6 ส.ค. 2020 เวลา 23:42 • ธุรกิจ
ทำความรู้จักธุรกิจ “โรงไฟฟ้าขยะ”
กับ ETC หุ้นพลังงานตัวใหม่ ! หัวใจสีเขียว
ถือว่าเป็นหุ้นจ่อ IPO อีกตัวหนึ่งที่กำลังมีความสดใหม่เลยทีเดียวครับกับ ETC ที่มาในตีมสดใส รักโลก
เนื่องจากว่าเพื่อนๆก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า “โรงไฟฟ้า” คืออุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มว่าจะอยู่รอดและเติบโตได้ในระยะยาว
เพราะยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ มนุษย์เราก็ยิ่งแสวงหาพลังงานที่บริสุทธิ์และสร้างมลภาวะน้อยลงให้กับธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น เริ่มตระหนักกันแล้วว่า “สุขภาพ” ของโลกเราตอนนี้มันย่ำแย่แค่ไหน
และเดี๋ยววันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ ETC หรือบมจ. เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ กัน จะมีความน่าสนใจแค่ไหน ? และธุรกิจของพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง ??
ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปลุยกันเลยครับ...
โดยที่ ETC ก็จะเป็นบริษัทในเครือของ BWG (บมจ. เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน) ที่เป็นผู้ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอย่าง “ขยะ” ทั้งขยะอุตสาหกรรม(ที่ไม่เป็นอันตราย) และขยะชุมชน
ปัจจุบัน ETC มีกำลังการผลิตรวมอยู่ทั้งหมด 20.4 เมกะวัตต์ ที่จะอยู่ในรูปแบบของผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก(VSPP) ซึ่งจะมีโรงไฟฟ้าอยู่ทั้งหมด 3 แห่งได้แก่ ETC ที่นิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย สระบุรี, RH ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร พระนครศรีอยุธยา และ EVA ที่นิคมอุตสาหกรรมพิจิตร จังหวัดพิจิตร
ซึ่งลูกค้าหลักคนสำคัญของ ETC ก็คือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่มีสัญญาในการรับซื้อไฟราวๆ 3 เมกะวัตต์ยาวไปอีก20 ปีโดยจะจ่ายเป็นแบบ FiT(Feed-in Tariff) ที่เป็นการส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนด้วยการรับซื้อไฟฟ้าใน “อัตราคงที่” ไปตลอดระยะสัญญาและอาจจะเพิ่มขึ้นได้ตามอัตราเงินเฟ้อ
โดยอัตราการรับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT ก็จะถือว่าเป็นอัตราการรับซื้อในราคาที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่น
นอกจากนี้ ETC ยังมีบริษัทย่อยชื่อว่าบจ. เอิร์ธ เอ็นจิเนีย แอนด์ คอนสตรัคชั่น ที่เป็นผู้ออกแบบ, จัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์, ก่อสร้าง และให้บริการบริหารดูแลซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าอยู่อีกด้วย ส่งผลให้ ETC เป็นเจ้าของธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะที่ครบวงจรที่สุดเจ้าหนึ่ง
💰 งบการเงินของ ETC
ปี 60 รายได้ 184 ล้านบาท
ขาดทุน 3 ล้านบาท
ปี 61 รายได้ 326 ล้านบาท
กำไร 65 ล้านบาท
ปี 62 รายได้ 370 ล้านบาท
กำไร 56 ล้านบาท
(ล่าสุด)ไตรมาส 1 ปี 2563
รายได้ 134 ล้านบาท
กำไร 24 ล้านบาท
สาเหตุของการขาดทุนในปีพ.ศ. 2560 ก็จะมาจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่เพิ่งจะเปิดมาได้ 7 เดือน(ในขณะนั้น) หลังจากนั้น ETC ก็เติบโตขึ้นมาได้และมาสะดุดเอาในปีพ.ศ. 2562 จากรายการวัสดุสิ้นเปลืองและต้นทุนในการบริหารอื่นๆ
สำหรับแผนการในเติบโต คุณ “เอกรินทร์ เหลืองวิริยะ” ซีอีโอของทางบริษัทก็ยังมีความมั่นใจว่า ETC นั้นได้เติบโตมาตามแผนของทั้งบริษัทเองและแผนของประเทศ อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้เติบโตไปได้อีกในอนาคตเนื่องจากว่า“ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” ก็มีส่วนของโรงงานไฟฟ้าจากพลังงานขยะรวมอยู่ในนั้น
และ ETC ก็จะเป็นผู้ที่พร้อมที่สุดด้วยประสบการณ์ที่มากถึง 16 ปี(บริษัทก่อตั้งเมื่อพ.ศ. 2547)
โดยการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ทาง ETC ก็จะทำการเสนอขายหุ้นในจำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น26.79% พ่วงด้วยหุ้นสามัญส่วนเกิน(กรีนชูส์) อีกไม่เกิน 60 ล้านหุ้นที่ราคา 2.60 บาท หรือคิดเป็นระดับ P/E 85.82 เท่า
ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราก็น่าจะได้เห็น ETC เข้าซื้อ-ขายกันในตลาด MAI ในวันที่ 18 สิงหาคม 63 นี้ และหลังจากที่ETC ได้เงินก้อนนี้ไปราวๆ 1,480 ล้านบาทนั้น สัดส่วนเงินที่เยอะที่สุดก็จะถูกนำไปใช้ในการชยายธุรกิจของ ETC และบริษัทย่อยต่อไป ที่เหลือจะเป็นการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและชำระหนี้เงินกู้
เรียกได้ว่าเป็นหุ้นพลังงานไฟฟ้าจากขยะอันดับ 1 ของประเทศเลยก็ว่าได้ และนอกจากนี้ ETC ก็ยังจะมีความได้เปรียบจากต้นทุนเชื้อเพลิงหลักที่เป็นขยะ RDF เพราะบริษัทแม่อย่าง BWG ก็ถือว่าเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจบริหารกำจัดกากอุตสาหกรรมของไทย
1
สำหรับใครที่สนใจหุ้นสีเขียวอย่าง ETC ก็คงจะต้องไปศึกษากันว่าประเด็นการเติบโตขึ้นไปกับยุทธศาสตร์ชาตินั้นมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน
หรือมีประเด็นอะไรที่จะเป็นความเสี่ยงที่น่ากลัวได้หรือไม่ ??
การ Spin-off บริษัทลูกออกมายืนด้วยขาตัวเองเช่นนี้จะทำให้ทั้ง ETC และบริษัทแม่อย่าง BWG เติบโตขึ้นไปได้แบบคลีนๆตามแผนหรือเปล่า อันนี้ก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อ
สวัสดีครับ...
ติดตามบทความดีๆของพวกเราได้ทาง WEBSITE
หรือ BLOCKDIT
และช่องทางใหม่ YouTube ‼️
- - - -
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
โฆษณา