9 ส.ค. 2020 เวลา 03:02 • ครอบครัว & เด็ก
จิตแพทย์หนักใจ......ตอนนี้มีแต่พ่อแม่ รังแกลูก
ในยุค4.0 ที่พ่อแม่ทุกคนต้องเร่งรีบ ใช้เวลาไปกับการทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำ กว่าจะได้มีเวลาที่เป็นของครอบครัวจริงๆ ก็น้อยเต็มทน ก็ต้องฝากลูกไว้กับปู่ย่าตายาย ฝากลูกไว้กับYoutube และวีดีโอเกมส์
4
เมื่อเด็กๆโตขึ้นมา โดยที่ไม่ได้หล่อหลอมอย่างถูกต้อง ไม่มีใครอบรมว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควรทำ แถมยังถูกผู้ใหญ่ตามใจอย่างหนัก เวลาว่างก็ซึมซับความรุนแรงจากวีดีโอเกมส์และ Youtube
สุดท้ายก็กลายเป็นดังเช่นนิทานเรื่อง "พ่อแม่รังแกฉัน".....
เพราะไม่เคยถูกขัดใจ ไม่เคยสอนให้รู้จักความอดทน สิ่งต่างๆเหล่านั้นได้สร้างเด็กตัวเล็กๆให้กลายเป็นคนที่เปราะบาง รักสบาย ใครขัดใจไม่ได้ ก็พร้อมจะระเบิดอารมณ์ หากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ระเบิดอารมณ์ใส่ผู้อื่นไม่ได้ ก็ระเบิดใส่ตัวเอง...
สุดท้ายกลายเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุด.......
เหตุการณ์แบบนี้ในประเทศไทยและไต้หวัน เรียก " สตอรอเบอรี่เจนเนอเรชั่น" แม้ภายนอกจะดูสวยงาม น่ารัก แต่ข้างในมีความเปราะบางสูง พร้อมจะแตกหักได้ตลอดเวลา
ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศจีนยุคจีนเดียว คือ สามารถมีลูกได้เพียงคนเดียว ประกอบกับวัฒนธรรมที่คนจีนจะรักลูกผู้ชายมากเป็นพิเศษ ทำให้ครอบครัวที่มีลูกชายคนเดียวของครอบครัวจะได้รับการเลี้ยงดูแบบตามอกตามใจ ราวกับพระราชา บางคนรักลูกมากจนไม่กล้าตักเตือน ไม่กล้าทำโทษเวลาลูกทำผิด ทำให้เด็กขาดการเรียนรู้เรื่องมารยาทและความเกรงอกเกรงใจผู้อื่น เด็กจะไม่เคยถูกขัดใจ ส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ในประเทศจีนเรียก "ฮ่องเต้ซินโดรม" หรือกลุ่มอาการฮ่องเต้
กลุ่มอาการสตอรอเบอรี่เจนเนอเรชั่น หรือ ฮ่องเต้ซินโดรม จะมีอาการเอาแต่ใจตนเองสูง ไม่มีความอดทน ไม่เห็นความสำคัญของมารยาททางสังคม เด็กเหล่านี้จะขาดความภาคภูมิใจในตนเอง ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับการยอมรับ (approve)​ จากคนอื่นและสังคม จึงไม่แปลกที่จะยอมทำอะไรที่ผิดมารยาท ผิดระเบียบ หรือแม้กระทั่งผิดกฎหมาย เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากสังคม หรือได้รับยอดไลค์สูงๆจากโซเชียล เน็ตเวิร์ก
1
สาเหตุของอาการเหล่านี้ เกิดจากการที่ พ่อแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายตามใจหลานมากเกินไป ไม่สอนให้เด็กรู้จักความอดทน และขาดการใช้เหตุผลการการตัดสินใจ ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ รวมถึงการพัฒนาที่ไม่ได้ค่อยเป็นค่อยไปตามพัฒนาการ
ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ จิตแพทย์ แนะใช้วิธีฝึกความอดทน รู้จักการรอคอย เพื่อรักษาอาการเหล่านี้
พ่อแม่ต้องฝึกให้ลูกรู้จักการรอคอย รู้จักความอดทน บางครั้งทำให้เด็กทำความดีเพื่อแลกกับของรางวัล อย่าไปช่วยลูกมากไป หลายครอบครัวกลัวลูกลำบาก ทำให้ต้องช่วยแทบทุกอย่าง เด็กจัะยิ่งทำอะไรไม่เป็น ไม่อดทน รอคอยไม่เป็น อยากได้อะไรก็แค่เรียกร้อง หากเด็กเหล่านี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะกลายเป็นคนโกรธง่าย ท้อถอยง่าย ทำสิ่งใดก็ไม่สำเร็จ มักโทษตัวเองหรือคนอื่น หรือโทษโชคชะตา มากกว่าโทษตนเอง
ความอดทนเป็นวุฒิภาวะอย่างหนึ่งที่ทุกคนควรมี คนที่ขาดความอดทน มักจะมีสภาวะทางจิตใจและท่าทางเป็นเด็ก จิตที่มีความอดทน จะทำให้เราอดทนทางกายและทางวาจาได้มากขึ้น
บางคนชินต่อการบ่น ทำอะไรเหนื่อยหน่อยก็บ่น ยิ่งบ่นมากเท่าไร ก็จะยิ่งไม่อดทนมากเท่านั้น พาลจะเลิกทำกิจกรรมนั้นอยู่เรื่อยๆ หากเราบ่นมัวแต่ถึงความเหนื่อยยาก เหมือนเป็นการเปิดประตูจิตใจรับฟังความอ่อนแอของตนเอง ทำให้เชื่อว่าตัวเองอ่อนแอ ไม่สู้พร้อมจะแพ้และไม่อดทน
ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ กล่าวว่า ใครที่มีความอดทนจะได้เปรียบในทุกๆ ด้านของชีวิต จากความอดทนจะทำให้เราอดกลั้นได้มากขึ้นทั้งทางกาย วาจา และทางความคิด ทั้งอดทนและอดกลั้น จะทำให้เราเป็นคนกล้าหาญ ยืนหยัดในโลกได้อย่างมั่นคง ไม่เปราะง่ายเหมือนคนอื่นๆ ใครได้พบเห็นก็ชื่นชม และเราก็จะภูมิใจตัวเองว่ามี “เหรียญตราของความกล้าหาญ” ประดับอกเสื้ออยู่ตลอดไป
รักและปรารถนาดี จาก "เรื่องเล่าเม้าท์ไปเรื่อย"....
โฆษณา