9 ส.ค. 2020 เวลา 02:08
Future is Now
อำนาจเศรษฐกิจของผู้หญิงในยุค SHE Economy
เริ่มด้วยการเตรียมความพร้อมให้ตัวเอง
ผมได้รับหนังสือ "ลมหนาวในฤดูร้อน" ของคุณลมเปลี่ยนทิศ นามปากกาที่เป็นที่รู้จักของคนอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ แต่สำหรับคนในแวดวงการเงินการลงทุนน่าจะรู้จักเจ้าของนามปากกานี้ในชื่อของ คุณสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ผู้ก่อตั้งวารสารการเงินธนาคาร ประธานจัดงาน Money Expo
ขอนำบทความหนึ่งในหนังสือ "ลมหนาวในฤดูร้อน" มาขยายความต่อนะครับ
Credit : Pexels.com
ในบทความที่ชื่อ "อำนาจเศรษฐกิจของผู้หญิง" ที่คุณลมเปลี่ยนทิศตีพิมพ์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 บอกว่าปัจจุบันนี้ผู้หญิงเป็นผู้มีกำลังซื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก อำนาจซื้อของผู้หญิงเป็นพลังสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลกหลังวิกฤติโควิด-19 กิจกรรมการตลาดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อรองรับอำนาจซื้อของผู้หญิงที่จะขึ้นมาครองอำนาจเศรษฐกิจโลก
บทความนี้พูดถึงข้อมูลที่น่าสนใจ คือ
ปัจจุบันผู้หญิงจีนมีอำนาจการตัดสินใจซื้อข้าวของต่างๆ คิดเป็นสัดส่วน 3 ใน 4 ของการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือน
ผู้หญิงจีนเข้าสู่ตลาดแรงงานสูงถึง 80% เทียบกับอัตราเฉลี่ยของโลกที่ 62%
ผู้หญิงครองความมั่งคั่งส่วนบุคคลในสัดส่วนมากกว่า 60%
ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของผู้หญิงที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม
อำนาจด้านการเงินของผู้หญิงที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการเปิดกว้างด้านการศึกษาและการที่ผู้หญิงเข้าสู่โลกการทำงานเป็นปัจจัยสำคัญ ในปัจจุบันผู้หญิงมีบทบาทและได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้น ไม่เฉพาะแต่ด้านการดูแลครอบครัวแต่ยังรวมถึงหน้าที่การงานและโอกาสการทำงานที่มากขึ้น
Credit : Pexels.com
ฮาร์วาร์ด บิสซิเนส รีวิว รายงานว่า ปัจจุบันผู้หญิงเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเองสูงกว่า 80% สำหรับการซื้อสินค้าต่าง ๆ รวมถึงในสินค้าประเภทที่อยู่อาศัย รถ อาหาร เฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งแพ็คเกจท่องเที่ยว
แต่ก่อนที่ผู้หญิงจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลกหลังวิกฤติโควิด-19 และขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ ผู้หญิงควรวางแผนเตรียมพร้อมให้กับตัวเองก่อนนะครับ โลกแห่งเงินตรา หากเราขาดเงินเราก็จะใช้ชีวิตได้ยากลำบาก
🔘 รายจ่ายที่แตกต่าง ระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย
ลองดูคลิปที่ นิตยสาร Glamour เผยแพร่เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของ ผู้หญิงและผู้ชายอเมริกัน ที่มีอายุเท่ากันและอาชีพเหมือนๆ กัน ค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ตั้งแต่ตื่นนอนจนออกจากบ้าน ผู้หญิงมีค่าใช้จ่ายประมาณ USD2,900ต่อปี ในขณะที่ผู้ชายมีค่าใช้จ่ายประมาณ USD1,200ต่อปี (ถ้าสนใจดู คลิกตามนี้ครับ https://youtu.be/e7jfCp8sKOE) ยังไม่นับรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ค่าใช้จ่ายของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่ผู้หญิงมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่มากกว่าผู้ชาย เราลองหยิบกระดาษมาจดค่าใช้จ่ายของเราดูนะครับว่าแต่ละปีใช้เงินกับสิ่งเหล่านี้ไปเท่าไหร่บ้าง
Credit : https://youtu.be/e7jfCp8sKOE
ทราบรายจ่ายแล้วก็ต้องดูรายได้ด้วย ผลการศึกษาทำให้เราทราบว่าในประเทศส่วนใหญ่ผู้หญิงมีรายได้เฉลี่ยที่ต่ำกว่าผู้ชายประมาณ 15% แต่สำหรับผู้หญิงไทยนั้นโชคดีที่ช่องว่างของรายได้ระหว่างชายและหญิงในประเทศไทยได้ลดลงมาตลอดเวลาจนเกิดความเท่าเทียมของรายได้ในปัจจุบัน เมื่อรายได้เท่ากันแต่การที่ผู้หญิงต้องจ่ายเงินกับเรื่องส่วนตัวมากกว่า ผลทำให้ผู้หญิงเหลือเงินสำหรับด้านอื่นๆ น้อยกว่า
🔘 ความแตกต่างของการใช้เงินระหว่างชายและหญิงเมื่อมีครอบครัว
ในช่วงที่ยังไม่มีลูก ผู้หญิงจะยังมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ที่หมดไปกับเรื่องของการแต่งกายและของใช้จุกจิก แต่หลังการมีลูก ผู้หญิงจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้เงินที่เน้นให้กับลูก จะเริ่มเก็บออมและวางแผนการเงินในอนาคต ในขณะที่ผู้ชายยังคงไม่ควบคุมการใช้เงินของตนเองหลังการมีลูก
หลังการแต่งงานรูปแบบการใช้จ่ายระหว่างหญิงและชายมีแนวโน้มของการแบ่งประเภทการใช้เงินที่แตกต่างชัดเจน ภรรยามักใช้จ่ายสำหรับสิ่งของเครื่องใช้ในบ้าน อาหาร และค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต ค่าบ้าน ค่ารถ ซึ่งเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้นเป็นประจำตามปกติ ขณะที่เรื่องใหญ่ ๆ เช่น การกู้ยืมเพื่อซื้อรถซื้อบ้าน การวางแผนการเงิน เป็นหน้าที่ของสามี
🔘 สัดส่วนหญฺิงมากกว่าชายในกลุ่มสูงอายุของไทย
ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในกลุ่มอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ขณะที่กลุ่มประชากรที่มีอายุไม่เกิน 60 ปี ไทยมีสัดส่วนประชากรชายและหญิงที่ไม่แตกต่างกัน สาเหตุที่สัดส่วนผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในกลุ่มสูงอายุเกิดจากการที่ผู้หญิงมีอายุเฉลี่ยที่ยืนยาวกว่าผู้ชายเป็นสาเหตุหลัก
ฉะนั้นจำนวนเงินที่ต้องใช้จ่ายหลังเกษียณของเพศหญิงจึงมากกว่าเพศชาย นอกจากนี้ผู้หญิงมีสถิติการเจ็บป่วยที่มากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจึงต้องเตรียมเงินไว้มากกว่า
Credit : www.hfocus.org
ผู้หญิงยุคใหม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางการเงิน รู้จักเครื่องมือทางการเงินต่างๆ และรู้วิธีใช้เครื่องมือเหล่านี้บริหารเงินออมที่กันสะสมไว้ให้งอกเงย และที่สำคัญต้องรู้จักการออมให้เพียงพอ ด้วยหลักการ 3 ข้อ ดังนี้
⚪ สร้างทัศนคติที่ดีทางการเงิน : โดยธรรมชาติผู้หญิงมีความละเอียดในตัว และส่วนใหญ่ผู้หญิงคือผู้เก็บรักษาเงินของครอบครัว หากผู้หญิงศึกษาเรื่องการเงิน ก็จะสร้างผลตอบแทนของเงินออมได้มากขึ้น
⚪ ฝึกวินัยทางการเงินที่ดี : คิดก่อนใช้ ออมก่อนใช้ คือหัวใจสำคัญของพฤติกรรมทางการเงินที่ดี เพื่อให้มีเงินออมที่เพียงพอ อย่าหลงไปกับแคมเปญโปรโมชั่นทั้งหลาย และไม่ก่อหนี้โดยไม่จำเป็น
⚪ วางแผนค่าใช้จ่าย : แม้เราจะออมก่อนใช้แล้ว แต่เราก็ยังสามารถแยกค่าใช้จ่ายออกเป็น ค่าใช้จ่ายจำเป็น ค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น ค่าใช้จ่ายคงที่ ค่าใช้จ่ายผันแปร ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุน เพื่อเราจะได้บริหารค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทให้เหมาะสม และอาจทำให้เห็นรอยรั่วไหลของเงินที่เราอาจไม่ทันสังเกตได้
Credit : Pexels.com
หลักการทั้งสามนี้จะทำให้ผู้หญิงทุกคนสามารถสร้างความพร้อมให้ตัวเองและยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างสมดุลครับ
มาเตรียมตัวเองให้พร้อมกันนะครับ...
โฆษณา