี ๆ ละ 41,434 และระยะเวลาคุ้มครองเพียง 20 ปี ต้องทำเพิ่มอีก 10 ปี เบี้ยจะเพิ่มเป็นปีละ 43,315(ทุน 8,297,889) รวม 30 ปีจ่ายทิ้ง 1,261,830
*แบบที่เบี้ยน้อยรองลงมาคือ แบบไฮบริด จ่ายเบี้ยปีละไม่ถึง 7 หมื่น รวมเบี้ยทั้งโครงการ 1,846,240 และเบี้ยถูกแปลงเป็น มรดก ณ อายุ 60วงเงิน 2,091,495.63 ติดตัวไปจนถึงอายุ 99
*แบบควบการลงทุน จ่ายเบี้ยหลักแสน แต่มีโอกาสรับผลกำไรจากการลงทุน พร้อมไปกับ โอกาส ขาดทุน
*แบบตลอดชีพ เบี้ยสูงที่สุด 174,055 แต่อาจแปลงเป็นมูลค่าสำเร็จ ณ อายุ 20 ทุนประกันลดเหลือ 9,560,314.26 แปลว่า จ่ายเบี้ยทั้งโครงการ 3,481,100 ทายาทรอรับเพิ่มเกือบ 3 เท่าตัว
ก็ลองพิจารณาว่า ชอบแบบไหน สนใจแบบไฮบริด ต้องการให้คำนวณส่วนผสมของตัวท่านเอง ส่งรายละเอียดมา
โฆษณา