บทเรียนและข้อคิดดีๆที่ได้จาก CEO of Airbnb, Brian Chesky
จากเหตุการณ์ Laid-off พนักงานเกือบ 25% ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
วันและเวลาก็ผ่านเลยไปตั้งแต่ 5 พฤษภาคม 2020 นี่ก็เกือบ 3 เดือนแล้วนะ กับเหตุการณ์ปลดพนักงานออกแบบฟ้าผ่าเกือบ 25% ของ Airbnb หรือ 1,900 คนจาก 7,500 คน (แต่บริษัทคู่แข่งของเค้าเองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน)
สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการย่อยข้อคิดดีๆ และบทเรียนนี้ออกมาตะหากเนอะ
ไม่ใช่ว่าช้างตัวใหญ่จะล้มกันง่ายๆ
เรามีโอกาสไปอ่านการวิเคราะห์ดีๆมา และจะนำมาผสมเข้ากับการวิเคราะห์ของเราเอเช่นกัน งั้นไปย่อยข้อคิดดีๆกันเลย :)
ปล. ขออนุญาตไม่พูดถึงจดหมายจาก CEO, Brian Chesky น้าเพื่อนๆ เพราะว่าใน Blockdit มีพี่ๆหลายคนได้เขียนสรุปไว้ดีมากๆเลยละ เราอ่านมาหมดแล้ว ^^
1. อย่าทำให้พนักงานต้องโทษตัวเอง
- ลองนึกว่าเป็นตัวเพื่อนๆดู เพื่อนๆทำงานแบบเซียนมาก อยู่มาวันนึงเกิด Covid แล้วเพื่อนๆเป็นคนที่สุ่มโดนจ้างออก..........อนาคตดับวูปในพริบตา
- สิ่งแรกที่เราจะต้องรู้สึกก่อนแน่นอนคือ อารมณ์มาก่อนเหตุผล "ทำไมเป็นชั้น? "แต่ชั้นทุ่มเทมากเลยนะ" "หรือว่าชั้นมันไม่มีคุณค่า?"
สิ่งที่ Brian ทำคือ ?
- ในช่วงระหว่างวันที่ Brian เขียนจดหมายแจ้งพนักงาน
- เค้าได้พยายามลงไปพบปะกับพนักงาน เพื่อเช็คความรู้สึก (รวมถึงให้หัวหน้าทีมจากประเทศต่างๆทำแบบนี้เช่นกัน)
- โดยที่ทุกคนต้อง make sure ได้ว่า พนักงานในทีมของคุณที่โดนกระทบ จะไม่รู้สึกแย่ หรือ หมดกำลังใจในตัวเอง เพราะมันไม่ใช่ความผิดของเค้า :)
2. อย่าลืมกลับมา Reflect เป้าหมายของบริษัท
- เวลาเกิดเหตุการณ์ที่สะเทือนใจแบบนี้ แน่นอนว่า นอกจากลูกน้องแล้ว คนที่เป็นเหล่าหัวหน้าทีมที่ต้องเป็นคนเผชิญหน้าบอกความจริงกับลูกทีมนี้แหละ ที่น่าจะจิตตกและอาจจะเกิดภาวะ หลุดลอย ได้มากที่สุด
สิ่งที่ Brian ทำคือ ?
- Reflect ถึง mission statement กับเหล่าผู้นำของทีมต่างๆ รวมถึงพนักงานอีก 75% ที่ยังคงดำเนินชีวิตในบริษัทต่อ
- Brian ไม่พูดถึงเรื่องตัวเลข และเค้าไม่ได้เพิ่ม Target แต่อย่างใด แต่ Brian ได้ย้ำถึงว่า ทำไม Airbnb ถึงยังอยู่ ? และเราสร้างประโยชน์อะไรได้มากกว่า
3. เปิดเผย และ โปร่งใส กับขั้นตอนของการสุ่มจ้างพนักงานออก
- เพื่อนๆคงจะเดาได้ว่า หากบริษัทปิดบังอะไร หรือมีความไม่เป็นธรรมกับพนักงานละก็ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ การที่พนักงานสร้างเรื่องสมมุติขึ้นมา (Assumption)
- นั้นคือการสร้างข่าวลือ การ gossip ด้วยความไม่พอใจก็จะตามมาอีกเช่นกัน
สิ่งที่ Brian ทำคือ ?
- Brian ได้เปิดเผยขั้นตอนทั้งหมด (decision-making process) ว่าทำไมเค้าถึงใช้วิธีการสุ่มพนักงานออกแบบนี้ ? แล้วคนที่ออกไปจะได้อะไรบ้าง ?
- รวมถึงเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นอีกไหม? งบดุลของบริษัทในตอนนี้ ? และการที่ laid-off 25% ของพนักงาน สามารถช่วยอะไรกับคนที่ยังเหลือและองค์กรอย่างไรบ้าง?
4. อย่าทำตัวอวดฉลาด หรือ รู้ดีที่สุด
- เพื่อนๆชอบไหม เวลาที่มีคนคอยมาตอกย้ำเราเวลาเราทำผิด ด้วยประโยคที่ว่า "เห็นไม๊ ? บอกแล้ว" "ชั้นเตือนแล้ว" "ชั้นรู้ดีที่สุดเพราะชั้นทำมานาน"
- นอกจากจะ demotivate แล้ว ยังไม่มีผลดีอะไรเกิดขึ้นอีกด้วย
สิ่งที่ Brian ทำคือ ?
- Brian ได้บอกกับพนักงานตรงๆเลยว่า เค้าไม่ได้อัจฉริยะไปกว่าพวกเค้าหรอก เค้าเองก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่า โลกแห่งการท่องเที่ยวจะกลับมาเปิดเสรี หรือคึกคักได้อีกเมื่อไร ?
- เรามาเรียนรู้ไปด้วยกันนะ :)
5. Feedback is a gift !
- เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการกระทำที่เรา(และหัวหน้าทีมต่าง) ทำไปแล้วเป็นผลดีจริงๆ ไม่ใช่ว่าเราคิดเองนะ ?
สิ่งที่ Brian ทำคือ ?
- Brian พยายามที่จะเข้าใจพนักงานให้มาก จากการสอบถามความรู้สึกของพนักงาน ที่ยังทำงานอยู่ในองค์กร ต่อสิ่งที่เค้าอ่านในจดหมายของ Brian
- Brian ยังถาม feedback ของพนักงานว่า ถ้ารู้สึกไม่ดี งั้นเค้าควรจะทำอย่างไร หรือปรับตรงไหนได้บ้าง ?
- ซึ่งแน่นอนว่า เหล่าพนักงานไม่ได้รู้สึกแย่กับสิ่งที่ Brian ตัดสินใจไป รวมถึงข้อความในจดหมายก็ชัดเจนมากๆ Brian จึงรู้ว่า พวกเค้าแค่รู้สึกอกหัก เสมือนคนในครอบครัวจากไปนี่เอง
6. ถึงคู่แข่งที่กำลังมอง Profile ของพนักงานเก่าของผม พวกคุณจะโชคดีสุดๆถ้าได้พวกเค้าไป
- คงไม่มี Cover letter ไหนดีเท่ากับ CEO ออกมาช่วยแนะนำเองแล้วละเนอะ
สิ่งที่ Brian ทำคือ ?
- Brian ได้เปิดเผยถึงเรื่อง Scarcity mindset ที่เค้าและทีม HR มีในเรื่องของการจ้างพนักงาน และการสัมภาษณ์
- Brian ยังได้เน้นย้ำกับประโยค "the people that are being let go are talented"
- และยังทิ้งท้ายอีกว่า บริษัคู่แข่งของผมคงจะได้เปรียบผมแน่นอน หากพวกเค้าได้พนักงานเก่ากลุ่มนี้ไปร่วมงาน
- โดยในเว้ปของ Airbnb ยังมีหน้าเว็ปที่ให้ ex-employee นำ resume หรือ profile มาลงทิ้งไว้ เพื่อให้บริษัทอื่นๆมาดูและติดต่อได้
https://www.airbnb.com/d/talent
7. ผลงานของพนักงานที่ออกไปแล้วจะถูก credit และ honor ชื่อของพวกเค้าเอาไว้
สิ่งที่ Brian ทำคือ ?
- ถึงแม้ว่าพนักงานคุณภาพสูงหลายคนจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ แต่ผลงานของพวกเค้าจะไม่ได้จางหายไปไหน โดย Airbnb จะมีการ credit ชื่อของพวกเค้าเหล่านี้ไว้เสมอ
- ไม่เพียงแต่เรื่องผลงานเท่านั้น Brian ยังบอกว่าก็เพราะชื่อของพวกคุณถูก honor เอาไว้ ถ้าในอนาคต ธุรกิจตลาดท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก แล้วเรากลับมาจ้างพนักงานในจำนวนเท่าเดิม คุณจะได้สิทธ์กลัมาทำงานได้ทันทีเลยด้วย !
ก่อนจบตรงนี้เราขอสรุปในส่วนของสิ่งที่ Brian ได้ทำเอาไว้ แล้วย่อยเป็นบทเรียนข้อเล็กๆไว้อีกตรงนี้นะ
- Brian ไม่ได้ keep look ของ CEO เลย เค้าทำให้ทุกคนเห็นสภาพของเค้าว่า เค้าเสียใจแค่ไหน อิดโรยอดหลับอดนอนแค่ไหน และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ
- Brian มีนโยบายยก Laptop ของบริษัทให้กับพนักงานไปเลย (แต่คงมีการขอนำกลับไปล้างข้อมูล) ถือว่าเป็นสิ่งที่เค้าพอจะช่วยเหลือได้
- Brian และเหล่า Chief และ Co-founder ได้ทำการลดเงินเดือนตัวเอง และนำไปสมทบกับพนักงานที่ยังเหลือ (เราคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นสิ่งสากลที่ ผู้นำหลายๆบริษัททำนะ ของเราเค้าก็ทำเหมือนกัน)
สรุปสั้นๆว่า
- ในสถานการณ์ที่แย่ และ ตึงเครียด นั้นแหละคือโอกาสที่เราจะพิสูจน์ความเป็นผู้นำที่จริงใจ
- Empathy มีบทบาทสำคัญมากกับ leadership qualities
- ความโปร่งใส (transparency) สำคัญในการควบคุมข่าวลือหรือ gossip ได้ดีที่สุด
- และการยอมรับความจริงที่เจ็บปวด (mentally pain) คือสิ่งที่ leader หลายคนล้มเหลวมากที่สุด (เพราะว่าพูดง่ายแต่ทำยากที่สุดนั้นเอง)
References:
- การย่อยข้อคิดส่วนบุคคลของผู้เขียน (เราเอง) จากการอ่านจดหมาย และกรณีศึกษาต่างๆเกี่ยวกับ Airbnb และ Brian Chesky
- 15
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
