12 ส.ค. 2020 เวลา 07:04 • การศึกษา
เจริญพร วันนี้มีเรื่อง เรือรั่ว มาเล่าให้พวกเราฟัง
คือมีครอบครัวหนึ่ง ชอบไปพายเรือเล่นในทะเลสาบช่วงฤดูร้อน ของฝรั่งฤดูกาลจะเปลี่ยนแปลงชัด ร้อนก็ร้อนเลย หนาวก็หิมะตก หน้าร้อนเขาก็จะชอบไปตั้งแคมป์ไปพักไปเล่นกัน ครอบครัวนี้มีบ้านพักในช่วงฤดูร้อนอยู่ในกลางท้องทุ่ง และมีทะเลสาบก็ไปพายเรือเล่นกัน
พอจะหมดช่วงพักฤดูร้อน ก็ลากเรือขึ้นมาบนบก แล้วพ่อก็พบว่าเรือมีรูรั่วอยู่ แต่ก็คิดว่า เดี๋ยวไว้ปีหน้าค่อยซ่อมก็แล้วกัน ไว้ซัมเมอร์หน้าฤดูร้อนปีหน้าค่อยซ่อม แต่ก็เห็นสีเรือซีดมากก็เลยไปตามช่างสีมาช่วยทาสีให้ พอถึงปีหน้ามาทะเลสาบอีก
ระหว่างที่พ่อกำลังทำงานง่วนอยู่ที่บ้านนั่นเอง ทางภรรยาและก็ลูกๆอีก 2 คน ก็เอาเรือลงไปพายเล่นในทะเลสาบ อีกสักพัก พ่อนึกได้ รูมันรั่วยังไม่ได้ซ่อม ลูก 2 คนก็ว่ายน้ำไม่เป็นด้วย ตกใจใหญ่รีบวิ่งไปที่ทะเลสาบ
ปรากฏว่าเห็นภรรยากับลูกยังพายเรือเล่นสบายอกสบายใจ นึกขึ้นมารู้ทันทีว่า ทำไมเรือถึงไม่จม แล้วก็รีบไปตามช่างทาสีมา พร้อมกับมอบของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้ ขอบคุณที่ช่างทาสีเห็นรูรั่วแล้วซ่อมรูไว้ให้ด้วย ภรรยาและลูกตัวเองก็เลยปลอดภัย เรื่องนี้ให้ข้อคิดเรา 2 อย่างนะ คือ
1. อย่าดูเบา
เห็นเหตุสิ่งใดเป็นช่องโหว่ช่องว่างเป็นจุดอ่อนละก็ รีบแก้ไขทันทีอย่าผัดวันประกันพรุ่ง เดี๋ยวเรื่องเล็ก ๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ ไม้ขีดก้านเดียวยังเผาเมืองได้เลย
2. คืออย่าดูดาย
บางอย่างไม่ใช่หน้าที่เราเองโดยตรง แต่ถ้าเกิดเห็นว่าสิ่งใดพอจะทำได้ แก้ไขได้ ไม่ได้หนักหนาสาหัสเกินไป ช่วยกันเถอะคนละไม้คนละมือ สำรวจให้ดีเราจะพบว่าชีวิตของเรารอดปลอดภัยมาถึงปัจจุบันนี้ได้ ด้วยการไม่ดูดายของคนอีกหลายๆ คนทีเดียว
ถ้าสังคมอยู่ด้วยความมีน้ำใจต่อกันอย่างนี้แล้วละก็ (สังคม)จะน่าอยู่ และทุกคนก็จะมีความสุข
เจริญพร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา