11 ส.ค. 2020 เวลา 06:00 • การเมือง
เบื้องลึก! ฮ่องกงจับ ‘จิมมี่ ไหล่’ เจ้าพ่อสื่อ ทำไมหุ้นบริษัทยังพุ่งแรง?
การจับกุม “จิมมี่ ไหล่” เจ้าพ่อธุรกิจสื่อและนักกิจกรรมสนับสนุนประชาธิปไตยชื่อดังชาวฮ่องกง ถือเป็นผู้ต้องหารายล่าสุดภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ มาทำความรู้จักวีรกรรมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาและทำไมหุ้นบริษัทสื่อของเขายังพุ่งแรงกว่า 300%
เบื้องลึก! ฮ่องกงจับ ‘จิมมี่ ไหล่’ เจ้าพ่อสื่อ ทำไมหุ้นบริษัทยังพุ่งแรง? | กรุงเทพธุรกิจ
เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (10 ส.ค.) ตำรวจเขตบริหารพิเศษฮ่องกงจับกุมตัว จิมมี่ ไหล่ หรือ ไหล่ จี๋ เย็ง วัย 71 ปี และคนอื่น ๆ อีก 6 คน โดยตั้งข้อหาว่าละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกง โดยตำรวจฮ่องกง ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 7 คน รวมถึงเจ้าพ่อสื่อฮ่องกง มีอายุตั้งแต่ 39-72 ปี ถูกจับกุมในข้อหาต้องสงสัยว่า “สมรู้ร่วมคิดกับกำลังจากต่างชาติ” รวมถึงสมคบคิดเพื่อฉ้อฉลและปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ
“ผมพร้อมเข้าเรือนจำแล้ว” เศรษฐีวัย 71 ปีเผย “ถ้าวันนั้นมาถึง ผมจะได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่ยังไม่เคยอ่าน สิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้คือ มองโลกบวก”
- จิมมี่ ไหล่ เจ้าพ่อสื่อฮ่องกง ถูกตำรวจจับกุมตัวถึงบ้านพัก เมื่อวันที่ 10 ส.ค. -
การที่ไหล่ถูกจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะหลายปีที่ผ่านมา เขาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงที่มีชื่อเสียง และยังเป็นนักวิจารณ์รัฐบาลปักกิ่งตัวยงด้วย
นักธุรกิจรายนี้เคยถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นปีนี้ ฐานเข้าร่วมการชุมนุมผิดกฎหมาย พร้อมกับแกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยคนอื่น ๆ โดยเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงเมื่อปีที่แล้ว
แต่การถูกจับกุมครั้งนั้นไม่ได้สั่นคลอนอุดมการณ์ของเจ้าพ่อสื่อฮ่องกงรายนี้ เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อเดือน พ.ค.ว่า จะยังคงปักหลักอยู่ในฮ่องกงเพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป แม้รู้ว่าตัวเองคือหนึ่งในเป้าหมายที่รัฐบาลจีนจ้องใช้กฎหมายความมั่นคงเล่นงานก็ตาม
📌 วีรกรรมเจ้าพ่อสื่อคู่อริปักกิ่ง
ฉายาเจ้าพ่อสื่อของนักธุรกิจวัย 71 ปีมาจากการเป็นเจ้าของบริษัท “เน็กซ์ ดิจิทัล” (Next Digital) ที่มีสื่อชื่อดังอยู่ในมืออย่างหนังสือพิมพ์ “แอ๊ปเปิ้ล เดลี่” (Apple Daily) และนิตยสาร “เน็กซ์ แมกกาซีน” (Next Magazine) ซึ่งวางจำหน่ายในฮ่องกงและไต้หวัน
ช่วงที่มีการประท้วงในฮ่องกงเมื่อเดือน ก.ย. ปีก่อน ไหล่ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ผู้ชมนุมประท้วงในฮ่องกงพร้อมที่จะตายเพื่อสิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง นั่นคือ “ประชาธิปไตย” และอาจได้เห็นปฏิบัติการปราบปรามประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่งอีกครั้ง หากสถานการณ์เป็นเช่นนั้น โลกทั้งใบจะหันมาเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลปักกิ่ง
อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์ประท้วงครั้งนั้นไม่ได้ลงเอยถึงขั้นนองเลือดรุนแรงเหมือนกับเหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมิน แต่ก็มีผู้ประท้วงและตำรวจได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมากจากเหตุการณ์ปะทะระหว่าง 2 ฝ่ายที่ยืดเยื้อหลายเดือน
ก่อนจะเป็นเศรษฐีธุรกิจสื่อ ไหล่ซึ่งเกิดในมณฑลกวางโจวของจีนก่อนย้ายมาตั้งรกรากในฮ่องกงตั้งแต่อายุ 12 ปี เริ่มต้นทำงานในโรงงานเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง และเมื่ออายุได้ 25 ปี เขาได้เปิดธุรกิจเสื้อผ้าเป็นของตัวเองด้วยการรับผลิตเสื้อกันหนาวให้บรรดาผู้ค้าปลีกในสหรัฐจนประสบความสำเร็จ และก่อตั้งเสื้อผ้าแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง “จิออดาโน” (Giordano) เมื่อปี 2524
แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ปราบปราบนักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2532 ไหล่จึงตัดสินใจเลิกธุรกิจเสื้อผ้าที่กำลังรุ่งเรือง มาทำธุรกิจสื่อแทน เพื่อเป็นกระบอกเสียงในการเรียกร้องประชาธิปไตย
ที่ผ่านมา เจ้าพ่อสื่อฮ่องกงรายนี้มีบทบาทอย่างมากในการประสานงานการประท้วงต่อต้านทั้งในฮ่องกงและไต้หวัน โดยหนังสือพิมพ์แอ๊ปเปิ้ล เดลี่ มักจะนำเสนอข่าวไปในทางเดียวกับผู้ประท้วง
ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส (Forbes) ระบุว่า ไหล่มีความมั่งคั่งลดลงอย่างต่อเนื่องจากที่เคยรวยที่สุดในฮ่องกงด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1,200 ล้านดอลลาร์ในปี 2551 เหลือไม่ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ไหล่เคลื่อนไหวเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้นานาชาติเข้ามาช่วยเหลือฮ่องกง รวมถึงไปเยือนกรุงวอชิงตันของสหรัฐอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อเดือน ก.ค. 2562 ไหล่บินไปพบปะกับไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี และไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐถึงกรุงวอชิงตัน เพื่อหาแนวร่วมสนับสนุนประชาธิปไตยฮ่องกง และยิ่งตอกย้ำว่า เจ้าพ่อสื่อรายนี้เป็นคนพิเศษของสหรัฐ ขณะที่ปักกิ่งตราหน้าเขาว่า “คนขายชาติ”
โฆษณา