Blockdit Logo (Mobile)
Simple Journey
•
13 ส.ค. 2020 เวลา 12:16 • ธุรกิจ
Beats by Dr. Dre แบรนด์หูฟังสาย Fashion กับเส้นทางของความสำเร็จ
Beats ยังเป็นบริษัทที่ Apple ซื้อมาด้วยมูลค่าที่มากที่สุดอีกด้วย !
มาดูบทเรียนทางการธุรกิจที่ดีกัน
ถ้าพูดถึงหูฟังแบบ Headphone ของ Beats by Dr. Dre’s แล้วเพื่อนๆจะนึกถึงอะไรกันบ้าง ?
ของเราก็จะนึกถึง ความ Hip-hop ที่มี Style และความ Luxury อยู่
และมันก็ดูน่าดึงดูดนี่
สารภาพว่าเราเป็นแฟนคลับของ Bose และ Harman Kardon
แต่ทุกครั้งที่เห็นหูฟังของ Beats เนี่ย หื้มมม ละสายตาและความอยากไปได้ยากจริงๆ
งั้นเรามาเริ่มย่อยกันเลยดีกว่า
Beats เริ่มต้นจากนักร้อง Rapper จนไปสู่วงการเทคโนโลยีแห่งเสียง
- Dr.Dre Rapper ชื่อดังก่อตั้งบริษัท Beats Electronics LLC ร่วมกับ Jimmy Iovine ในปี 2006
- และในปี 2011, NPD Research group ได้ออกมาเปิดเผยว่า Beats Electronics กินแชร์เกือบ 64% ของตลาดผู้ใช้หูฟังของอเมริกาเลย !
- โด่งดังขนาดนี้มีเหรอที่เจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจเทคโนโลยีอย่าง Apple จะไม่สนใจ
ในวันที่ 1 สิงหา 2014, Apple จึงได้ประกาศซื้อบริษัท Beats Electronics ด้วยเงินสด 3 พันล้านดอลล่าร์ และยังมีมูลค่าในตลาดหุ้นอีก
Jimmy Iovine & Dr.Dre
ไม่น่าเชื่อว่าแค่การ Design ของ Beats ก็ทำให้ลูกค้าซื้ออย่างถล่มทลาย
- แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่การ Design ธรรมดาๆ ในหลายๆรุ่นของ Beats ได้ถูก Design ให้เข้ากับอุปกรณ์การแต่งตัวชิ้นอื่นๆของเพื่อนๆ เช่น รองเท้า Air Jordans หรือ Yeezy’s
- ซึ่งแบบนี้เท่ากับว่านอกจากตลาดเพลง Hip-Hop แล้ว Beats เองยังสามารถเจาะเข้าไปในกลุ่มตลาดของ Nike และกลุ่มคนออกกำลังกายได้อีกเช่นกัน
- ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ North Star ของ Beats by Dr.Dre เค้าไม่ใช่แค่การเป็นหูฟังที่มี Style มากที่สุด แต่คือเค้าต้องการเป็นเครื่องประดับบนร่างกายสุด Fashion ที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
เส้นทางการ Partnerships ที่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง !
- ต้องบอกเลยว่า อย่างที่เพื่อนๆสงสัยในใจว่าทำไม Rapper ถึงเปลี่ยนมาทำธุรกิจหูฟังที่ใส่เทคโนโลยีและการ design แค่นี้แล้ว ดังเลย รวยเลยเหรอ ?
- ถ้าขาด Partnerships ที่ดีไป ก็อาจจะไม่ทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงได้รวดเร็วแน่นอน
- เริ่มต้นจาก นักร้องและ Producer 3 คนเจ้าของแบรนด์นี้อย่าง Jimmy Iovine, Luke Wood, และ Dr. Dre
- สู่การ Partner กับ HTC Phone โดย HTC ได้เข้ามาลงทุนในหุ้นส่วนเกือบ 50.1% หรือ 309 ล้านดอลล่าร์ในปี 2011
Beats & HTC
- Partner กับ HP Laptops ออก notebook รุ่น Limited HP Envy
HP Envy 15 Beats Limited Edition laptop
- และสุดท้ายคือ Apple เข้ามาซื้อแชร์ของ Beats ต่อ
โดยเริ่มจากการซื้อผลิตภัณฑ์ของ Beats Headphone แล้วค่อยๆพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ โดย Apple เห็นโอกาสทางเทคโนโลยีในธุรกิจหูฟังเอาซะมากๆเลยละ
- หลังจากที่ Apple เทคโอเวอร์ไปแล้ว เค้าก็สามารถดูแล Beats ให้เติบโตมาได้อย่างดีเลยละ และด้วย Apple ecosystem ที่มีกับลูกค้าอยู่แล้ว การที่เค้าจะขาย Fashion quality headphone อย่าง Beats นี้ไม่ยากเลย
Beats ไม่ได้อยู่แต่ในร้าน Apple store แต่เค้าได้อยู่ในทุกๆ Entertainment Media เลยตะหากละ
- TV ads, Video games, Billboard เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ที่อเมริกานะ แต่ว่า อย่างที่ไทยเรายังพบเห็นได้ทั่วไปเลยละ เรียกได้ว่า Beats เค้าต้องการให้คนเห็นเค้าในสถานที่สาธารณะง่ายๆนี้ละ
- Beats เคยเป็น 1 accessory และ Background ในบอร์ดเกมส์อย่าง Monopoly และ เกมส์ Basketball อย่าง NBA 2K20
Monopoly EMPIRE
NBA 2K20 with Beats Play Yard
- Music videos ของศิลปินอย่าง Billie Eilish’s หรือ Hailee Steinfeld's
เรียกได้ว่า อยู่ทุกๆ Pop Culture เลยละ
Billie Eilish’s Lovely ft. Khalid,
Hailee Steinfeld's , Rock Bottom
- การเพิ่มความ Popular โดยการใช้งานของเหล่า Sport Celebrities อย่าง
Anthony Joshua, Serena Williams, Eden Hazard, และ Lebron James
คือ มีทั้งโฆษณาผ่านนักกีฬา รวมถึงนักกีฬาที่เลือกใช้งานเองด้วย
ภาพเหล่านี้ของค่อนข้างสร้างความ Viral ให้กับ Beats มากๆ เดินเกมส์ดีจัง
Eden Hazard สมัยอยู่ Chelsea
Lebron James
- ในอุตสาหกรรมหนังก็เข้าไปแจมกับเค้าด้วยนะ กับหนัง Straight Outta Compton (2015) เอ้ะ นี่มันหนังของ Dr.Dre เองนี่นา
จนมาถึงตรงนี้ เราก็จะสรุปสั้นๆได้ว่า
Beats by Dr.Dre เนี่ย มีการเติบโตที่รวดเร็วและขยายฐานของลูกค้าได้จาก
- การที่มี Brand position ที่ชัดเจนในเรื่องของการเน้นการ Fashion Design
- การที่มี Partnership ที่ดีและ Focus การบ่งบอกถึงตัวของแบรนด์ได้อย่างดีที่สุด
- และการเพิ่มมูลค่าของแบรนด์กับ การใช้ Influncer marketing ซึ่งในตัวอย่างนี้ก็พม่พ้นเหล่าศิลปินชื่อดังต่างๆ รวมถึงGaming industry
Beats รู้ดีว่าคู่แข่งของพวกเค้าอย่าง Bose, B&O, JBL หรือแม้กระทั่งแบรนด์ลูกพี่ลูกน้องอย่าง Apple Airpods สามารถกิน market share ของพวกเค้าได้โดยง่าย
และการที่เน้นไปกับการแข่งขันด้าน feature และ innovation เพียงอย่างเดียวคงไม่ทำให้พวกเค้านั้นมีความเหนือกว่าคู่แข่งได้
สำหรับ Dr. Dre แล้ว การที่วิเคราะห์คู่แข่ง ก็เพื่อที่จะมองโอกาสด้านราคาของเครื่องเสียง และ สิ่งที่คู่แข่งนั้นยังไม่ได้มีหรือยังเข้าไม่ถึง นั้นเอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา