5 ส.ค. 2020 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
นายกฯ เวียดนาม ต่อสายตรง นายกฯ ญี่ปุ่น กระชับความสัมพันธ์
ฝันร้ายของจีน (และไทย)?
ดูเหมือนว่าญี่ปุ่น จะสนิทสนมกับเวียดนามเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา นายเหงียน ซวน ฟุก นายกฯเวียดนาม ต่อสายตรงคุยกับ ชินโสะ อาเบะ นายกฯ ญี่ปุ่น เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศ รวมไปถึงความร่วมมือระดับภูมิภาค และระดับโลกอีกด้วย
เรื่องที่ญี่ปุ่น สนับสนุนให้บริษัทของญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตออกจากจีน และแนะนำให้ย้ายไปเวียดนามแทน สร้างความกังวลให้จีนเป็นอย่างมาก
ทั้งๆ ที่จีนเอง ก็เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น และญี่ปุ่นเอง เป็นคู่ค้าลำดับที่สองของจีน แต่วันนี้ทั้งคู่กำลังจะแยกทางจากกัน...
ญี่ปุ่นย้ายอะไรออกจากจีนแล้วบ้าง แล้วทำไมถึงได้เมินไทย (แบบน่าน้อยใจ) หนีไปเวียดนามแทน เราลองไปติดตามกันเลย
=====================
ผู้นำเข้า ส่งออก หาขนส่งมืออาชีพ
นึกถึง ZUPPORTS
=====================
1) ญี่ปุ่น ประกาศสนับสนุนเงินลงทุนกว่า มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ให้ 87 บริษัท ขยายฐานการผลิตออกจากจีน โดยมีทางเลือกให้กลับประเทศญี่ปุ่น หรือไม่ก็ย้ายมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวอย่างบริษัทที่ย้ายไปเวียดนามแล้วก็อย่างเช่น บริษัทผลิตปรินต์เตอร์ อย่าง Brother, Kyocera, และ Fuji Xerox ที่ย้ายหนีจีนไปเวียดนามแทน
2) มูลค่าการลงทุน ของบริษัทที่ย้ายออกไปจริงๆ แล้วยังมีไม่ถึง 1% ของการลงทุนในจีน แต่หากยังย้ายหนีไปเรื่อยๆ ก็น่ากังวลอยู่เหมือนกัน
3) จริงๆ แล้วการย้ายฐานการผลิต เริ่มมาได้หลายปี ตั้งแต่ที่ทรัมป์ ประกาศสงครามการค้ากับจีน นอกจากนี้ ความได้เปรียบของจีนในแง่การเป็นประเทศที่มีค่าแรงถูกได้หายไปแล้ว โดยหากมองประเทศในอาเซียน เอง ก็พบว่า มีค่าแรงในสัดส่วนเพียง 40% ของจีนเท่านั้น
4) พอมีเรื่องโควิดเข้ามา ยิ่งทำให้บริษัทต่างๆ ไม่กล้าพึ่งพาฐานการผลิต แหล่งเดียวอีกต่อไป หลายๆ บริษัท คิดถึงการย้ายฐานการผลิตกลับไปให้ใกล้ลูกค้าให้มากที่สุด คือ เปลี่ยนจาก Offshoring มาเป็น Nearshoring
5) หากลองดูข้อมูล บริษัทญี่ปุ่นที่ย้ายออกจากจีน จะพบว่า 57 บริษัท ย้ายกลับญี่ปุ่น และอีก 30 บริษัท วางแผนย้ายมาอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม พม่า ลาว และไทย (ก็ยังพอมาไทยนะ)
6) ที่น่าสนใจคือ บริษัทญี่ปุ่นที่ย้ายออกจากจีนรอบนี้กว่า 70% เป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก และ 2 ใน 3 เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยคงมีการย้ายออกจากจีนอีกหลายระลอก
7) ตัวเลขบริษัทญี่ปุ่นในจีน ลดลงจาก 14,394 บริษัท ในปี ค.ศ.2012 เหลือประมาณ 13,685 บริษัทในปี 2019
8) ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่น ที่เริ่มย้ายออกจากจีน แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุง ก็ได้ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล จากจีน ไปยังเวียดนาม เพื่อลดต้นทุนการผลิต
9) สำหรับเวียดนาม อย่างที่เราทราบ เป็นประเทศที่เนื้อหอมสุดๆ โดยญี่ปุ่นเอง ก็ได้ผ่อนคลายมาตรการทางการเดินทางเข้าญี่ปุ่น ให้กับแรงงานเวียดนามเป็นประเทศแรกๆ
10) นอกจากนี้ทั้งสองประเทศ ยังเป็นประเทศแกนนำในการทำข้อตกลงทางการค้า CPTPP และเวียดนามเองก็ยังมีข้อตกลงการค้าเสรีกับทางสหภาพยุโรป ทำให้การตัดสินใจย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม ดูจะเป็นทางเลือก ที่เหมาะสมสำหรับบริษัทญี่ปุ่น ที่จะใช้เวียดนามเป็นฐานการผลิต สำรองจากจีนได้
11) จริงๆ แล้ว บริษัทไทยเอง ก็ยังขยายฐานการผลิตไปที่เวียดนามด้วยเหมือนกัน โดยบริษัทไทยมีการลงทุนในเวียดนามสะสมกว่า 567 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4 แสนล้านบาท เป็นอันดับ 9 ในเวียดนามจากทั้งหมด 136 ประเทศ
ก็เป็นประเด็นที่น่ากังวล หากเวียดนามเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ โดยญี่ปุ่นเอง ก็เป็นคู่ค้าลำดับที่ 2 ของไทย มูลค่าการค้ากว่า 2 ล้านล้านบาท และมีบริษัทญี่ปุ่นอยุ่ในไทยกว่า 6,000 กิจการ โดยการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดก็คือ อุตสาหกรรมรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น ที่ทุกคนคุ้นเคย
แต่โลกกำลังเปลี่ยนไป อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า กำลังเข้ามาแทนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ซึ่งดูเหมือนเหล่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะเดินเกมช้าไปหลายก้าว แล้วพอมีอตุสาหกรรมใหม่ๆ ญี่ปุ่นก็ดันเลือกที่จะไปลงทุนที่เวียดนามซะอีก ไม่มาไทย
ผู้ประกอบการไทย คงต้องมองเกมให้ออก และปรับตัวให้ทัน คงต้องเลือกไปหาปลาในที่ๆ มีปลา การก้าวออกไปลงทุนในอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม หรือออกไปทำตลาดใน CLMV ก็น่าจะเป็นตัวช่วย ที่ทำให้ธุรกิจได้ไปต่อ!
=====================
ผู้นำเข้า ส่งออก หาขนส่งมืออาชีพ
นึกถึง ZUPPORTS
=====================
อ่านบทความย้อนหลังได้ที่
นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า marketplace
โฆษณา