5 ส.ค. 2020 เวลา 15:51 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
DAILY CHART : เป้าหมายในการเข้าซื้อ TikTok ของ Microsoft ครั้งนี้ ถือเป็นข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลทางการเมือง และอาจมีมูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งนับว่าสูงที่สุดตั้งแต่พวกเขาก่อตั้งบริษัทขึ้นมา
เรื่องการเมืองภายใต้กรอบของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่สภาวะเปราะบางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งถูกกล่าวหาอย่างยาวนานว่าพวกเขาได้ละเมิดสิทธิของบริษัทขนาดเล็กและกลาง โดยการใช้อำนาจซึ่งมีอยู่อย่างโดดเด่นของพวกเขากีดกันคู่แข่งทางการตลาดที่มีขนาดเล็กกว่า
The Economist รายงานว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีได้ใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ของพวกเขาเพื่อซื้อกิจการของบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่า โดยเฉพาะ Microsoft ที่มีความหิวกระหายมากที่สุด
โดยมีบริษัท 4 แห่งที่ถูกสอบสวนเรื่องนี้โดยสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ
1. Apple
2. Amazon
3. Alphabet
4. Facebook
ยักษ์ใหญ่ทั้ง 4 ได้ถูกรุมเร้าไปด้วยข้อกล่าวหาที่มีอคติจากกลุ่มบริษัทขนาดเล็กและกลาง ขณะที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ได้ออกมายอมรับถึงการเติบโตทางด้านเทคโนโลยีในประเทศจีน ว่ากำลังเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลอย่างมาก และถือเป็นภัยคุกคามต่อทั้งความสามารถในการแข่งขันและความมั่นคงของสหรัฐฯ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา บทบาทด้านการต่อต้านประเทศจีนได้ทวีความรุนแรงเข้าสู่ระดับใหม่ โดย Microsoft ดูเหมือนว่าต้องการจะเข้าซื้อกิจการ TikTok ภายในสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งบริษัท ByteDance Ltd. ของจีนเป็นเจ้าของอยู่ ณ ปัจจุบันนี้
TikTok คือแอพที่ได้รับความนิยมสูงสุดไปทั่วโลกในหมู่วัยรุ่น ณ ขณะนี้ และยังเป็นแอพที่มีมีการเสพติด (Stickness) โดยผู้ใช้งานเกือบทั้งหมด กล่าวคือเมื่อใช้งานแอพนี้เป็นครั้งแรกแล้วก็จะต้องกลับมาใช้งานอีกบ่อย ๆ
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะสั่งปิดการใช้งาน TikTok ทั้งหมดภายในสหรัฐฯ หลังจากวันที่ 15 กันยายน 2020 นอกจากว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะถูกซื้อไปโดยบริษัทสัญชาติอเมริกัน นอกจากนี้ยังได้กล่าวว่ากระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จะต้องได้รับผลกำไรอย่างมหาศาลในการเข้าซื้อครั้งนี้
เหตุผลที่ทรัมป์ไม่พอใจ ByteDance Ltd. ก็เพราะว่าเขาได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของบริษัทดังกล่าวกับรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party, CCP) ขณะที่ ByteDance ได้ตอบโต้ว่า Software ของพวกเขาไม่ได้มีการสอดแนมผู้ใช้และไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ต่อ CCP
นอกจากนี้ TikTok และแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ อีก 58 รายการได้ถูกสั่งแบนในประเทศอินเดียเช่นกันในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลกลัวว่าบริษัทจะมีการละเมิดอธิปไตยและความมั่นคงของอินเดีย ซึ่งในขณะนั้นทั้งจีนและอินเดียต่างก็มีข้อพิพาทเรื่องดินแดนกันอยู่
ส่วนท่าทีที่แข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้เป็นสัญญาณที่ยืนยันว่า ByteDance จะต้องละทิ้งการบริหาร TikTok ภายในสหรัฐฯ อเมริกาอย่างแน่นอน ขณะที่จีนกล่าวว่านี่คือการปล้นกันโดยซึ่ง ๆ หน้า และ Microsoft ระบุว่าพวกเขากำลังต้องการความมั่นใจว่ารัฐบาลปักกิ่งจะไม่ตอบโต้กับธุรกิจของพวกเขาในประเทศจีน
ผู้ถือหุ้นของ Microsoft ดูเหมือนจะยินดีและส่งเสริมอย่างมากในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางการเมืองและราคาซื้อเบื้องต้นที่คาดการณ์ไว้ว่าสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์
ซึ่งหาก Deal นี้ประสบความสำเร็จขึ้นมาจริง ๆ แล้วละก็ มูลค่าการเข้าซื้อดังกล่าวจะคิดเป็นมากกว่า 2 เท่าของการเข้าซื้อ LinkedIn เมื่อปี 2016 ด้วยมูลค่า 2.44 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็น Deal ที่มีมูลค่าสูงที่สุดของพวกเขา ณ ปัจจุบันนี้
มูลค่าหุ้นของ Microsoft เพิ่มขึ้น 4% หลังจากมีการประกาศความคาดหวังของพวกเขาในการเข้าซื้อ TikTok และทำให้มูลค่าโดยรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์
โดยรวมแล้วทั้ง 5 บริษัททางด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ คือ Apple, Alphabet, Amazon, Facebook และ Microsoft ได้ทำการเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นจำนวนมาก (ดูได้จากภาพ) ซึ่งเรื่องนี้ก็คือขอร้องเรียนของสมาชิกฝ่าย Democrats ในสภาคองเกรสนั่นเอง
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
อยากลงทุน อยากมีเงินเก็บอย่างจริงจัง แต่ไม่มีพื้นฐาน World Maker มีคอร์สเรียนดี ๆ มาแนะนำให้ครับ รายละเอียดคลิกเลย !!
โฆษณา