วัดภุมรินทร์กุฎีทอง อัมพวา
วัดภุมรินทร์กุฎีทอง ตั้งอยู่ริมน้ำฝั่งแม่กลอง ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากคือ “กุฎิทอง” เป็นเรือนไม้สักทองขนาดใหญ่ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจมากแห่งหนึ่งในอัมพวา
ตามประวัติของเรือนไม้สักหลังนี้กล่าวว่า …
ต้นตระกูล ณ บางช้าง เคยมีนิวาศน์สถานบ้านเรือนอยู่แขวงบางช้าง บริเวณวัดจุฬามณี หรืออำเภออัมพวาในปัจจุบัน … บุคคลในตระกูลนี้มีฐานะดีในระดับเศรษฐี หลายคนรับราชการ และได้ตำแหน่งเป็นถึงเจ้าเมืองก็มี เช่น พระแม่กลองบุรี (เสม) ต้นตระกูลวงศ์ศาโรจน์ พระแม่กลองบุรี(ศร)
คนในตระกูลนี้ท่านหนึ่ง คือ “เศรษฐีทอง” มีบุตร ธิดาหลายคน … “นางสาวนาค” เป็นกุลสตรีจากตระกูลนี้ที่มีความงามเป็นที่เลื่องลือ จนล่วงรู้ไปถึงพระกรรณของพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงศรีอยุธยา จึงโปรดให้เจ้าเมืองราชบุรีไปสู่่ขอต่อบิดามารดาด้วยสมัยนั้นเมืองสมุทรสงครามเป็นหัวเมืองขึ้นต่อเมืองราชบุรีส่วนเมืองราชบุรีเป็นหัวเมืองชั้นโท
ท่านเศรษฐีทองและภรรยาได้บ่ายเบี่ยงว่าขอถามความสมัครใจของธิดาก่อน และนำความไปปรึกษาพระแม่กลองบุรี (เสม) เจ้าเมืองแม่กลองซึ่งเป็นญาติก่อน
นางสาวนาค ธิดาเศรษฐีทอง ไม่สมัครใจเป็นนางสนมในวัง … ท่านเศรษฐีทองสงสารธิดา จึงพร้อมด้วยเจ้าเมืองสมุทรสงครามนำความเข้าหารือกับหลวงพินิจอัษร (ทองดี) เสมียนตรามหาดไทย
หลวงพินิจอักษร พิจารณษแล้วว่า “นายทองด้วง” บุตรชายได้บวชเรียนแล้วยังไม่มีคู่ครองหากได้ธิดาเศรษฐีทอง ซึ่งเป็นหญิงอุดมไปด้วยทรัพสมบัติและรูปสมบัติ มาเป็นภรรยาก็นับว่าเหมาะสมกันยิ่งนักเพราะฝ่ายชายก็รูปงาม มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด และรับราชการในวัง … จึงเป็นความเหมาะสมกันดียิ่ง อักทั้งยังเป็นเกราะป้องกันมิให้ธิดาของท่านเศรษฐีตกไปเป็นสนมในวัง
จากนั้น จึงได้ทำฎีกาเข้ากราบทูลว่าธิดาของท่านเศรษฐีบางช้าง ได้รับการสู่ขอให้นายทองด้วงบุตรชายแล้ว จึงขอพระราชทานให้แก่บุตรของตนเสียเถิด … พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานอนุญาติให้วิวาห์ได้ตาม
เศรษฐีทองจึงชวนภรรยาและธิดาไปทำบุญที่วัดบางลี่บน และขอให้สมภารตรวจโชคชะตาราศี และกำหนดวันวิวาห์มงคล สมภารตรวจดูแล้วจึงได้กล่าวกับเศรษฐีทั้งสองว่า ธิดาของท่านเสรษฐีจะมีบุญวาสนามากถึงขั้นจะได้เป็นนางพญามหากษัตริย์ ยกวงศ์ตระกูลให้เป็นสุข และเป็นที่พึ่งแก่คนทั้งหลาย …. เศรษฐีทองกล่าวว่าถ้าเป็นจริงจะสร้างกุฎีทองถวาย
ธิดาท่านเศรษฐีทองได้วิวาห์มงคลกับนายทองด้วงมหาดเล็ก ในกาลต่อมา
นายทองด้วงมหาดเล็ก ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งหลวงอร่ามฤทธิ์ หลวงยกบัตรราชบุรีและสมุทรสงคราม รับราชการในกรุงธนบุรีได้เลื่อนเป็น พระราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตรวจซ้าย พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยามหาราช พระยาจักรีสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเมื่อหมดบุญพระเจ้าตากสินมหาราชได้ปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ นางสาวนาคจึงได้เป็นอัครมเหสีของพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
กุฎิทองหลังนี้ จึงสร้างโดยท่านทอง ท่านสั้น ผู้เป็นบิดามารดาของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ (เดิมชื่อนาค) พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างเมื่อปี พุทธศักราช ๒๓๒๕ ต่อมาได้บูรณะใหม่เมื่อปี พุทธศักราช ๒๔๓๑
“กุฎีทอง” … เดิมตั้งอยู่ที่วัดบางลี่บน ริมแม่น้ำแม่กลองบริเวณที่เป็น ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามในปัจจุบัน เป็นเรือนไม้ทรงไทยตกแต่งลวดลายทั้งภายในและภายนอกด้วยลายรดน้ำปิดทองตลอดทั้งหลัง จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อกุฎีทอง
ว่ากันว่า … เดิมเมื่อแรกสร้างมีทั้งหมด ๓ หลังด้วยกัน ครั้นต่อมาภายหลังวัดบางลี่บนได้กลายสภาพเป็นวัดร้างเนื่องจากที่ตั้งของวัดนั้นตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นคุ้งน้ำช่วงหักข้อศอกจึงถูกกระแสน้ำกัดเซาะตลิ่งพังกินพื้นที่วัดทำให้วัดเหลือพื้นที่น้อยลงทุกที นานวันเข้าจึงทำความเสียหายให้แก่เสนาสนะต่างๆ ภายในวัด รวมทั้งกุฎีทองที่ได้พังทลายเสียหายลง ๒ หลัง คงเหลืออยู่เพียง ๑ หลัง วัดบางลี่บนจึงกลายเป็นวัดร้างไปในที่สุด
ราวปี พ.ศ.๒๔๖๘ พระอธิการเกีย เจ้าอาวาสวัดภุมรินทร์ จึงได้รื้อกุฎีทองที่เหลืออยู่หลังสุดท้ายมาปลูกไว้ที่วัดภุมรินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ปากคลองประเวศเพชรภูมิ (ปากคลองบางลี่) ฝั่งตะวันตกของอำเภออัมพวา
ศาสนวัตถุต่างๆ ที่เคยอยู่ในวัดบางลี่บน อันได้แก่ พระประธานภายในพระอุโบสถ รอยพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูปต่างๆ ได้ถูกรวบรวมมาประดิษฐานไว้ที่วัดภุมรินทร์ด้วยเช่นกัน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาวัดภุมรินทร์จึงมีชื่อเรียกต่อท้ายว่า “วัดภุมรินทร์กุฎีทอง”
ภายในกุฏีทองเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อสัมผัสทิพย์ พระโบราณอายุกว่า 300 ปี สามารถไปกราบสักการะขอพรฝากดวงชะตากับหลวงพ่อสัมผัสทิพย์กันได้
เราไปเดินดูสิ่งของต่างๆที่สวยงามในห้องต่างๆภายในกุฎีทองกันนะคะ
ชอบสิ่งของทีีจัดแสดงไว้มากมายค่ะ ... โดยเฉพาะสิ่งนี้ ที่ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่เป็นแท่นบุษบกที่ภายในบรรจุสิ่งที่้หมือนพระบรมสารีริกธาตุ และมีพระพุทธรูปองค์เล็กอยู่ด้วย
พระพุทธรูป
สิ่งของเครื่องใช้โบราณ คงเป็นของสะสมของใครบางคน
ห้องอีกด้านหนึ่งของกุฎีทอง ...
อีกมุมหนึ่ง
อีกมุมหนึ่ง
ห้องที่จัดแสดงเครื่องแต่งกายองนางรำ ... ไม่แน่ใจว่าสำหรับคนที่มาเยือน เพื่อใส่ถ่ายรูปหรือเปล่านะคะ
หุ่นนกระบอก
ภายในพระอุโบสถ “วัดภุมรินทร์กุฎีทอง”
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
