14 ส.ค. 2020 เวลา 02:01 • ธุรกิจ
ถ้าหลังจบโควิด19 แล้วเงินไม่เฟ้อจะเป็นอย่างไร?
ถือว่าเป็นสัปดาห์ที่เศรษฐกิจโลกมีข่าวดีเกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งรัสเซียที่ประกาศขึ้น
ทะเบียนวัคซีนโควิด19 เป็นประเทศแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนในสหรัฐก็มีผลตอบแทนที่แท้จริงของพันธบัตรและอัตราการจ้างงานที่สูงขึ้น รวมถึงการอนุมัติมาตรการการช่วยเหลือต่าง ๆ แก่ภาคเอกชนของรัฐบาลทั่วโลกที่มีอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าจะยังมีความกังวลมากมายเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของวัคซีน แต่ก็พอจะ
เป็นความหวังได้ว่า หลังจากนี้ประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะสหรัฐ ยุโรป และจีนก็คงต้องเร่งวิจัยวัคซีนให้ออกมาได้โดยเร็ว เพื่อช่วงชิงความสามารถในการต่อรองและความเป็นมหาอำนาจกับรัสเซีย
ส่งผลให้ตลาดหุ้นขึ้นกันถ้วนหน้าทั่วโลก เพื่อน ๆ ที่ถือหุ้นอยู่น่าจะได้มีรอยยิ้มอีก
ครั้งกันนะครับหรือใครที่ดอยยังอยู่สูงก็น่าจะคลายหนาวไปได้บ้าง
แต่ประเด็นสำคัญคือ ต่อให้ทั่วโลกเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวแล้วจริง ๆ ก็ใช่ว่าจะฟื้นตัวได้
อย่างรวดเร็ว ซึ่งผมคงไม่ต้องสาธยายรายละเอียดนะครับว่าแต่ละภาคส่วนได้รับผลกระทบจากโควิด19 อย่างไรบ้าง
มีหลายบริษัทต้องล้มละลาย มีบางธุรกิจที่เปลี่ยนโมเดลไปเรียบร้อยแล้ว มีหลายคนที่ตกงานและต่อให้โควิด19 จบก็ไม่สามารถกลับมาทำงานแบบเดิมได้ เพราะบริษัทปิดไปแล้ว หรือลูกค้าไม่มีกำลังซื้อเหมือนเดิม
นักลงทุนหลายท่านพูดคล้าย ๆ กันว่า พวกเราจะต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง
ไปอีก 1-2 ปี เพราะการฟื้นตัวนั้นเป็นไปอย่างช้า ๆ แม้ว่าการอัดฉีดเงินจะมากมาย
มหาศาลขนาดไหน แต่มันก็ต้องใช้เวลากว่าที่มันจะเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจจริง หรือพูด
ง่าย ๆ ว่าถึงมือคนทั่วไป
แล้วหลังจากนั้นจะเป็นอย่าไรต่อ? ทุกอย่างก็จะกลับสู่สภาวะปกติเหมือนก่อนมีโรค
ระบาด ชนิดที่เหมือนเป๊ะ 100% เลยใช่ไหม? ไม่มีใครให้คำตอบที่แม่นยำได้หรอก
ครับว่ามันจะเหมือนเดิมมากแค่ไหน ก็มีหลากหลายความเห็น อย่างเช่นเรย์ ดาลิโอที่เหมือนจะพูดเป็นนัย ๆ ว่าเงินสดจะสูญค่า ซึ่งก็โดนเสียงวิพากย์วิจารณ์ค่อนข้าง
หนัก แม้แต่ผมที่เป็นคนเอามานำเสนอก็โดนหางเร่ไปด้วยว่าเชียร์จีนซะงั้น ฮ่าๆๆ
แต่ก็ดีนะครับที่ช่องของผมจะได้เป็นที่ให้เพื่อน ๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจาก
หลาย ๆ มุมมอง มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีทั้งชอบและไม่ชอบ ผมก็ขอชื่นชมนะครับที่เพื่อน ๆ เสพข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ ไม่ถูกชี้นำได้ง่าย ๆ และลงทุนในสิ่งที่
เพื่อน ๆ เข้าใจมันจริง ๆ เท่านั้น ยอดเยี่ยมมากครับ
กลับมาที่เรื่องภาวะเศรษฐกิจ งั้นวันนี้ลองมองในมุมที่ว่าหลังจบโควิด19 แล้วทุก
อย่างกลับมาได้ทั้งหมด เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันก็เป็นไปได้ แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่ยัง
ไงก็ไม่เหมือนเดิมแน่ ๆ คือ “หนี้” ครับ
ตลอดระยะเวลาเกือบปีที่ทั่วโลกต้องปิดเมือง ทำให้รัฐบาลอัดฉีดเงิน เพื่อช่วยเหลือมหาศาล ประเทศที่ปริ้นท์เงินได้ก็ปริ้นท์เงิน ประเทศที่ปริ้นท์ไม่ได้ก็กู้ คือปริมาณหนี้
ในระบบที่เดิมก็เยอะอยู่แล้วนั้นเพิ่มขึ้นมากมหาศาล ไม่ต้องมองไกลครับ
หนี้ต่อGDP ของประเทศไทยเดิมอยู่ที่ประมาณ 40%ต่อGDP พอโควิดระบาดปุ๊บก็
เพิ่มขึ้นมาชนเพดานเป็น 60%ต่อGDP และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีก จาก 40 เป็น 60 ก็คือเพิ่มขึ้น 50% นี่ขนาดประเทศเราควบคุมการระบาดได้ดีนะครับ
ประเทศที่การระบาดหนักกว่านี้ไม่ต้องพูดถึงครับ
ปัญหาคือจะใช้ยังไงไหว? คิดเล่น ๆ นะครับ (อาจไม่ตรงนิยามเป๊ะ แต่เพื่อให้เห็น
ภาพครับ)
สมมติคุณเป็นตัวแทนของประเทศไทย ให้คุณมีเงินเดือน 50,000 บาท ต้องผ่อนหนี้ 40% ก็คือผ่อนเดือนละ 20,000 บาท พอโควิดระบาด คุณก็ถูกพักงานแต่ก็ได้รับ
การช่วยเหลือให้พออยู่ได้ แล้วหลังจากโควิดหายไปคุณก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม เงินเดือน 50,000 เหมือนเดิม แต่คราวนี้คุณต้องผ่อนหนี้เป็น 60% คือเดือนละ
30,000 บาท
ใช่แล้วครับอยู่ดี ๆ ก็มีเหลือเงินใช้น้อยลงเป็นหมื่นหรือ 20% จากเงินเดือน ภาษียัง
ไม่ขึ้นโหดเท่านี้เลย เพราะพวกเราจะต้องอยู่กันแบบขัดสน เหนื่อยเท่าเดิม ได้เงินเท่าเดิม แต่ใช้ได้น้อยกว่าเดิม ถ้าไม่จัดการอะไรเศรษฐกิจจะหดตัวอย่างหนักแน่นอน
ครับ
ทางออกของปัญหานี้คือเงินเฟ้อครับคือรัฐบาลทั่วโลกจะทำให้เงินมีค่าลดลง ไม่ว่า
จะด้วยวิธีใดก็ตาม เพื่อให้คุณได้รับเงินเดือนจาก 50,000 บาทเพิ่มเป็น 75,000
บาท แล้วคุณก็จะสามารถใช้ชีวิตแบบเดิมได้กับหนี้ที่เพิ่มเป็น 30,000 บาทจาก
โควิด19
แน่นอนครับว่าราคาสินค้าทุกอย่างก็จะสูงขึ้น ฉะนั้นแม้ว่าหักหนี้แล้วในเดือนนึงคุณ
จะมีเงินใช้ถึง 45,000 บาท เยอะกว่าก่อนเกิดโควิดอีก แต่สุดท้ายมันก็ซื้อของได้
เท่าเดิมนั่นแหละครับ คุณไม่ได้รวยขึ้นหรอก
แต่มันก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่แน่นอน โลกจะฟื้นอย่างไรถ้าไม่เกิดเงินเฟ้อ? ในนี้มีเพื่อนเก่ง ๆ เยอะครับ มีใครศึกษาทฤษฎีไหนหรือเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างไร
คอมเมนท์คุยกันครับ
.
แอดปุง
โฆษณา